เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ! “บั้งไฟพญานาค” ฝีมือไผ มนุษย์ หรือ ธรรมชาติ

        วันที่ 26 ต.ค.2564 นายสมภพ ขำสวัสดิ์ แอดมินเฟซบุ๊กเพจพิสูจน์บั้งไฟพญานาค ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ ในรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงประเด็นที่ได้มีการยื่นหนังสือร้องสถานทูตลาวให้มีการพิสูจน์บั้งไฟพญานาคว่า ตนเองเก็บรวบรวมข้อมูลและพิสูจน์เรื่องนี้มากว่า 10 ปี ประมาณปี 2558 ได้เดินทางไปลาวเป็นครั้งแรก เพื่อไปพูดคุยกับคนในหมู่บ้านที่มีการยิงกระสุนส่องแสง แต่แต่ละคนในหมู่บ้านก็พูดกันไปคนละทิศทาง มีลูกบ้านพูดว่ามีการยิงกระสุนจริง แต่ผู้ใหญ่บ้านก็ปฏิเสธ บอกมีการเซ็นกระสุน เช็คจำนวนกันตลอด ทั้งนี้ ตนเดินทางไปลาวหลายครั้ง บางหมู่บ้านก็ยอมรับว่ามีการยิงกระสุนจริง ซึ่งก็มีการถ่ายคลิปเป็นหลักฐาน และหลักฐานสำคัญหลักๆที่มี ก็คือภาพถ่าย และที่ออกมาเรียกร้องให้ทางสถานทูตลาวตรวจสอบครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก เพราะสมัยนั้นตนไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้มาก่อน

 

 

         สำหรับข้อพิสูจน์ว่า บั้งไฟพญานาค เป็นฝีมือมนุษย์ เพราะได้มีการตั้งกล้องถ่ายแล้วตั้งชัตเตอร์สปีดด้วยความเร็วสูง ปกติบั้งไฟพญานาคจะเป็นลูกๆ แต่ในภาพลูกไฟเป็นลักษณะเส้นยาวๆ เพราะเทคนิคการถ่าย และจุดเริ่มต้นของเส้นไฟนั้น ไม่ได้ขึ้นมาจากแม่น้ำโขง ยอมรับว่าไม่ได้ยินเสียงปืนเลย แต่ปกติเสียงมันมาตามหลังแสงประมาณ 2-3 วินาที ด้วยความที่ตนเป็นคนเชื่อเรื่องบั้งไฟพญานาคมาก แต่พอเห็นภาพนี้ก็ทำให้รู้สึกแย่ และเริ่มเปลี่ยนในเรื่องความเชื่อ ก่อนหน้านี้ตอนสมัยที่ไอทีวีมีการพิสูจน์ จากที่เชื่อเต็ม 100 ก็ลดลงไป พอมาเห็นแบบนี้ จึงเชื่อว่ามันเป็นฝีมือของมนุษย์ ส่วนเรื่องที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าถ้ามีการยิงจริงต้องมีปลอกกระสุนนั้น เชื่อว่าถ้ามันตกไปในพื้นที่เกษตร ลูกกระสุนมันอาจจะจมดินไปก็ได้ แต่เบื้องต้นยังไม่เคยเตอหลักฐานพวกปลอกกระสุน

 

 

        ด้าน บี ฟักโกสต์ ผู้ที่เชื่อว่า บั้งไฟพญานาคมาจากฝีมือมนุษย์ เผยว่า ที่เชื่อว่าบั้งไฟพญานาคเกิดจากฝีมือมนุษย์ เราได้ยินตำนานแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนมีการเรียกว่า ประเพณีแห่เรือไฟ บั้งไฟผี แล้วก็มีการเปลี่ยนเป็น บั้งไฟพญานาค มีรายการทีวีไปทำเรื่องบั้งไฟพญานาค มีการเข้าไปจุดเกิดเหตุ มีการไปถ่ายคลิปชาวบ้านเป็นกล้องอินฟาเรด จากนั้นตนก็ไม่เชื่อเลย ตนเริ่มติดตามเพจ พิสูจน์บั้งไฟพญานาค ตั้งแต่ปี 55 ทั้งเพจเราเพจเขาก็แชร์เรื่องราวคล้ายๆ กัน จะเห็นไปในทิศทางเดียวกันกับการยิงกระสุนส่องวิถี บางทีก็มีภาพถ่ายจากโดรนบ้าง พบว่าลูกไฟมันไม่ได้ขึ้นจากน้ำ ซึ่งจะมีทั้งภาพและเสียงปังๆ ตามมา ซึ่งก็ยังไม่เคยมีใครไปพิสูจน์กันกลางลำน้ำว่าสรุปแล้วเกิดจากอะไร ทั้งฝั่งไทยฝั่งลาว จะมีคนไปตามถ่ายคลิปพบว่ามีคนแอบอยู่ตามพุ่มไม้ ตามลำน้ำ จะว่าเป็นทฤษฎีของแก๊ส มันก็ไม่น่าจะใช่ เพราะว่าไม่ได้มีการจุดไฟอะไรบริเวณนั้น และหากเป็นเรื่องของแก๊สจริง ก็คงจะมีการพิสูจน์แล้ว ฉะนั้นไม่น่าจะเกิดจากธรรมชาติ

