ผบ.ตร.แจงเจ้าหน้าที่ไม่มีอาวุธทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุม ยืนยันปฎิบัติตามหลักการควบคุมฝูงชนสากล ขณะเดียวกันด้านการข่าวยืนยันมือที่3มีความพยายามป่วนสร้างสถานการณ์
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.และหน่วยงานด้านการควบคุมฝูงชน ร่วมกันชี้แจงให้ประชาชนและผู้ชุมนุมได้รับทราบถึงอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการควบคุมฝูงชน
ซึ่งประกอบไปด้วยหมวก เสื้อกันกระสุน กระบอง โล่ หน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตาและสารพิษ แก๊สน้ำตาแบบขว้างซึ่งเป็นไปตามหลักการควบคุมฝูงชนของสหประชาชาติ หรือ UN แก๊สน้ำตาที่ใช้กับเครื่องยิงแก๊สน้ำตา ปืนลูกซองยางกระสุนมีอานุภาพแค่ยับยั้งไม่ถึงขั้นเสียชีวิต และรถฉีดน้ำซึ่งเจ้าหน้าที่ผสมแก๊สน้ำตาเข้าไปด้วยมีคุณสมบัติเหมือนแก๊สน้ำตา ทั้งนี้แก๊สน้ำตาถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่เบาที่สุด ไม่อันตรายปลอดภัยกว่ากระบองจะมีอาการแสบตาประมาณ 10นาทีหลังจากนั้นปกติ
โดยในระดับขั้นตอนการควบคุมฝูงชนจะใช้แก๊สน้ำตาก่อน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวอย่างลูกแก้วและหัวน๊อตที่กลุ่มผู้ชุมนุมยิงเข้าใส่ฐานที่ตั้งของเจ้าหน้าที่ขณะกำลังสับเปลี่ยนกำลัง จนมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งที่ผ่านมามีตวามพยายามจากกลุ่มผู้ชุมนุมในการ
ด้านพล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า งานด้านการข่าวมีการยืนยันชัดเจนว่ามีความพยายามสร้างสถานการณ์มีข่าวชายชุดดำ การนำชาวต่างชาติประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาร่วมก่อความวุ่นวายเมื่อมีเหตุชุลมุนเกิดขึ้นโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับยกระดับการชุมนุมนำไปสู่ความโกรธแค้นความรุนแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนตั้งมั่นอยู่ในความอดทนอดกลั้นต่อสิ่งยั่วยุ ที่ผ่านมาต้องขอบคุณกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีการตั้งการ์ดดูแลความปลอดภัยกันเอง แต่หากเกินกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเข้าไปช่วยดูแล
ขณะที่พล.ต.อ.อดุลย์ ระบุว่าวันนี้มีการชุมนุมดาวกระจายเดินสายในหลายจุดทั่ว กทม.ซึ่งด้านการข่าวมีรายงานว่าจะมีมือที่ 3 หวังเข้ามาสร้างสถานการณ์ มีการยกระดับการชุมนุมและปลุกระดมมวลชน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเพิ่มความระมัดระวังห่วงพื้นที่กรุงเทพ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะยึดหลักการเจรจาเป็นหลัก แต่หากมีการบุกรุกพื้นที่ประกาศ พรบ.ความมั่นคง เจ้าหน้าที่ต้องก็ดำเนินการตามกฎหมาย
ราชดำเนิน
สะพานมัฆวาน
อดุลย์แสงสิงแก้ว
วรพงษ์ชิวปรีชา
ผบตร
ตำรวจสลายการชุมนุม
ควบคุมฝูงชน
การชุมนุม
นิรโทษกรรม
มาตรฐานสากล