นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ระบุว่าเตรียมเสนอรายงานฉบับเต็ม ถึงนายกรัฐมนตรี ในวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคมนี้ เนื่องจากเป็นกรอบเวลาที่ได้รับกำหนด จึงพยายามเร่งทำงานเต็มที่ จนได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทั้งการทำสำนวนส่งอัยการ การร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้ง จนทำให้เห็นภาพความบกพร่องชัดเจน
นายวิชายังระบุว่า นายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับรายงานความคืบหน้าก่อนหน้านี้ ว่าผู้บังคับบัญชาสูงสุดขององค์กรต้องรับผิดชอบ แม้ไม่พบว่าผิดกฎหมายแต่อาจผิดจริยธรรม รุนแรง จากการไม่ติดตามกำกับดูแลให้ถูกต้อง ส่วนจะเป็นใครบ้างย่อมรู้แก่ใจว่าตัวเองดี
รายงานฉบับที่จะส่งนายกรัฐมนตรีนี้ ยังไม่ลงลึกข้อเสนอแนะที่จะปฏิรูปกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ได้เสนอขอต่อเวลาอีก 30 วัน เพื่อศึกษารายละเอียด และขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี จะพิจารณา ส่วนกรณีที่กองการต่างประเทศ ถอนหมายแดงของนายวรยุทธ ทั้งที่หมายจับในประเทศยังมีอยู่นั้น นายวิชาระบุว่าผู้เกี่ยวข้องอ้างว่าเป็นไปตามวิธีปฎิบัติ เมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้อง กระบวนการถอนหมายแดงจึงเกิดขึ้น ทั้งที่หมายจับในประเทศยังมีอยู่ ซึ่งก็เป็นหนึ่งข้อบกพร่องเช่นกัน
ขณะที่การเสียชีวิตของนายจารุชาติ มาดทอง ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตำรวจแยกสอบสวนเป็นสองประเด็น คือกรณีอุบัติเหตุเสียชีวิต ไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่การที่โทรศัพท์ นายจารุชาติถูกทำลายนั้น ตำรวจภูธรภาค 5 กำลังสอบหาข้อเท็จจริง
วันเดียวกันนี้ เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ นำข้อมูลหลักฐานที่เชื่อได้ว่านายวรยุทธ อาจมึนเมาขณะขับรถ จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเข้าฐานความผิดเมาแล้วขับ เพื่อให้คณะกรรมการฯเชิญผู้เกี่ยวข้องมาไต่สวน และมูลนิธิเมาไม่ขับยินดีจะเป็นพยาน โดยนายวิชาระบุว่าเป็นข้อมูลที่ดี และจะติดต่อกลับไปในภายหลัง
ขณะที่พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่าตำรวจนครบาลทองหล่อ ส่งหมายจับใหม่ 3 ข้อหาของนายวรยุทธ คือขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต/ ไม่จอดรถให้การช่วยเหลือตามเหตุอันควร/ และเสพย์สิ่งเสพติด ถึงตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแล้ว โดยหมายจับถูกนำเข้าสารระบบตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจากนี้ไปหากพบนายวรยุทธปรากฎตัวที่ด่านใด สามารถควบคุมตัวได้ทันที
+ อ่านเพิ่มเติม