ชาวบ้านมหาสารคามออกไปช่วยทำโบว์สีดำ กลับมาพบบ้านถูกไฟไหม้วอด แต่พระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวง ร.9 กลับไม่เป็นอะไร

2,592 ครั้ง

26 ต.ค. 2559

แชร์ข่าวไปที่

นางนิศากร นนทะโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม พร้อมคณะฯ เดินทางมาที่บ้านผักหนอก หมู่ที่ 6 ตำบลยางน้อย อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจพร้อมให้ความช่วยเหลือกับชาวบ้านที่ประสบอัคคีภัย จำนวน 4 หลังคาเรือน

โดยเหตุดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 20 ต.ค. เวลา 18.05 น. ซึ่งต้นเพลิงเกิดขึ้นในบ้านเลขที่ 10 เสียหายทั้งหลัง โดยเพลิงลุกลามไปยังบ้านอยู่ติดกันอีก 3 หลัง โดยเฉพาะบ้านของนางสนธิยา และนายเสรี จตุเทน สามีภรรยาบ้านเลขที่ 12 ซึ่งอยู่ทิศทางใต้ลมถูกเพลิงไหม้เสียหายบริเวณที่สร้างด้วยไม้บนชั้นสองเกือบทั้งหมด รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ในบริเวณดังกล่าวส่วนใหญ่ถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน แต่พระบรมสาทิสลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไม่ได้รับความเสียหายทั้งที่อยู่บริเวณฝาผนังไม้ติดกับบ้านต้นเพลิง

นางสนธิยา และนายเสรี เปิดเผยว่า ส่วนของบ้านที่ได้รับความเสียหายมากคือบริเวณชั้นสอง เดิมเป็นบ้านเก่าแก่ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ต่อมาได้ต่อเติมขยายบ้านไปทางด้านหลังโดยสร้างติดกันด้วยปูน และยังคงรักษาบ้านไม้เดิม มีข้าวของเครื่องใช้ของบรรพบุรุษเก็บรักษาเอาไว้ ขณะเกิดเหตุออกไปช่วยกันทำโบว์สีดำอยู่ภายในโรงเรียนเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนไว้แสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

เมื่อทราบข่าวว่าบ้านถูกไฟไหม้จึงรีบกลับมาดูแต่ก็สายเกินไป ไม่สามารถเข้าบรรเทาเหตุได้ เพราะเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างหนัก และอยู่ใต้ลมทำให้ลุกลามรวดเร็ว หลังเพลิงสงบลงได้เข้ามาตรวจสอบความเสียหาย พบว่าสิ่งของทุกอย่าง รวมถึงหน้าต่าง ฝาผนัง เพดาน กลายเป็นเถ้าถ่าน แต่พระบรมสาทิสลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เป็นกระดาษซึ่งอยู่บนฝาผนังไม้ ติดกับบ้านต้นเพลิง และเป็นจุดที่เห็นเพลิงไฟอย่างหนัก กลับไม่ได้รับความเสียหาย ขณะที่พื้นที่ส่วนอื่นของบ้านก็ได้รับความเสียหายไม่มาก จึงเชื่อว่าเป็นเพราะพระบารมีของพระองค์ทำให้เกิดเหตุอัศจรรย์ดังกล่าว ช่วยให้บ้านเรือนส่วนอื่นเสียหายไม่มาก ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

แชร์ข่าวไปที่

มหาสารคาม

ไฟไหม้