สรุปเหตุการณ์ “เมียวดี” การสู้รบอันยาวนานของ กองทัพทหารพม่า-กองกำลังชาติพันธุ์
logo ข่าวอัพเดท

สรุปเหตุการณ์ “เมียวดี” การสู้รบอันยาวนานของ กองทัพทหารพม่า-กองกำลังชาติพันธุ์

ข่าวอัพเดท : สถานการณ์ในเมืองเมียวดี และการต่อสู้ระหว่างกองทัพทหารพม่ากับกองกำลังชาติพันธุ์ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทหารพม่ามีการทิ้ เหตุการณ์เมียวดี,รัฐประหารพม่า,เมียวดี

3,441 ครั้ง
|
24 เม.ย. 2567

สถานการณ์ในเมืองเมียวดี และการต่อสู้ระหว่างกองทัพทหารพม่ากับกองกำลังชาติพันธุ์ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทหารพม่ามีการทิ้งระเบิดอีกระลอก ประเทศไทยเฝ้าติดตามสถานการณ์และวางแผนรับมือในระยะยาว ด้านชาวบ้านเผยส่งผลกระทบต่อการค้าขายอย่างหนัก

เดิมทีประเทศเมียนมามีการแบ่งกลุ่มชาติพันธุ์ออกเป็น 8 กลุ่มหลัก ในช่วงที่เมียนมาอยู่ใต้การปกครองของอังกฤษ นายพล ออง ซาน ผู้นำการปฏิวัติ ได้สัญญาว่าจะให้กลุ่มชาติพันธุ์ปกครองตนเองตามข้อตกลงปางหลวงปี 2490 แต่ได้ถูกลอบสังหารก่อนเมียนมาได้รับเอกราช ทำให้ข้อตกลงดังกล่าวไม่บรรลุผล

ภายหลังจากที่เมียนมาได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 2491 ก็เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ เริ่มมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งและความไม่สงบในประเทศเรื่อยมา ซึ่งหลังจากนั้นได้มีเจรจาต่อรองและทำข้อตกลงหยุดยิงในปี 2558

จนกระทั่งรัฐบาลของนางออง ซาน ซู จี ได้พยายามผลักดันให้เกิดกระบวนการสันติภาพ แต่ด้วยการก่อรัฐประหารในช่วงเดือน ก.พ. 2564 ทำให้กระบวนการต่าง ๆ ยุติลง และส่งผลให้กองกำลังชาติพันธุ์ติดอาวุธกลับมาก่อเหตุโจมตีเมียนมาอีกครั้ง เนื่องจากการไม่ยินดีในรัฐบาลทหาร

นับจาก “กลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพ” ได้เปิดปฏิบัติการ 1027 โจมตียึดฐานที่มั่นในหลายเมืองทางตอนเหนือของรัฐฉานในเดือน ต.ค. 2566 สถานการณ์ก็เริ่มขยายออกไปเป็นวงกว้าง กลุ่มกำลังชาติพันธุ์ต่าง ๆ พร้อมใจกันโจมตีฐานที่มั่นกองทัพ ยึดหมู่บ้านและเมืองต่าง ๆ ส่งผลให้ในช่วงปลายปี 2566 กองกำลังชาติพันธุ์สามารถยึดครองพื้นที่ทั่วประเทศได้มากกว่า 60%

ล่าสุดเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา กองกำลังติดอาวุธ KNLA ของกลุ่มชาติพันธุ์กระเหรี่ยง KNU ได้เข้ายึดเมืองเมียวดี ใกล้ชายแดนแม่สอด จ.ตาก ซึ่งเปรียบเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำของเมียนมา ส่งผลให้เกิดการสู้รบกับกองทัพเมียนมาอย่างต่อเนื่องและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

เหตุการณ์การปะทะกันหนักขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนในฝั่งเมียวดีหนีการสู้รบข้ามมาที่ฝั่งประเทศไทยหลายพันคน แต่เมื่อสถานการณ์ดูเหมือนจะสงบลง ผู้อพยพบางส่วนก็ได้เดินทางกลับไปที่เมียวดีเนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินภายในบ้าน

เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมามีการทิ้งระเบิดอีกระลอกหนึ่งของกองกำลังทหารเมียนมา ทางรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้มีการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์พร้อมทั้งยืนยันว่าไทยได้มีการเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ในระยะยาวแล้ว ด้านพ่อค้าแม่ค้าฝั่งชายแดนเริ่มบ่นถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าส่งผลให้การค้าขายเงียบลง เนื่องจากคนไม่กล้ามาท่องเที่ยว ซึ่งหากเหตุการณ์ยังคงทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ประเทศไทยก็จะได้รับผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจและการรับมือกับผู้อพยพ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง