เดือดยกหม้อ!! ลูกค้าโวยร้านชาบูชื่อดังขอขึ้นคิดเงินเพิ่ม เหตุสั่งแต่เนื้อกับกุ้ง ชาวเน็ตรุมจวก! "แล้วจะเปิดเป็นบุฟเฟต์ทำไม" หนุนแจ้ง สคบ. - ขณะเจ้าของร้านโพสต์ยาวชี้แจง
วันที่ 9 ก.ย. มีรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์รีวิวในเพจร้านชาบูบุฟเฟต์นแฟรนไชส์ชื่อดังย่านพระรามเก้า 43 กรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้เป็นลูกค้าประจำ โดยวันเกิดเหตุ 4 กันยายน ที่ผ่านมา ได้สั่งเนื้อและกุ้งเป็นจำนวนมาก ทางร้านขู่ว่าจะขอคิดค่าอาหารเพิ่มอีก 200 บาท จากราคา 349 เป็น 549 บาท โดยระบุข้อความว่า
"เสียความรู้สึก เพิ่งเคยเจอร้านบุฟเฟ่ที่เจ้าของร้านขู่จะคิดเงินเพิ่ม เพราะ อ้าวว่าเรากินเยอะเกินไปจนร้านไม่ได้กำไรจากเรา ถ้ามีความคิดแบบนี้อย่าเปิดร้านบุฟเฟ่ดีกว่าครับ"
ขณะที่ทางร้านก็ได้ออกมาชี้แจงหลังมีกระแสดราม่าเกิดขึ้น ระบุว่า
"ขอชี้แจง จากเจ้าของร้านที่เป็นคนเดินเข้าไปขออนุญาตชี้แจงเรื่องขอปรับราคาสำหรับลูกค้าที่ทานแต่เฉพาะเนื้อ อย่างลูกค้าท่านนี้ คื่อลูกค้าท่านนี้มาบ่อยค่ะ มาเป็นระยะเวลา 3 ปีกว่าแล้ว ช่วงไหนมาบ่อยก็เดือนละ 2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ เราดีใจที่คุณเค้ามาอุดหนุนอยู่เป็นประจำ และเชื่อว่าที่คุณเค้ามาอุดหนุนก็ด้วยสิ่งที่เราทำสิ่งที่เราขายบริการร้านชาบู เช่น วัตถุดิบ ความสะอาด ความอร่อยและบริการ จึงทำให้ลูกค้าท่านนี้มาเป็นลูกค้าประจำ
แต่ด้วยความชอบที่จะรับประทานของลูกค้าคือเนื้อล้วน เราจึงขออนุญาตแจ้งว่าถ้าลูกค้าต้องการทานแบบเดิมคือทานแบบไม่อั้นเช่นเดิมตลอดมาที่เราให้บริการ เรายินดี แต่...คราวหน้าหลังจากวันนี้ เรามีนโนบายขอขึ้นราคาบุฟเฟ่เนื้อแบบไม่อั๋นทานเนื้ออย่างเดียวหรือรวมกุ้งล้วนอย่างเดียวเป็นราคา 549 หรือเพิ่มจากเดิม 200 บาท และไม่จำกัดเวลาเช่นเดิม วันนั้นที่ลูกค้ามาทาน เราเดินเข้าไปชี้แจง และชี้แจงว่าเราไม่สามารถขายในราคาเดิมได้เพราะอะไรให้ลูกค้าเข้าใจ ซึ่งเราก็ไม่ได้มีการข่มขู่ หรือเก็บเงินเพิ่มเลย เราก็ให้ลูกค้านั่งทานปกติ สั่งปกติต่อไป ซึ่งเราไม่ทราบว่าลูกค้าไม่เข้าใจหรือมีคำถามอื่นๆ ในใจอีกไหมแต่ลูกค้าไม่ถามแต่มีการรีวิวที่อยู่ข้างต้น
เราเข้าใจว่าเป็นสิทธิของลูกค้าว่าจะทานอะไรมันก็อยู่ในราคาบุฟเฟ่แล้วเราเข้าใจดีและบริการด้วยดีมาตลอด แต่ในวันนั้นเราก็แค่ขออนุญาตแจ้งการปรับเปลี่ยนราคาเท่านั้น ก็แล้วแต่ทางลูกค้าจะพิจารณาว่าครั้งต่อไปจะมาทานหรือไม่ ในคุณภาพของอาหาร ความสะอาดและงานบริการของร้านเรา
สุดท้ายที่แอดมินเขียนไปว่า ถ้ายังโพสให้ร้านเสียหายจะพึ่งพากฏหมายนั้น ก็ด้วยแอดมินกัวว่าลูกค้าจะโพสในพื้นที่สาธารณะทำให้ร้านเสียหายและทำให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดร้านได้ ซึ่งจะนำมาซึ่งการเสียชื่อเสียงของร้านที่เราตั้งใจในการให้บริการตลอดมาไม่ได้มีเจตนานำกฏหมาย มาขู่ลูกค้าแต่อย่างใด จึงเรียนชี้แจงมาให้ทราบ"
ทั้งนี้ จากประเด็นดังกล่าว มีผู้ใช้เฟซบุ๊กแชร์ข้อความดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับคุณ 'ช่า บันทึกของตุ๊ด' หรือ ธีร์ธวิต เศรฐไชย ก็ได้แสดงความเห็นใต้โพสต์ของทางร้านชาบูดังกล่าวว่า "ประสาท บุฟก็คือบุฟ จะแดกอะไรมากอะไรน้อยก็แล้วแต่ลูกค้ามั้ย" เช่นเดียวกับผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนใหญ่ที่แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ว่าหากจะทำธุรกิจร้านอาหารบุฟเฟต์ อยู่ที่ความพึงพอใจของลูกค้าว่าจะทานอะไรก็ได้ตามเมนูของทางร้าน
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าคนดังกล่าวได้มีการโพสต์แจ้งผ่านเฟซบุ๊ก ว่าตนได้มีการเข้าร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แล้ว
+ อ่านเพิ่มเติม