logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

“แม่ตั๊ก” เบี้ยวพบ สคบ. อ้างรอคืนเงินลูกค้า | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - แม่ตั๊ก เบี้ยว พบ สคบ. อ้างรอคืนเงินลูกค้าให้เรียบร้อยก่อน เจ้าหน้าที่เตรียมส่งหนังสือเรียกครั้งที่ 2 ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

5,730 ครั้ง
|
27 ก.ย. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - แม่ตั๊ก เบี้ยว พบ สคบ. อ้างรอคืนเงินลูกค้าให้เรียบร้อยก่อน เจ้าหน้าที่เตรียมส่งหนังสือเรียกครั้งที่ 2 หากไม่มาจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้าน เคนโด้ พาผู้เสียหายแจ้งความ ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เผย มีคนโทรเคลียร์นอกรอบ
 
แม่ตั๊ก เบี้ยวพบ สคบ. อ้างรอคืนเงินลูกค้า
 
นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อํานวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา เผยถึงกรณีส่งหนังสือให้ แม่ตั๊ก หรือ นางสาวกรกนก สุวรรณบุตร ที่ต้องเข้าพบเจ้าหน้าที่ สคบ. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นขายทองว่า ทาง สคบ. ได้นัดให้เข้ามาพบเวลา 09.00 น. แต่ปรากฏว่า มีตัวแทนแจ้งเข้ามาขอเลื่อนนัด โดยให้เหตุผลว่าต้องการคืนเงินลูกค้าที่นําทองมาขายคืนให้เรียบร้อยก่อน
 
แต่ถึงอย่างไร เจ้าหน้าที่จะพิจารณาดูความเหมาะสม เหตุที่ขอเลื่อน เพราะการฝ่าฝืนหนังสือเรียก ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคฯ มีโทษปรับและจําคุก หลังจากนี้ สคบ. จะส่งหนังสือเรียกรอบที่ 2 หากไม่มาจะส่งดําเนินคดีตามกฎหมาย และจะต้องเดินทางเข้ามาชี้แจงด้วยตัวเอง ไม่สามารถส่งตัวแทนเข้ามาชี้แจงแทนได้
 
สําหรับผลการเก็บตัวอย่างทองที่ร้านของแม่ตั๊ก คาดว่า จะรู้ผลภายในสัปดาห์หน้า ส่วนจะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล
 
ลุยฟ้อง! แม่ตั๊ก พ.ร.บ.คอมฯ ยันไม่ไกล่เกลี่ย
 
อีกด้านที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 เมืองทองธานี นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ เคนโด้ พาตัวแทนผู้เสียหายที่ซื้อทองคำออนไลน์จากแม่ตั๊ก เข้าแจ้งความในความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
 
นายเกรียงไกรมาศ เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้น เข้าข่ายความผิดหลายข้อกฎหมาย ทั้งความผิดเกี่ยวกับผู้บริโภค ฉ้อโกงประชาชน และยังมีเรื่องเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ การนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบ วันนี้จึงมาแจ้งความเพิ่มเติม ส่วนจำนวนผู้เสียหายล่าสุด เพิ่มขึ้นจากทั่วทุกมุมโลกรวม 214 คนแล้ว ตอนนี้กำลังรวบรวมความเสียหายที่เกิดขึ้นอยู่ และคาดว่าจะมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นอีก
 
นอกจากนี้ เมื่อวานมีคนดังในแวดวงสังคม ติดต่อมาขอให้ตนช่วยเป็นตัวแทนไกล่เกลี่ยผู้เสียหาย มีการขอนัดหมายไปเจอ แต่ตนปฏิเสธ ขอให้สื่อมวลชนช่วยเป็นพยานว่าตนยืนยันจะไม่มีการไกล่เกลี่ย
 
ด้านผู้เสียหายยืนยันว่า จะดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่ไกล่เกลี่ยแน่นอน เพราะทุกวันนี้การซื้อของออนไลน์เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่ทำเป็นตัวอย่าง จะมีการกระทำแบบนี้อีก และตอนนี้ มีบางคนที่ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ปรากฏว่าต่อมา มีคนของทางร้านโทรมาขอเคลียร์นอกรอบ ทำให้ผู้เสียหายกลัว
 
