หลาย ๆ คนอาจจะได้ยินมาว่า “กินผงชูรสเยอะทำให้ผมร่วง” จึงเกิดเป็นข้อคำถามว่าผงชูรสอันตรายหรือไม่ หรือทำให้เราผมร่วงได้จริงหรือเปล่า ?
ด้านโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยได้ออกมาให้คำตอบว่า “ไม่จริง ไม่มีรายงานถึงความสัมพันธ์ของการบริโภคผงชูรสแล้วผมร่วง โดยผู้ป่วยมักเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับอาการผมร่วง เช่น สวมหมวกนิรภัย หรือรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ่อย ๆ แล้วทำให้ผมร่วง”
แท้จริงแล้วสาเหตุที่ทำให้ผมร่วง คือ
1.โรคผมบางจากพันธุกรรมถ่ายทอดผ่านทางหลายยีนมากกว่าร้อยละ 60 ของผู้ชายมีภาวะผมบาง ศีรษะล้าน ถ่ายทอดจากบิดา
2.ฮอร์โมนเพศชาย จะทำให้เส้นผมเล็กลงเรื่อย ๆ และหลุดร่วงไปในที่สุด เริ่มจากแนวผมที่เถิกร์นไปหรือบางตรงกลางกระหม่อม
3.ผมร่วงหลังคลอด
4.ร่วงฉับพลันจากการเจ็บป่วย มีไข้สูงต่อเนื่อง เช่น ไข้เลือดออก
5.การเจ็บป่วยเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง ผู้ป่วยเอชไอวี
6.โรคของต่อมไร้ท่อบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์
7.ภาวะขาดวิตามินหรือแร่ธาตุบางชนิด เช่น สังกะสี ธาตุเหล็ก วิตามินบี 2 (riboflavin)
8.ภาวะทุพโภชนาการ โดยเฉพาะการขาดโปรตีน ส่งผลให้ผมเส้นเล็ก หรือร่วงง่าย
9.ความเครียดรุนแรง
10.ภาวะหนังศีรษะอักเสบ หรือการแพ้สัมผัสอย่างรุนแรงบริเวณหนังศีรษะ เช่น แพ้ยาย้อมผมอย่างรุนแรง
11.หลังจากได้รับยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด ยารักษาสิวกลุ่ม Isotretinoin ยาลดความดันกลุ่มเบต้าบล็อกเกอร์ และยากลุ่ม Lithium
12.การรับสารพิษ เช่น โลหหนักปริมาณต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน หรือปริมาณมากแบบฉับพลัน
13. การถอน ดึง แกะ หรือเกาผมตนเอง บริเวณเดิมเป็นประจำอย่างยาวนาน อาจทำให้ผมบริเวณนั้นไม่ขึ้นอีกเลย
ทั้งนี้การกินผงชูรสที่มากเกินไปก็อาจจะไม่ดีต่อสุขภาพได้ เพราะทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไปส่งผลต่อความดันโลหิตที่สูงขึ้น เสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคไตเรื้อรัง อีกทั้งยังทำให้เกิดอาการรู้สึกชาที่ปาก ลิ้น กระหายน้ำ อาเจียน หายใจไม่สะดวก บางรายมีอาการแพ้จนอาจทำให้เกิดอาการอัมพาตชั่วคราวได้ (แต่สามารถหายได้เองภาย 2 ชั่วโมง) จึงควรเลือกกินผงชูรสในปริมาณที่เหมาะสม
อ้างอิง
https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/1022
https://chulalongkornhospital.go.th/kcmh/line