จากกรณีที่ ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ ป่วยด้วยอาการหินปูนในหูหลุด จนทำให้เกิดอาการบ้านหมุน โดยล่าสุดเจ้าตัวได้ทวิตข้อความลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเธอว่า "สิ่งที่กลัวมากที่สุดตอนนี้ คือกลัวเป็นโรคนี้ไม่หาย แล้วจะกระทบกับงาน เครียดเรื่องนี้สุดแล้วตอนนี้"
“หินปูนในหูหลุด” เป็นอาการที่พบได้โดยทั่วไป โดยนายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ และโฆษกกรมการแพทย์ เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 3 ออนไลน์ เกี่ยวกับรายละเอียดของอาการ “หินปูนในหูหลุด” หรือ “โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด” เอาไว้อย่างน่าสนใจ ทีมข่าวไล่เรียงให้คุณเข้าใจง่ายๆ ดังต่อไปนี้
สาเหตุ
ปกติ ภายในหูชั้นในมีอวัยวะควบคุมการทรงตัว และการได้ยิน ซึ่งอวัยวะควบคุมการทรงตัว จะมีตะกอนหินปูน เคลื่อนไปมาแต่ไม่หลุด และเมื่อมีสาเหตุบางประการทำให้ตะกอนหินปูนดังกล่าวหลุด ตะกอนหินปูนก็จะ เคลื่อนที่ไปมา และกระตุ้นให้เกิดอาการเวียนศีรษะแบบหมุนขึ้นมาได้
โดยสาเหตุที่ทำให้ตะกอนหินปูนหลุดนั้น มาจากปัจจัยหลายประการ ยกตัวอย่างเช่น
- การเคลื่อนไหวศีรษะซ้ำๆ เช่น การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งจำเป็นต้องก้มๆ เงยๆ อยู่บ่อยครั้ง
- เกิดอุบัติเหตุบริเวณศีรษะ
- การติดเชื้อ
- ความเสื่อมไปตามวัย
- การผ่าตัดหูชั้นกลาง หรือหูชั้นใน
อาการ
- เวียนศีรษะ บ้านหมุน รู้สึกโคลงเคลง หรือเสียการทรงตัว
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ตากระตุก ทำให้มอง หรืออ่านไม่ชัด
- มักจะนานประมาณวินาที หรือนาที หลังมีการเคลื่อนไหว หรือมีการเปลี่ยนท่าทางของศีรษะ
หมายเหตุ : ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ จะไม่มีอาการหูอื้อ ไม่มีแขนขาชาหรืออ่อนแรง
การรักษา
โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการ1.รักษาด้วยยา2.การทำกายภาพบำบัด และ3.การผ่าตัด ซึ่งโรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด แม้แพทย์จะรักษาผู้ป่วย จนผู้ป่วยไม่มีอาการเวียนศีรษะแล้ว แต่ผู้ป่วยอาจกลับมามีอาการได้อีก ซึ่งก็สามารถควบคุมอาการได้ด้วยยาและกายภาพบำบัด
วิธีป้องกันเบื้องต้น
- เวลานอน ควรหนุนหมอนสูง เพื่อหลีกเลี่ยงการนอนราบ
- ตอนตื่นนอนตอนเช้า ควรลุกขึ้นจากเตียงนอนช้าๆ
- หลีกเลี่ยงการก้มเก็บสิ่งของ
- ไม่ควรออกกำลังกาย ที่มีการเคลื่อนไหวของศีรษะ หรือลำตัวมาก
- เวลานอน หลีกเลี่ยงการนอนหงาย ในท่าเงยคอ และหันไปทางหูด้านที่จะทำให้เกิดอาการ.