ส่วนวันนี้ที่ แม่ตั๊กและป๋าเบียร์ ขอเลื่อนเข้าพบ สคบ. มองว่า ไม่จริงใจ เพราะเปิดโอกาสให้ชี้แจงแล้ว แต่ไม่รับ ก็ให้เป็นเรื่องของเวรกรรม ส่วนเหตุผลที่เลื่อนว่าต้องการคืนเงิน มองว่าเป็นข้ออ้างมากกว่า
 
ด้าน พลตำรวจตรี นิพล บุญเกิด ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 กล่าวว่า หลังรับเรื่องก็จะต้องไปตรวจสอบก่อนว่ามีความผิดอะไรบ้าง และหากจะให้ตรวจสอบถึงพฤติการณ์ของแม่ตั๊กย้อนหลังเพิ่มเติม กรณีนี้จะต้องมีเจ้าทุกข์เข้ามาร้องอีกครั้ง ในส่วนของ บช.สอท. รับดำเนินการเพียงเรื่อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้น ซึ่งคดีฉ้อโกงนั้นให้ บก.ปคบ. เป็นผู้ดำเนินการ เพราะไม่สามารถที่จะฟ้องซ้ำได้
 
ประชาชนแห่คืนทอง แม่ตั๊ก วันที่ 4
 
ส่วนที่ร้านทอง แม่ตั๊ก ห้างเพชรทองเคทูเอ็น ถนนหทัยราษฏร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร วันนี้เป็นวันที่ 4 แล้ว ประชาชนยังคงแห่ทองไปขายคืน
 
หลวงพี่รูปหนึ่ง เป็นพระวัดป่า เดินทางมาจากจังหวัดเลย กล่าวว่า ก่อนที่จะเดินทางไปปฏิบัติธรรมปี 2565 ได้ดูไลฟ์สดขายสร้อยข้อมือ ปี่เซียะ น้ำหนัก 3 บาทกว่า บอกว่า เป็นทองคำ 99.99 และยังมีของแถมเป็นสร้อยคอทองคำ ในราคา 99,888 บาท จึงเกิดอยากซื้อให้โยมแม่เป็นของขวัญ จนกระทั่ง แม่เห็นข่าว จึงเกิดความสงสัย เอาทองไปให้ร้านทองดู ปรากฏว่า ร้านทองตีให้ว่าน้ำหนัก 2 สลึง ในราคา 3,500 บาท ส่วนของแถมเป็นทองน้ำหนัก 1 บาท ได้ราคาตามทองปัจจุบัน อาตมายังแปลกใจว่า ของแถมกลับมีค่า มากกว่าสร้อยข้อมือปี่เซียะ วันนี้จึงว่าจ้างรถมา 10,000 บาท เพื่อเอาทองมาคืน เพราะไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรมต่อกัน
 
ล่าสุด คุณตั๊ก กรกนก ได้รีโพสต์ข้อความของเพจเพชรทองเคทูเอ็น ที่ระบุว่า วันเสาร์ที่ 28 กันยายน เปิดรับคิว 100 คิว ตั้งแต่ 10.00 เป็นต้นไป ส่วนวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน ทางร้านหยุดให้บริการ
 
จี้ตรวจสอบ แหวนเพชร ซื้อจากร้าน แม่ตั๊ก
 
นอกจากเรื่องทองแล้ว ทางเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ ได้รับการร้องเรียนจากลูกค้าที่ซื้อ แหวนเพชร จากร้านแม่ตั๊ก อีกด้วย โดยลูกค้าหลายคน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบแหวนเพชร ว่าได้มาตรฐานหรือไม่ เพราะบางคนซื้อมาหลักหมื่นบาท แต่ขายต่อได้เพียง 1,000-2,000 เท่านั้น
 