 

 

         ขณะที่ นายสุพรรณ์ ก้อนคำ ลำโขง ผู้เชี่ยวชาญด้านพญานาค เชื่อว่า บั้งไฟพญานาคมีจริง ระบุว่า สมัยที่ยังเป็นเด็กเคยเห็นลูกไฟขึ้นมาจากกลางลำน้ำ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งสมัยนั้นยังไม่มีชุมชน ก็ไม่น่าจะมีใครมายิง ชาวบ้านก็เลยเชื่อว่าไม่น่าเกิดจากฝีมือมนุษย์ ถ้ามองว่าเป็นชุมชนที่ไกลออกไปเป็นคนยิงปืน ต้องยอมรับว่ายิ่งชุมชนไกลออกไป ความเจริญก็น้อยลงไปอีก ฉะนั้นก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ว่าจะมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการยิงขึ้นฟ้า ปรากฏการณ์นี้มีมานานแล้ว แต่ก่อนเรียกบั้งไฟผี พอมาระยะหลังคนเริ่มเอามาผูกกับเรื่องพญานาค เนื่องด้วยตำนานท้องถิ่นแถบนั้น ยิ่งฝั่งเพื่อนบ้านยิ่งเชื่อกว่าฝั่งไทยอีก ตนเคยสัมภาษณ์คนฝั่งเวียดนาม เขาบอกว่าตามหนองบึงก็มีลูกไฟขึ้นมาเหมือนกัน เขาเคยแอบคิดว่าเป็นฝีมือคนไทยหรือเปล่า เพราะบ้านเขาไม่มีนวัตกรรมอะไรแบบนั้น และถ้าเป็นการยิงจริงๆ มันก็น่าจะมีลูกกระสุนตกมาฝั่งไทย ถ้าเป็นเรื่องยิงกระสุนเป็นเรื่องจริงมันน่าจะเป็นข้อพิพาทใหญ่โต เพราะปืนถือเป็นอาวุธชนิดหนึ่ง ถ้าจะให้บอกว่าบั้งไฟมาจากพญานาคไหม ตนเคยถามพระอริยสงฆ์เรื่องนี้ ท่านบอกว่า ดวงไฟมี พญานาคมี แต่ท่านไม่ได้ตอบว่าพญานาคทำให้เกิดบั้งไฟหรือไม่ แต่ตนเองเชื่อว่าบั้งไฟเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติแน่นอน

 

 

         นายสมชัย น้อยบรรเทา ชาวบ้านในพื้นที่ จ.หนองคาย ผู้ถ่ายภาพบั้งไฟพญานาคเป็นคนแรก เปิดเผยว่า ตนเองเป็นคนถ่ายภาพบั้งไฟพญานาคได้ในปี 2534 ที่บึงกาฬ โดยสมัยนั้นเห็นคนโห่ร้องว่ามีบั้งไฟพญานาคขึ้นกลางลำน้ำ จึงหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเก็บไว้ หลังจากปี 2534 ภาพนั้นก็ได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลก ยืนยันว่า ตอนนั้นเห็นกับตาว่ามีลูกไฟขึ้นกลางลำน้ำโขง ทั้งหนอง บึง ก่อนหน้าปี 2534 ก็เคยเห็นเหมือนกัน แต่ไม่สามารถจับภาพได้ แต่ก่อนหน้านั้นตายายก็เล่าให้ฟังว่ามีบั้งไฟขึ้นในแม่น้ำโขง ช่วง 15 ค่ำ เดือน 11 คนที่ไปหาปลาก็จะเห็นดวงไฟ คนเขาก็คิดกันว่าเป็นบั้งไฟผี ตนเชื่อว่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของมนุษย์ เพราะถ้าเป็นคนทำก็ต้องมีขบวนการเตรียมเรื่องนี้ แต่ไม่เคยมีใครเห็นขบวนการนี้

 

 

         ฟาก รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พูดถึงประเด็นบั้งไฟพญานาคว่า ถ้ามองในเชิงวิทยาศาสตร์ ต้องตัดเรื่องความเชื่อออกไปก่อน การตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการสะสมของแก๊สมีเทน คำอธิบายนี้มันใช้ไม่ได้จริง เพราะกระแสน้ำมีการไหลแรง มันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ แล้วขึ้นมาเฉพาะช่วง 15 ค่ำ เดือน 11 คำอธิบายนี้ใช้ไม่ได้ในเชิงวิทยาศาสตร์ เพราะแก๊สใต้ท้องน้ำไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ แก๊สกลมๆ ที่จะลอยขึ้นมาเป็นดวงไฟมันก็ไม่ง่าย และยิ่งการสันดาปก็ยิ่งไม่ง่าย ส่วนคำอธิบายเชิงมนุษย์ทำขึ้น การใช้ปืนยิงขึ้นไป เพราะการยิงปืนขึ้นฟ้ามันสามารถพาลูกกระสุนขึ้นบนท้องฟ้าได้เป็น 10 เมตร ระยะทาง 1 กม. ของน้ำโขง ทำให้เสียงที่เดินทางตามมาทีหลังมีระยะห่างกันมาก และตอนที่ลำแสงขึ้นมาบนท้องฟ้า คนก็เริ่มเฮกัน เสียงเฮก็อาจจะกลบเสียงปืนก็ได้ การอ้างอิงว่ามีการยิงกระสุนส่องวิถี ทิศทางของกระสุนก็ขึ้นไปตามทิศทางของคนที่ยิง กระสุนพวกนี้ไม่ใช่ของแปลก ใช้ในการยิงปืนทั่วไป หัวกระสุนจะมีการเจาะและใส่สารเคมี ใช้ในการส่องวิถี ปืนพวกนี้มีมาตั้งแต่สมัย ร.1 และอาจจะเกี่ยวเนื่องกับความเชื่อของแต่ละหมู่บ้าน ที่อาจจะอยากยิงปืนฉลองแทนพลุ การยิงขึ้นฟ้า ระยะห่างของแม่น้ำโขง วิถีกระสุนที่จะตกลงมาก็เป็นไปได้ว่าน่าจะตกลงน้ำ และสารพวกนี้มันมีความร้อน ก็เป็นไปได้ว่ามันจะลดขนาดของกระสุนลงด้วย 

 

         สิ่งที่คุณสมภพทำคือการเริ่มต้นตั้งแต่ว่ามีลูกไฟขึ้นจากน้ำจริงหรือไม่ ซึ่งจากภาพถ่ายของเขาก็ยังไม่พบว่ามีลูกไฟขึ้นจากน้ำจริงๆ ถ้าเกิดเราสามารถบันทึกภาพได้ว่ามีลูกไฟเกิดขึ้นจากแม่น้ำ อันนี้ก็ต้องไปพิสูจน์ทางวิทยาศษสตร์กันต่อ ส่วนที่บอกว่าเห็นลูกไฟขึ้นจากกลางลำน้ำ ระยะทางที่มองไปมันก็อาจจะมีมุมมองที่หลอกตาเราได้ บางครั้งชาวบ้านคิดว่าเห็นลูกไฟขึ้นจากหนองบึง แต่จริงๆลูกไฟขึ้นมาจากบริเวณริมน้ำโขง

 

 

        ด้านนายภาดา บัวขาว หรือ โอ๊ต ผู้ที่อ้างว่าเคยเห็นพญานาคและบั้งไฟพญานาค เผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ตนไปพระธาตุกลางน้ำ แล้วท่านบอกว่าให้ไปดูตรงนี้ สักพักนึงท่านจะขึ้นให้เห็น 7 ลูก ตนกับน้องๆ ก็หันไปปรากฏว่ามีลูกไฟขึ้นมาจริง 7 ลูก และตนเคยเห็นพญานาคมาแล้ว ดังนั้นหากมองว่าพญานาคเป็นสัตว์ในเทพนิยาย คนที่เขียนพระไตรปิฎกก็คงก็คงแต่งเรื้องขึ้นมา บางอย่างที่พิสูจน์ไม่ได้ ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีจริง

 

 

 

สรุปผลโพล  บั้งไฟพญานาค เกิดจาก...? 

 

ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com

 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/zN7q6P0IJ5Q