อ่านสรุปม้วนเดียวจบ “คดีน้องชมพู่” ก่อนหน้านี้
- 11 พ.ค.63 เกิดเหตุเด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หายตัวลึกลับจากบ้านพักจังหวัดมุกดาหาร
- 14 พ.ค.63 ชาวบ้านขึ้นภูเขาไปเก็บเห็ด และได้พบศพน้องชมพู่ สภาพนอนเปลือยกาย อยู่บนภูเขาห่างจากบ้านประมาณ 1,700 เมตร จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
-18 พ.ค.63 รองโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ ระบุถึงผลชันสูตรศพของน้องชมพู่(ผลชันสูตรศพครั้งที่ 2)ว่า พบร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย และอวัยวะเพศมีบาดแผลฉีกขาด แพทย์จึงเก็บตัวอย่างของเหลวในช่องคลอดไปตรวจหาอสุจิ
#ขนหงิกงอบนตัวน้องชมพู่
- 18 มิ.ย.63 มีรายงานเกี่ยวกับ 2เบาะแสใหม่ โดยเบาะแสแรก คือ เส้นขนที่พบในตัวน้องชมพู่มีดีเอ็นเอเดียวกันกับน้องชมพู่ แต่มองด้วยกายภาพเส้นขนดังกล่าว มีลักษณะหงิกงอ ซึ่งผิดปกติที่จะเป็นเส้นของขนของเด็กวัย 3 ขวบ และเบาะแสที่สอง คือ พบขนสุนัขบนตัวของน้องชมพู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บขนสุนัขที่อยู่ใกล้บ้านน้องชมพู่มาตรวจเปรียบเทียบ
- 19 มิ.ย.63 พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ระบุกับสื่อว่า กรณีที่มีหลักฐานเป็นเส้นขนมีดีเอ็นเอเดียวกันน้องชมพู่นั้น ต้องรอผลตรวจจากพิสูจน์หลักฐานรายงานเป็นเอกสารยืนยันอีกครั้ง ส่วนความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้ได้ตีวงให้แคบลง เหลือผู้ต้องสงสัยจำนวนน้อยลง แต่บอกไม่ได้ว่ามีจำนวนกี่คน
#ออกหมายจับนริน
- 24 มิ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจขอศาลออกหมายจับชายในหมู่บ้านของ “น้องชมพู่”(บ้านอยู่ห่างน้องชมพู่ 400 เมตร) ทราบชื่อคือ นายนริน เชื้อคมตา อายุ 48 ปี ในข้อหา “กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี” หลังพบก่อเหตุในคดีทำอนาจารเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ซึ่งเป็นหลานสาว
- โดยรายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนสอบสวนคดีของน้องชมพู่ พบว่า เมื่อประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2563 มีเด็กหญิงอายุประมาณ 5 ขวบ เล่นอยู่หน้าบ้าน ผู้ปกครองอยู่ภายในบ้าน นายนรินได้ใช้นิ้วมือกระทำอนาจาร จนเด็กหญิงต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
- 25 มิ.ย.63 ภรรยาของนายนริน ผู้ต้องหาคดีอนาจารเด็ก 5 ขวบ ได้ขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความจังหวัดมุกดาหาร เพื่อขอจัดทนายร่วมสอบสวนคดีฯ เพื่อให้ความยุติธรรมแก่ครอบครัวตนเอง ซึ่งคดีดังกล่าว นายนริน ได้ให้การปฏิเสธ
#จับพิรุธนริน
- ส่วนคดีน้องชมพู่ นายนริน มีโอกาสพบกับสื่อ และได้ยืนยันสั้นๆ ผ่านสื่อว่า “ไม่ได้ทำ” ส่วนวันที่ 11 พ.ค. วันที่น้องชมพู่หายตัวไป นายนรินบอกว่า “ผมก็นอนอยู่ในบ้านครับ ไม่ได้ออกไปข้างนอก”
- 13 มิ.ย.63 ก่อนถูกออกหมายจับ นายนริน เล่าให้สื่อฟังว่า ตั้งแต่ 11-13 พ.ค. นอนอยู่บ้านทั้งวัน เพราะเหนื่อย และเมื่อยจากการขึ้นเขาไปตัดไม้
- 17 พ.ค.63 ก่อนถูกออกหมายจับ นายนริน เล่าให้สื่อฟังว่า11 พ.ค. ผมไปเก็บผักหวานบนภูผาเหี้ยะ กลับมาถึงบ้าน 2 ทุ่ม ผมไม่ได้ทำ ไม่เกี่ยวข้องแน่นอน 100%
- นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ลุงเขยของน้องชมพู่ เล่าให้ทีมข่าวช่อง 3 ฟังว่า นายนรินเป็นพรานป่า ชำนาญการเดินป่า และเดินขึ้นเขาลงเขาเพื่อล่าสัตว์อยู่บ่อยครั้ง วันแรกที่ขึ้นไปตามหาน้องชมพู่และพบศพน้อง ลุงยังจำได้ว่าบริเวณนั้นมีกับดักจับสัตว์ แต่ไม่ได้ปักใจเชื่อว่าเป็นของนายนริน และในวันต่อมาได้ขึ้นไปที่จุดพบศพ แต่กับดักถูกรื้อไปหมดแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นเพราะนายพรานกลัวจะตกเป็นผู้ต้องสงสัย และวันที่น้องหายตัวไปยังมีคนเห็นว่านายนรินใส่เสื้อสีส้มอีกด้วย
#คดีคืบหน้า 70%
- 25 มิ.ย.63 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ระบุว่า กรณีการออกหมายจับนายนริน เป็นการกระทำความผิดในคดีอนาจาร ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความผิดในคดีของน้องชมพู่
- “กรณีนายนริน หลังสืบสวนไปเรื่อยๆ เราพบว่าเขาไปกระทำความผิดในอีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเราทราบก็ต้องทำไปตามหน้าที่ของตำรวจ จึงนำไปสู่การรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับ” พล.ต.อ.สุวัฒน์ รองผบ.ตร. กล่าว
- “ที่ผ่านมาผมไม่เคยพูดว่านายนรินเป็นผู้ต้องสงสัย และยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนพูดด้วย ยังไม่มีการบอกว่าเขากระทำความผิดอะไรเลยในคดีน้องชมพู่ โดยคดีน้องชมพู่ มีพยานประมาณ 272 คน บางคนถูกตำรวจเรียกตัวมาสอบซ้ำๆ หลายครั้ง ซึ่งมันเป็นเทคนิคการสอบสวน” พล.ต.อ.สุวัฒน์ รองผบ.ตร. กล่าว
- “การรักษาความลับในคดีเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งเปิดเผยมาก เรายิ่งทำงานยาก แต่เราจะทำให้ดีที่สุด ตอนนี้เราดำเนินการไปแล้วใกล้ๆ 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 30 เปอร์เซ็นต์ไปไหน ถ้าพูดได้ก็คงพูดไปแล้ว” พล.ต.อ.สุวัฒน์ รองผบ.ตร. กล่าว
#บุกรวบชายสติไม่สมประกอบ
- 25 มิ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวชายสติไม่สมประกอบ โดยพลเมืองดีพบว่า ชายรายนี้เดินลงมาจากภูเหล็กไฟ จุดที่พบศพน้องชมพู่ และทันทีที่ชายรายนี้เห็นตำรวจก็พยายามวิ่งหลบหนี จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวิ่งตาม และนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.กกตูม
- เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำชายรายนี้ พบว่า ชื่อนายสงบ(สงวนนามสกุล) มีภูมิลำเนาอยู่ จ.สุรินทร์ แต่ไปอาศัยที่ กทม. เพิ่งเดินทางมาที่ จ.มุกดาหาร โดยเดินทางมาเรื่อยๆ อาศัยพักตามทาง และเมื่อสองคืนที่ผ่านมาไปนอนบนภูเหล็กไฟ
- จากการเปิดถุงกระสอบของนายสงบ พบข้าวของ ทั้งมุ้ง น้ำดื่ม กล้วยดิบ เชือก กะลาตาเดียว มีด กรรไกร และอุปกรณ์ยังชีพ แต่พบสิ่งที่ต้องสงสัย คือ เสื้อเด็ก หนังสือเรียนของเด็ก กระเป๋าเป้เด็กนักเรียน และเส้นผมที่ถูกตัดออกมา มีด ภาพโป๊ และกระดาษที่เขียนข้อความแปลกๆ เหมือนคาถาเกี่ยวกับความตาย มีข้อความ อาทิ เย-ขีดตายตาย ขีด ขีด ทำทำ เป็นต้น ซึ่งจะมีการตรวจสอบดีเอ็นเอนายสงบเทียบคดีน้องชมพู่ และตรวจสอบสภาพจิตด้วย
- พ.ต.อ.นพศิลป์ สอบถามนายสงบ ให้การว่า เส้นผมที่พบเป็นผมที่ลุงตัดผมตัวเองและเก็บไว้ เสื้อผ้าและของใช้เด็ก ลุงเก็บมาจากข้างทาง โดยเสื้อเด็กจะเอามาซ่อมกระเป๋าที่ขาด ส่วนภาพผู้หญิงก็เก็บไว้ดู และเป็นคนรักเด็ก
- แม่น้องชมพู่ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า แม่สนใจผู้ชายคนนี้อยู่ เส้นผมบางส่วนตรงกับลักษณะผมของน้องชมพู่ ที่เป็นเส้นบางๆ และผมเส้นเล็กๆ แต่ก็มีผมคล้ายๆ ของผู้ใหญ่ปะปน ซึ่งแม่ติดใจทำไมเขาต้องเก็บเส้นผมไว้ด้วย.