“ประยุทธ์” วอนหยุดวิจารณ์ทหาร เหตุโศกนาฎกรรม เรือหลวงสุโขทัย อับปางกลางทะเล ชี้ซ้ำเติมผู้สูญเสีย

1,328 ครั้ง

22 ธ.ค. 2565

แชร์ข่าวไปที่

ติดตามกันต่อเนื่องตั้งแต่ระดับรัฐมนตรี อย่าง พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม มารับฟังการวางแผนค้นหากำลังพลที่ยังคงสูญหายจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง จาก พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือเอก ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ และนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือ

และเมื่อวานนี้ 21 ธ.ค. ทั้งวัน มุ่งเน้นเส้นทางทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในระยะ 40 ไมล์ทะเลจากจุดเรือจม โดยแบ่ง 11 พื้นที่ปฏิบัติการด้วยเรือ 3 ลำ เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงนราธิวาส เรือหลวงนเรศวร และเสริมด้วยเรือหลวงตากสินที่เข้าร่วมสำรวจอีก 1 ลำ ส่วนศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. ได้มีการประสานไปยังสมาคมเรือสินค้าแจ้งให้เรือที่เดินทางในเส้นทางต่าง ๆ ช่วยตรวจสอบอีกทางหนึ่ง

ส่วนการสำรวจจุดเรือหลวงสุโขทัยอับปาง พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการไปยังกองเรือทุ่นระเบิดให้เตรียมยานสำรวจใต้น้ำ เพื่อบันทึกภาพและเตรียมเป็นข้อมูลในการกู้เรือ ซึ่งเรือหลวงบางระจัน ที่เป็นเรือล่าทำลายทุ่นระเบิด ได้ออกจากจังหวัดสมุทรปราการ ไปยังจุดที่เรืออับปางที่เช้านี้ 22 ธ.ค. คงน่าจะถึง ดูหน้างานว่าจะสามารถปฏิบัติการได้หรือไม่ โดยจะส่งยานสำรวจใต้น้ำ Sea Fox ดำลงไปถ่ายภาพใต้น้ำ ดูลักษณะการวางตัวของลำเรือ นำมาใช้วางแผนกู้เรือ ซึ่งจำเป็นต้องให้ภาคเอกชนในไทยเข้าร่วม แม้กองทัพจะมีเครื่องมือ แต่ไม่ทันสมัยเท่ากับของภาคเอกชน

พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เชื่อทุกคนได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างสมบูรณ์แบบ โดยปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นปัญหาเฉพาะหน้า เกิดจากธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ และยุทโธปกรณ์ของกองทัพบกพร้อมให้ความช่วยเหลือ หากกองทัพเรือร้องขอมา และ พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพพร้อมให้การสนับสนุนด้วย

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้รายงานผลการทำงานในทุกวัน และเยียวยาครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมย้ำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครอยากให้เกิด จึงไม่อยากให้ซ้ำเติม หรือ พูดให้ร้ายจนเสียหาย

สำหรับกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัยที่ได้รับบาดเจ็บ ทยอยส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลต่าง ๆ ตามแต่อาการของกำลังพลที่มีการประเมินจากแพทย์ ส่วนผู้เสียชีวิตจะได้รับการชดเชยปูนบำเหน็จ ตามระเบียบราชการ คือ เลื่อนยศ 5 ชั้นยศ และได้รับเงินชดเชยตามระเบียบ ประมาณ 1-2 ล้านบาท แล้วแต่สิทธิของแต่ละบุคคลที่กองทัพเรือจะดูแลอย่างเต็มที่