ตร.จ่อหมายเรียก แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ สัปดาห์หน้า
 
พันตำรวจโท ปริญญา ปาละ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า ตอนนี้ผู้เสียหายที่มาร้องทุกข์ มีอยู่ 3 ฐานความผิด เกี่ยวกับ พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค, ความผิดฉ้อโกงประชาชน และ พรบ.คอมพิวเตอร์
 
เบื้องต้น มีพยานหลักฐานการตรวจทองมาประกอบคำให้การ รวมถึงฝ่ายสืบสวนก็กำลังไล่เส้นทางการเงินของ แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ ตามคำร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งมีการประสานส่งหนังสือให้ ปปง. ทราบแล้ว โดยจะมีการออกหมายเรียกทั้ง 2 คน ภายในสัปดาห์หน้า
 
ส่วนกรณีคนที่เคยร่วมไลฟ์ขายของกับ แม่ตั๊ก นั้น พันตำรวจโท ปริญญา กล่าวว่า คดีนี้ไม่เหมือนกับกรณีเว็บไซต์พนัน หรือการขายของผิดกฎหมาย โดยผู้ที่ถูกจ้างมาขาย อาจจะไม่รู้ข้อเท็จจริงว่า เป็นการไลฟ์เชิงโฆษณาเกินจริง ถ้าไม่มีเจตนาในการกระทำความผิด ก็จะไม่ถูกดำเนินคดี
 
ส่องอาณาจักรธุรกิจ แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์
 
2 สามีภรรยา แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ มีธุรกิจที่จดทะเบียนชื่อบริษัทต่าง ๆ รวมกันถึง 9 บริษัท ซึ่งทนายความชื่อดัง ตั้งข้อสังเกตการตั้งบริษัทขึ้นมาหลายบริษัทด้วยว่า อาจไม่ปกติ
 
ร้านทองเคทูเอ็น โกลด์ ที่ตั้งอยู่บนถนนหทัยราษฎร์ ของแม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ เป็นเพียงบริษัทเดียวตอนนี้ ที่เห็นภาพชัดเจนว่าเป็นหน้าร้านที่ขายทอง แต่ว่า 2 สามีภรรยาคู่นี้ มีธุรกิจที่จดทะเบียนไว้กับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มากถึง 9 บริษัท แยกเป็นบริษัทที่มีชื่อ แม่ตั๊ก เป็นกรรมการ 3 บริษัท และบริษัทที่มีชื่อ ป๋าเบียร์ เป็นกรรมการอีก 6 บริษัท
 
บริษัทที่ แม่ตั๊ก กรกนก สุวรรณบุตร มีชื่อเป็นกรรมการ 3 บริษัท ประกอบไปด้วย
 
1. บริษัทเลดี้ ไทยคลับ จำกัด ขายอาหารเสริม ก่อตั้งปี 2558 แจ้งงบปีนั้นปีเดียว มีรายได้รวม 18,794 บาท ขาดทุน 11,794 บาท สถานะตอนนี้คือเลิกกิจการ
 
2. บริษัทเลดี้ เคทูเอ็น จำกัด เป็นร้านขายปลีกเครื่องประดับ และรับจำนำ ก่อตั้งปี 2560 แจ้งงบครั้งสุดท้ายปี 2561 รายได้รวม 3,549 บาท ขาดทุน 4,851 บาท สถานะตอนนี้ปล่อยร้าง
 
3. บริษัทแม่ตั๊ก เลดี้ 888 จำกัด เป็นร้านขายปลีกสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และเวชภัณฑ์ อาหารเสริม ก่อตั้งปี 2565 ส่งงบการเงินปีล่าสุด 2566 รายได้รวม 73,500 บาท กำไร 63,500 บาท
 
จะสังเกตได้ว่า รายได้และกำไรจากบริษัทที่มีชื่อของแม่ตั๊กเป็นกรรมการทั้ง 3 บริษัท ไม่ได้มีกำไรอะไรมากมาย ซึ่งเดี๋ยวตอนท้ายจะมีคนมาวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะเป็นเพราะอะไร
 
