ตร. เร่งหาตัว "ครอบครัวบุญชู" พร้อมเปิดเบาะแสเด็ดการซื้อขายรถ #ถกข่าวร้อน

หลังจากโลกออนไลน์มีการแชร์ข้อความประกาศตามหาบุคคลสูญหาย ซึ่งหายเป็นครอบครัว จำนวน 4 ชีวิต คือ นายนิรุตน์  บุญชู อายุ 41 ปี นางสาวนฤมล เพ็ชรบุญมี อายุ 41 ปี ด.ช.นฤเบศก์ บุญชู อายุ 12 ปี และ ด.ญ.หริญดา บุญชู อายุ 7 ปี ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านเลขที่ 9/1 หมู่ 3 ต.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ได้หายออกจากบ้านใน อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.65 จนถึงวันนี้เข้าวันที่ 11 แล้ว โดยขาดการติดต่อกับทางญาติ  

 

               ก่อนที่ครอบครัวนี้จะหายตัวไปแบบครัวนั้น นายนิรุตน์ (คนที่หายไป) ได้บอกกับพ่อและทางญาติว่าจะไปเที่ยว แต่ไม่บอกว่าจะไปไหน วันที่เดินทางออกจากบ้านได้ใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน บพ 3053 สุโขทัย เป็นพาหนะในการเดินทาง ตั้งแต่วันที่10 เม.ย.65 จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่กลับบ้าน ทางญาติจึงมีความเป็นห่วงมาก พร้อมขอให้คนที่พบเบาะแสะให้แจ้งมายังครอบครัว หรือที่ สภ.บ้านไร่

 

               ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 120/1 บ้านลุเตา หมู่ 8 ต.นาขุนไกร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นบ้านของนายสอบ บุญชู พ่อของนายนิรุตน์ โดยทีมข่าวได้สอบถามข้อมูลจากลูกสาว คือ น.ส.หิรัญญา บุญชู หรือน้องอุ้ย ซึ่งเป็นลูกสาวคนโตของนายนิรุตน์ เล่าว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนยังส่งข้อความติดต่อกับพ่อได้อยู่เลย และหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อพ่อได้อีก ซึ่งตอนนี้ทั้งพ่อ แม่ และน้องอีก 2 คนได้หายไปแบบไร้วี่แวว ไม่ติดต่อกลับ ซึ่งน้องอุ้ยเป็นห่วงทั้ง 4 คนที่หายไปเป็นอย่างมาก และได้เข้าแจ้งความไว้กับ สถ.บ้านไร่ ไว้แล้ว 

 

               นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้สอบถาม นายสอบ บุญชู พ่อของนายนิรุตน์ บอกว่า  ตอนนี้ลูกชายไม่มีการติดต่อมา ยังไม่รู้ว่าไปไหนกันแน่ แต่โดยทั่วไปลูกชายและครอบครัวเคยไปเที่ยวต่างจังหวัดนานสุด 7-8 วันก็กลับ แต่ที่ต้องไปแจ้งคนหายเพราะครั้งนี้ไปนานเกิน 10 วัน ตนเองรู้สึกสงสารหลานสาวที่เอาแต่ร้องไห้จนตาบวม เพราะคิดถึงพ่อแม่และน้องๆ 

 

               ส่วนสาเหตุที่น้องอุ้ยไม่ได้ไปกับครอบครัว เพราะหลานสาวต้องไปเรียนต่อที่ จ.เชียงใหม่ และเพิ่งกลับมาในช่วงสงกรานต์นี้ แต่กลับไม่เจอครอบครัว จึงเกิดความเป็นห่วง ส่วนปัญหาครอบครัวหรือปัญหาการเงิน ตนเองไม่ทราบ 

 

               ขณะที่เบาะแสจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ระบุว่า ได้พบรถกระบะของนายนิรุตน์อยู่ที่เต้นท์ขายรถมือสองแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี และมีการซื้อขายรถกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางเต้นท์ขายรถ ได้ชี้แจงว่า “ขออนุญาตชี้แจงประเด็นรถกระบะ โตโยต้า ทะเบียน บพ3053 สุโขทัย ทางบริษัท ประเสริฐผลรุ่งเรืองนครพนม ซื้อจากนาย ณัฐวุฒิ คำรักเกียรติเจริญ โทร 089 256 8271 เมื่อวันที่ 9 เม.ย.65 อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขอให้พบทั้งครอบครัวเร็ววัน”

 

 จากการออกมาชี้แจงเต้นท์ข้อมูลการซื้อขายรถกระบะของครอบครัวบุญชู จากเต้นท์ขายรถมือสองแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี ที่ระบุว่า ได้ซื้อขายรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บพ 3053 สุโขทัย จากนายณัฐวุฒิ คำรักเกียรติเจริญ เมื่อวันที่ 9 เม.ย.65 อย่างถูกต้องตามกฎหมาย นั้น 

 

               “ทีมถกข่าวร้อน” ได้ติดต่อต่อไปยังนายณัฐวุฒิ เพื่อสอบถามเบาะแสการซื้อขายรถคันนี้ของ “ครอบครัวบุญชู” โดยนายณัฐวุฒิ บอกว่า ตนเองได้ซื้อรถต่อมาจากนายหน้ารายหนึ่ง ขอใช้ชื่อย่อว่า นาย ท.ซึ่งการซื้อขายถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน และขอชี้แจงว่า ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการหายตัวไปของครอบครัวบุญชู 

 

               “ทีมถกข่าวร้อน” จึงได้ติดต่อไปยัง นาย ท.ซึ่งเป็นบุคคลที่ซื้อขายรถกระบะกับนางสาวนฤมล เพ็ชรบุญมี ภรรยาของนายนิรุตน์ บุญชู โดย นาย ท.เล่าว่า ได้ติดต่อกับนางสาวนฤมล เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อขอดูรถกระบะที่จะขาย ก่อนที่ในวันรุ่งขึ้น (7 เม.ย.) จะไปพบกับนางสาวนฤมลที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งนางสาวนฤมลได้บอกว่า จะมากับแฟนของตัวเอง ซึ่งตนคาดว่าจะเป็นนายนิรุตน์ โดยตนเห็นแค่นางสาวนฤมลกับผู้ชายคนนั้น แต่สังเกตว่ารถที่ทั้งคู่ขับมาไม่ได้มีการดับเครื่อง จึงอาจจะมีคนอื่นที่นั่งอยู่ในรถด้วย ซึ่งระหว่างทำสัญญานางสาวนฤมล ได้พูดประมาณว่า ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ได้จึงอยากขายรถเพื่อมาปลดหนี้สินของตัวเอง ตนจึงได้จ่ายเงินให้กับนางสาวนฤมล เป็นจำนวนทั้งสิ้น 385,000 บาท โดยหลักฐานการซื้อขายรถทั้งหมด ตนได้มอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทั้งหมดแล้ว

 

               มีรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่ได้พบสัญญาณมือถือของทั้ง 4 คน ซึ่งมีการปิดโทรศัพท์มือถือและยกเลิกเบอร์โทรศัพท์ไปแล้ว โดยปรากฎอยู่ในเขตพื้นที่ ลาดกระบัง กรุงเทพ