จากกรณีเมื่อวันที่ 18 มี.ค. เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ทำการจับกุมกลุ่มคนต่อต้านรัฐบาล คสช. และควบคุมผู้ต้องหา 8 คน พร้อมอาวุธหลายรายการ หนึ่งในนั้นคือ นายธีรชัย อุดรวิเชียร อายุ 54 ปี โดยจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่านายธีรชัย และ โกตี๋ มีการติดต่อผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ กับนายเป๊ปซี่ ชาวลาว ให้นำสิ่งของข้ามไปส่งให้กับเครือข่ายที่อยู่ใน สปป.ลาว นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 19.00 น. นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ทหาร ได้ร่วมกันสอบสวนนายหัสดี ทิพะสอน อายุ 34 ปี ชาว สปป.ลาว ซึ่งทำงานรับจ้างอยู่ที่โกดังสินค้าไม่มีชื่อ ซอยจิตตะปัญญา หมู่ 5 ถนนประจักษ์ ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย หลังจากเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบว่านายเป๊ปซี่ทำงานอยู่ที่โกดังสินค้าภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย จึงเชิญตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน นายหัสดี หรือ เป๊ปซี่ ให้การว่า ตนเข้ามาทำงานในไทยได้ 10 ปี โดยทำงานรับจ้างกับบริษัทส่งของ รับส่งสินค้าจากไทยไปลาว และตนมีภรรยาชาวไทยพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านใน หมู่ 2 ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย โดยเมื่อวันที่ 27 ม.ค. มีชายชาวลาวติดต่อทางไลน์มาหาตน พร้อมบอกว่า ชื่อ เหรียญทอง ทำงานอยู่ที่ลาวสตาร์ (สถานีโทรทัศน์ของลาว) โดยนายเหรียญทองบอกต่อว่าจะมีคนเอาของมาฝากมาให้ ให้เอามาส่งที่ลาวสตาร์ในวันที่ 30 ม.ค. ซึ่งจะมีผู้ชายโทรติดต่อตนเองและคนที่จะเอาของมาส่งจะเป็นคนขับรถเอาของมาส่งให้ที่โกดัง
หลังจากนั้นก็มีชายคนหนึ่งโทรศัพท์มาหาตนบอกว่าจะเอาของมาฝาก ตนได้บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ พบว่าขึ้นไลน์ชื่อ “ระพินทร์” จากนั้นนายระพินทร์ ได้ขับรถเก๋งสีบรอนด์ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร มีผู้หญิงนั่งมาด้วย มาที่โกดัง แล้วนำลังกระดาษ 7 ลัง แต่ละลังหนักประมาณ 20-30 ก.ก. ให้ตนรับและนำมาเก็บไว้ที่โกดัง จากนั้นวันที่ 31 ม.ค. มีรถสิบล้อจากฝั่งลาวมารับลังกระดาษทั้งหมดไปโดยตนไมได้ไปส่งเอง จากนั้นนายเหรียญทอง ได้ไลน์มาถามตนว่าของมาถึงหรือยัง ตนตอบไปว่าของส่งไปแล้ว หลังจากนั้นอีกหลายวันตนเห็นข่าวการจับกุมเครือข่ายโกตี๋ มีข้อมูลการสนทนากับนายระพินทร์ และโกตี๋ โดยมีชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของตนปรากฏอยู่ด้วย
ทำให้ตนตกใจมาก เพราะไม่ได้รู้จักกันทั้งนายระพินทร์และนายโกตี๋ แถมยังมีคนอ้างตัวว่าเป็นทหารชายแดนที่ภาคใต้โทรมาหาตนหลายครั้ง ขอให้ตนพาข้ามไปลาวแล้วจะให้ค่าจ้าง แต่ตนกลัวจึงปฏิเสธไปและได้ยกเลิกหมายเลขโทรศัพท์ไป ซึ่งยืนยันว่าตนไม่ได้รู้จักกับนายโกตี๋ แต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทราบว่า ภายในลังกระดาษทั้ง 7 ลังนั้น เป็นอุปกรณ์เครื่องเสียง มูลค่า 40,350 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วส่งให้พนักงานสอบสวนสภ.เมืองหนองคายดำเนินการ และยังต้องตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกอีกหลายส่วน
+ อ่านเพิ่มเติม