ส่วนฝั่งของผู้เป็นสามี คือ ป๋าเบียร์ มีชื่อเป็นกรรมการบริษัท มากถึง 6 บริษัท ประกอบด้วย
 
1. บริษัทเคทูเอ็น โกลด์ จำกัด ซึ่งเป็นร้านขายทองที่มีคนแห่ไปคืนทองในตอนนี้ ก่อตั้งปี 2562 ข้อมูลตามการส่งงบการเงินปีล่าสุด 2566 รายได้รวม 179 ล้านบาท กำไร 3 ล้าน
 
2. บริษัทเคทูเอ็นออมทอง จำกัด เป็นการขายปลีกสินค้าอื่น ๆ ในร้านค้าทั่วไป ก่อตั้งปี 2565 ซึ่งปีแรกที่ก่อตั้งขาดทุนหมื่นกว่าบาท แต่ว่าปีล่าสุด 2566 รายได้รวม 70,000 กว่าบาท กำไร 60,000 กว่าบาท
 
3. บริษัทเคทูเอ็น โบรกเกอร์ จำกัด ก่อตั้งปี 2566 รายได้รวม 2,422 บาท ขาดทุน 13,937 บาท
 
4. บริษัท คอลล่า แอลดี จำกัด ก่อตั้งปี 2564 เป็นกิจการค้าอาหารเสริมดูแลสุขภาพสำเร็จรูป 2 ปีแรกที่เปิดมีกำไร แต่ว่าปี 2566 รายได้รวม 1.7 ล้านบาท ขาดทุน 4.1 ล้านบาท
 
5. บริษัท ผ่อนทุกอย่าง บาย ป๋าเบียร์ จำกัด ซื้อขายแบบผ่อนชำระสินค้าทุกชนิดทุกประเภท ก่อตั้งปี 2566 รายได้รวม 1,147 บาท ขาดทุน 16,212 บาท
 
6. บริษัท ผ่อนโฟน บาย ป๋าเบียร์ จำกัด หรือชื่อเดิม บริษัทกีวีสต้า (ไทยแลนด์) จำกัด ขายอาหารเสริมดูแลสุขภาพสำเร็จรูป ก่อตั้งปี 2560 ปีแรกขาดทุน จากนั้นมีกำไร และปี 2566 รายได้รวม 27 ล้านบาท ขาดทุน 500,000 กว่าบาท
 
ทั้ง 6 บริษัท ที่ป๋าเบียร์ มีชื่อเป็นกรรมการบริษัท ถ้าสังเกตดูดี ๆ กำไรที่มี ก็ไม่ได้มากถึงขนาดร้อยล้าน พันล้านบาท
 
ข่าวเย็นประเด็นร้อน ลองคำนวณยอดกำไรขาดทุนทั้ง 9 บริษัท ที่มีการแจ้งงบการเงินไว้ ปรากฏว่า มีรายได้รวมกันประมาณ 1,200 ล้านบาท มีกำไรรวมประมาณ 22 ล้านบาท
 
ซึ่งตรงนี้เองที่ทำให้ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ให้สัมภาษณ์ข่าวเย็นประเด็นร้อน ตั้งข้อสังเกตว่า รายรับรายจ่าย กำไรขาดทุน สะท้อนว่าบริษัทเป็นอย่างไร ดูจากเงินที่ได้กำไรก็ไม่ได้มาก ซึ่งดูไม่สอดคล้องกันกับทรัพย์สินต่าง ๆ ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นรถหรูราคาแพง และทรัพย์สินอื่น ๆ เอาเงินจากไหนมาซื้อทรัพย์สิน ซึ่งทำให้คนมองได้ 2 อย่าง คือ ตั้งบริษัทบังหน้าหลาย ๆ บริษัท เพื่อหลบเลี่ยงภาษี หรือไม่ก็ฟอกเงิน แต่ตนมองอย่างแรกมากกว่าว่า อาจเป็นการเลี่ยงภาษี
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง