เฟซบุ๊ก แจ้งลดการมองเห็นข้อมูลของกลุ่มผู้ใช้ซึ่งเป็นหน่วยงานหรือบุคคลากรกองทัพเมียนมา หลังพยายามเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ออกสู่สาธารณะชน ขณะเดียวกัน สื่อต่างชาติแสดงความเป็นห่วงกลุ่มม็อบ หลังทางการเมียนมาร์อภัยโทษผู้ต้องขังกว่า 2.3 หมื่นราย
พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ออกแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนกลับไปทำหน้าที่กันตามปกติ หลังพบว่ามีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการทำรัฐประหาร
โดยล่าสุดมีรายงานว่า ข้าราชการอัยการและศาล ได้ออกมาสนับสนุนด้วย ทั้งนี้ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ให้เหตุผลว่า เจ้าหน้าที่รัฐควรกลับไปทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน รวมถึงห้ามประชาชนออกมารวมตัวกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ แม้มีคำสั่งห้าม หากแต่ช่วงวานนี้ (12 ก.พ. 64) ซึ่งเข้าสู่วันที่ 6 ที่ประชาชน ออกมาชุมนุมประท้วง ในหลายเมืองยังคงมีกิจกรรมเรียกร้องประชาธิปไตย
โดยที่นครย่างกุ้ง ผู้ชุมนุมพากันเดินถือป้ายไปตามท้องถนนพร้อมแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง และ ยังคงรวมตัวด้านหน้าสถานเอกอัคราชทูตจีนในย่างกุ้ง
ส่วนที่เมืองมัณฑะเลย์ ผู้ชุมนุมที่เป็นพระสงฆ์ ก็ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้กองทัพคืนอำนาจให้กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รวมถึงปล่อยตัวนางอองซานซูจี, ประธานาธิบดี วิน มินต์ และนักการเมืองคนอื่น ๆ
มีรายงานว่า ช่วงวานนี้ พลเอกอาวุโส มิน อ่องหล่าย ผู้นำกองทัพ มีคำสั่งอภัยโทษนักโทษกว่า 23,000 คน และเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันทำงานกับกองทัพ เพื่อร่วมสร้างประชาธิปไตยในประเทศ ขณะที่สื่อต่างชาติแสดงความเป็นห่วงว่า นี่คือสัญญาณแห่งการใช้มวลชนอีกกลุ่ม ออกมาสนับกองทัพหรือไม่
อีกประเด็นที่ เป็นข่าวไปทั่วโลก คือ สื่อสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊ก แจ้งว่าจะดำเนินการลดการมองเห็นข้อมูลที่เป็นของกองทัพเมียนมา เพื่อป้องกันข้อมูลเท็จ โดยทางเฟซบุ๊กระบุว่า หลังจากที่กองทัพทำการรัฐประหารตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา ก็มีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จออกมาอย่างแพร่หลาย ซึ่งทางเฟซบุ๊กย้ำว่าไม่ใช่การระงับแต่ลดจำนวนผู้คนที่เข้าถึงข้อมูลส่วนนี้