นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า สำหรับรายงานที่จะเสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ ได้จัดทำสองส่วน คือ สรุปรายงานครบรอบ10 วัน รอบที่ 3 และ อีกส่วนหนึ่งจะเป็นรายงานฉบับรวม ซึ่งมีข้อเสนอรวมอยู่ด้วย และ จะเป็นรายละเอียด ว่าสอบใครบ้าง มีเอกสารในสำนวนประกอบอย่างไร ซึ่งทั้งหมดจะเป็นผลจากการตรวจสอบที่ทำงานมาตลอด 30 วัน มีทั้งส่วนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
รวมถึงส่วนสำคัญ คือจะชี้ให้เห็นว่า อะไรเป็นข้อผิดพลาด อะไรเป็นการทำงานที่ไม่ถูกต้อง อะไรเป็นข้อปรับปรุงแก้ไข ซึ่งส่วนหนึ่งตำรวจดำเนินการไปแล้ว คือการแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 147 และจะเสนอเพิ่มเติมในส่วนที่นพ.แท้จริง ศิริพาณิชย์ เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ที่ได้มาให้ถ้อยคำยืนยันว่า ถึงเมาขนาดนั้นก็ยังขับได้ ซึ่งจะเป็นประเด็นที่จะส่งต่อให้ตำรวจ เพื่อนำข้อหานี้เข้าไปอยู่พยานหลักฐานใหม่หรือไม่ เพราะตรงนี้เราจะไปบังคับไม่ได้ แต่คณะกรรมการมีมติสนับสนุนความเห็นมูลนิธิเมาไม่ขับ และนพ.แท้จริง ส่วนตำรวจจะไปสอบพยานผู้เชี่ยวชาญต่อไปหรือไม่ก็เป็นเรื่องของตำรวจ
“นพ.แท้จริงให้ความเห็นดีมาก หากยังยอมให้ตำรวจทำสำนวนเมาหลังขับมาแบบนี้ ก็จะถูกนำไปเป็นตัวอย่าง โดยบอกว่าก่อนขับรถ นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ในรถ พอถูกจับก็บอกว่า เพิ่งดื่มมาเพราะเครียด ซึ่งตำรวจก็ต้องให้พ้นความผิดไปเพราะเคยให้ บอส วรยุทธ อยู่วิทยา พ้นความผิดไปแล้วก็กลายเป็นแบบอย่างที่ไม่ควรเอาอย่าง ซึ่งจุดนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวล”
นายวิชากล่าวว่า รายงานที่จะส่งนายกฯวันที่ 31 ส.ค. จะเขียนถึงกระบวนการ ว่ากระบวนการไหนบกพร่องอย่างไร และ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ไม่ระบุว่าจะต้องเอาผิดใคร จะเป็นเพียงข้อเสนอ และให้หน่วยงานไหนตรวจสอบต่อ ตรงนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก ซึ่งในรายงานทั้งหมดจะเกี่ยวข้องทั้งตำรวจและอัยการทั้งกระบวนการ และเพื่อจะเชื่อมโยงไปดูรายละเอียดอีก 30 วันข้างหน้าในเรื่องของการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
ดังนั้นจึงต้องนำเสนอข้อมูลให้นายกฯ และเป็นที่น่าเชื่อถือของประชาชน ว่าสมควรแก่การปฏิรูปแล้ว และสมควรว่าองค์กรตำรวจและอัยการต้องให้เขาเห็นชอบโดยดุษฎียภาพ ไม่สามารถมาโต้แย้งได้ว่าจะมายุ่งเกี่ยวอะไรกับองค์กร ดังนั้นคณะกรรมการฯเราจึงต้องเสนอด้วยความชัดเจน และที่ตนพูดมาตลอดว่าคณะกรรมการฯไม่ใช่องค์กรผู้ชี้ขาด หรือชี้มูล เพียงแต่จะนำเสนอเพื่อให้นายกฯพิจารณา
“มีรายละเอียดทุกจุดเมื่ออ่านดูแล้ว ถึงกับต้องออกปากว่าขนาดนี้เลยเหรอ และจะฉายภาพรวมเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าในกระบวนการที่ทำนั้น ทำคนเดียวไม่ได้ แต่เป็นการทำในลักษณะที่จะใช้วิธีการทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา ในรายงานไม่ชี้ชัดว่าไปถึงไหน แต่เอาเป็นว่ามีผู้เข้าร่วมในกระบวนการนี้ทุกภาคส่วนเป็นมหากาพย์ เหมือนดูละคร จะมีรายละเอียดทั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนจะเปิดเผยเหรือไม่แล้วแต่นายกฯ ผมไม่เปิดเผยเอง” นายวิชา กล่าวปิดท้าย
+ อ่านเพิ่มเติม