จากปรากฎการณ์ลูกไฟปริศนาที่ลอยขึ้นเหนือแม่น้ำโขงในเขตหนองคายและอีกหลายจังหวัด ในวันออกพรรษา ซึ่งตามความเชื่อเรียกว่าบั้งไฟพญานาค ซึ่งคนในท้องถิ่นเชื่อว่าปราฎการณ์นี้เกิดจากพญานาคใต้แม่น้ำโขงจุดบั้งไฟถวายเป็นพุทธบูชาครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
โดยในปัจจุบันมีข้อถกเถียงทั้งในแง่วิทยาศาสตร์ ธรรมชาติ และการกระทำว่า สาเหตุใดกันแน่ที่ทำให้เกิดลูกไฟปริศนานี้ ซึ่งล่าสุดได้เกิดอีกประเด็นขึ้นมาเมื่อแฟนเพจหนึ่งได้ไปยื่นเรื่องต่อสถานทูตสปป.ลาว ประจำประเทศไทย ให้ตรวจสอบว่ามีหมู่บ้านหลายแห่งในสปป.ลาว ได้ยิงกระสุนส่องแสง ขึ้นในวันออกพรรษาเพื่อให้เกิดบั้งไฟพญานาค ในอีกมุมหนึ่งคนในพื้นที่ก็บอกว่าเคยเห็นบั้งไฟผุดขึ้นจากลำน้ำโขงจริงๆ เคยเห็นกับตาและเชื่อว่าเป็นการกระทำของพญานาค
สมภพ ขำสวัสดิ์ แอดมินเฟซบุ๊กเพจพิสูจน์บั้งไฟพญานาค เผยว่า ได้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับบั้งไฟพญานาค ว่าเป็นฝีมือของมนุษย์มาตั้งแต่ปี 2558 โดยเก็บรวบรวมหลักฐานมาจากภาพถ่ายล้วนๆ โดยได้มีการสอบถามชาวบ้านในฝั่งลาว มีชาวบ้านรายหนึ่งตอบว่ามีการยิง แต่เมื่อไปถามหัวหน้าหมู่บ้านก็ตอบกลับมาว่าไม่ได้ยิงเพราะกลัวความผิดและการตรวจสอบ จากการลงทะเบียนกระสุนที่หากว่ามีการยิงจะต้องรายงานทางการทุกครั้ง นอกจากนี้มีอีกหมู่บ้านหนึ่งที่รายงานว่ามีการยิงจริงๆ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลจากนครหลวงเวียงจันทน์ ที่ออกมาตอนนี้เพราะมีข้อมูลอยู่เต็มที่แล้ว จึงได้ออกมา
แต่ก่อนเชื่อว่าบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นจากพญานาค พอเกิดกรณีที่ไอทีวีออกมาแฉก็เริ่มไม่เชื่อและได้เริ่มพิสูจน์ด้วยการตั้งถ่ายภาพ เห็นที่มาของแสงชัดเจนว่าขึ้นจากฝั่งในสปป.ลาว ไม่ได้ขึ้นจากลำน้ำโขงแน่นอน หลังจากนั้นก็รู้สึกผิดหวังว่าสิ่งที่เชื่อมาตลอดนั้นกลับโดนหลอก เกิดจากการยิงจากปืนกระสุนส่องแสง หลังจากมีการยิงขึ้นชาวบ้านก็ร้องเฮกันทุกครั้ง สีจะมีการเปลี่ยนไปหลายครั้ง และไม่ได้ยินเสียง เสียงจะมาช้ากว่าแสง 2-3 วินาที เลยทำให้มั่นใจว่าไม่ใช่ฝีมือพญานาค และมาจากฝีมือมนุษย์แน่นอน อยากให้ทางสปป.ลาว พิสูจน์ว่าหมู่บ้านเหล่านั้นยิงเพื่ออะไร? ยิงเพื่อผลประโยชน์อะไรหรือไม่?
สุพรรณ์ ก้อนคำ ผู้เชี่ยวชาญด้านพญานาค เผยว่า เป็นคนในพื้นที่เคยเห็นว่ามันขึ้นจากบริเวณกลางลำน้ำโขง เมื่อ20ปีที่แล้วก็เคยเห็นและ บริเวณฝั่งนั้นไม่มีชุมชนเลย ซึ่งการยิงขึ้นมาน่าจะเป็นเรื่องยาก ด้วย ตำนานนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นแต่เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นมากับแม่น้ำโขง ที่ยังเกิดข้อถกเถียง เชื่อกันว่าเกี่ยวข้องกับบารมีของพญานาค เพราะคนแถบแม่น้ำโขงมีความเชื่อกันมากทั้งสองฝั่งโขง วิธีการที่คนจะทำอะไรแบบนี้เขาจะกลัวกันมาก เคยไปสัมภาษณ์คนฝั่งลาวก็คิดว่าคนฝั่งไทยเป็นคนทำด้วย ส่วนทฤษฎีที่มีการยิงปืนก็จะกระทบต่อเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย
สมชัย น้อยบรรเทา ชาวบ้านในพื้นที่ จ.หนองคาย ผู้ถ่ายภาพบั้งไฟพญานาคเป็นคนแรก ถ่ายได้ในปี 2534 เห็นในพื้นที่ของ บ้านน้ำเป ตอนนั้นขึ้นกับอ.โพนพิสัย จ.หนองคาย (ปัจจุบันคือพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ) โดยไม่มีนักข่าวคนไหนถ่ายได้เลย และมีนักข่าวได้ประสานขอภาพจากตน นำไปเผยแพร่จนเป็นข่าวโด่งดัง ตอนนั้นเห็นกับตาเลยว่าขึ้นจากแม่น้ำโขง ผุดขึ้นมาจากน้ำ และ หนองน้ำด้วย ก่อนหน้าปี 2534 ก็เคยเห็นแต่ไม่สามารถบันทึกภาพได้เพราะกล้องไม่ทันสมัย ตายายเรียกว่าบั้งไฟว่าบั้งไฟผี จะเกิดขึ้นในคืนวันออกพรรษา คิดว่าเกิดจากธรรมชาติไม่ใช่ฝีมือคนทำแน่นอน เพราะว่าถ้าใครไปเตรียมการในบริเวณนั้นก็ต้องมีคนเห็นแน่นอน
ถกไม่เถียง
ทิน โชคกมลกิจ
บั้งไฟพญานาค
พิสูจน์
พญานาค
กระสุนส่องแสง
สถานทูตลาว
ลาว
ตรวจสอบ
ความเชื่อ
ธุรกิจ
หลอกคนไทย
ผู้ประกอบการ
แม่น้ำโขง