จากกรณีพบเด็กชายวัย 5 ขวบ ถูกน้ำร้อนลวกจากหน้าท้องถึงอวัยวะเพศ จนอัณฑะบวม ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปทุมธานี โดยเด็กระบุว่าถูกแม่เลี้ยงนำน้ำร้อนสาดใส่ ทั้งนี้ตามตัวเด็กพบรอยจากการถูกทำร้ายร่างกาย เช่นรอยหยิก รอยตี ขณะที่ต่อมาแม่แท้ๆของเด็ก ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ธัญบุรี เพื่อเอาผิดกับผู้ที่ทำร้ายร่างกายลูกชาย โดยบอกว่าก่อนเกิดเหตุอดีตสามีซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงเด็กได้ขอนำไปเลี้ยง ซึ่งเห็นว่าตัวเด็กและพ่อเลี้ยงมีความสนิทกันจึงอนุญาตก่อนจะมาเกิดเหตุขึ้น ขณะที่พ่อและแม่เลี้ยงเด็กได้ปฏิเสธนั้น
ล่าสุด แม่แท้ๆของเด็กวัย 28 ปี ซึ่งได้มาเฝ้าดูแลลูกชายข้างเตียงตลอดทั้งคืน จากการสอบถามบอกว่า ตนมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายผลไม้ตามร้านอาหารโดยตระเวนไปตามร้านอาหารต่างๆย่านอำเภอลำลูกกาไปเรื่อยๆ ยิ่งช่วงปีใหม่มีคนเที่ยวเยอะ จึงไม่สะดวกในการเลี้ยงลูกชาย ประกอบกับอดีตแฟนเก่าที่เลิกรากันไปแล้ว ได้มาขอลูกชายของตนไปเลี้ยงดู ตนห็นว่าเด็กมีความสนิทสนมกับพ่อเลี้ยงดี จึงให้ไปเลี้ยงในช่วงปีใหม่
เมื่อตนทราบข่าวว่าลูกถูกน้ำร้อนลวกจึงเดินทางมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล และได้สอบถามลูกชายว่าเกิดจากสาเหตุใด โดยทราบว่า ลูกชายได้ทำน้ำร้อนหกใส่ตัวเองในขณะที่นอนอยู่ โดยปกติแล้วลูกชายเป็นเด็กซน และหรือ เคยกัดมือของตน 1 ครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ลูกชายบอกว่าพ่อเลี้ยงเป็นคนทำ เนื่องจากลูกชายกลัวความผิด จึงได้พูดเป็นแบบนั้น
ต่อมา เวลา 15.00 น. ทีมสหวิชาชีพ แพทย์ นักจิตวิทยา นักสังคม อัยการ ตำรวจ ได้สอบปากคำเด็กชายคนดังกล่าว เพื่อทราบรายละละเอียดให้ครอบคลุมทุกประเด็น
ขณะที่แม่เลี้ยง และลูกชายของแม่เลี้ยงวัย 8 ปีที่อยู่ด้วยในวันเกิดเหตุ ต่างยืนยันว่าเด็กผู้บาดเจ็บเป็นคนทำน้ำร้อนลวกตัวเอง โดยแม่เลี้ยงเด็ก กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุน้องได้ทำน้ำร้อนหกใส่ตัวเอง โดยตนได้เข้าไปสอบถามแล้ว น้องบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่พบว่าบริเวณท้องของน้องมีสีแดง ตนได้เรียกแฟนให้มาดู เมื่อแฟนเห็นก็ไปซื้อยามาทา ซึ่งก็ได้ถามเด็กตลอดว่าเจ็บไหม จะไปหาหมอหรือไม่ โดยน้องบอกว่าไม่เจ็บ ซึ่งในวันนั้นตนคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก แต่เมื่อวันรุ่ง จึงเห็นว่าอวัยวะเพศของน้องบวมแดงดูน่ากลัว จึงได้พามาส่งโรงพยาบาล ซึ่งตนยืนยันว่า ไม่มีใครเอาน้ำร้อนไปสาดแน่นอน รวมถึงไม่มีใครตี หรือทำร้ายน้องด้วย ปกติแล้วหากน้องดื้อ จะทำได้เพียงดุว่ากล่าวเท่านั้น ส่วนแฟนก็อาจจะมีตีบ้างแต่ก็ไม่รุนแรง เป็นการทำโทษปกติเท่านั้น
จากการสอบถามนายแพทย์รังสรรค์ บุตรชา หัวหน้าศัลยแพทย์ โรงพยาบาลปทุมธานี กล่าวว่า ครั้งแรกรับเด็กมานั้น พบว่าเด็กมีสภาพที่เก็บกด และมีภาวะซึมเศร้า ส่วนบาดแผลของน้องในการดูแลรักษานั้น แพทย์ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 อาทิตย์ในการรักษา ซึ่งยังต้องมีการทำแผลกันทุกวัน และระวังการติดเชื้อ โดยในช่วงเช้านี้พบว่าแผลของน้องมีอาการเป็นลักษณะเนื้อตายเป็นก้อนหนา จึงต้องมีการผ่าตัดนำเนื้อนั้นออก ส่วนสภาพจิตใจของน้องนั้นดีขึ้นกว่า 3 วันแรกมาก สามารถเริ่มพูดคุยโต้ตอบกับเจ้าหน้าที่ได้มากขึ้น
ด้านนางวรภัทร แสงแก้ว หัวหน้ากลุ่มงานสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ศูนย์พึ่งได้ OSCC โรงพยาบาลปทุมธานี กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าได้พาเด็กไปล้างแผลที่ถูกน้ำร้อนลวก สภาพแผลนั้นลึกมาก ซึ่งเด็กอดทนไม่ร้องเลย ส่วนที่เคยสอบถามเด็ก ซึ่งเด็กเคยบอกว่าแม่เลี้ยงเป็นคนราดน้ำร้อนใส่ตัว แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาน้องกลับบอกว่าผู้ที่ทำเป็นพ่อเลี้ยงรวมถึงรอยหยิกที่แก้ม
โดยทางด้านการประเมินสภาพเด็กและครอบครัว ได้ทำร่วมกันกับหลายหน่วยงาน ทั้งเรื่องประวัติครอบครัวประวัติการเลี้ยงดู เพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น เพื่อที่จะวางแผนให้เด็กคนนี้อาศัยอยู่ที่ไหนที่จะเหมาะสมที่สุด เบื้องต้นหลังจากการรักษาพยาบาลสิ้นสุด จะให้เด็กอยู่กับบ้านพักเด็กและครอบครัวเพื่อความปลอดภัย ส่วนในเรื่องของคดียังต้องมีการสอบสวนเด็ก รวมถึงการตรวจสอบสุขภาพจิต โดยในวันนี้เราจะทำการสอบสวนเด็กโดยมีอัยการ คุ้มครองสิทธิ์ เด็กและเยาวชน ในส่วนของการดำเนินคดี กระบวนการยุติธรรมทั้งหมด รวมถึงเรื่องของสวัสดิการสังคมและครอบครัวจะมีการทำงานร่วมกันกับพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์และโรงพยาบาล เพื่อช่วยเหลือดูแลกัน
+ อ่านเพิ่มเติม