'อนุทิน' แถลงพาคนไทยกลับบ้านสำเร็จ พร้อมสัญญาณดีคนไทยที่ติดเชื้อคนแรกหายดีแล้ว

475 ครั้ง

05 ก.พ. 2563

แชร์ข่าวไปที่

กรณีการนำคนไทยในเมืองอู่ฮั่นประเทศจีน เดินทางกลับถึงประเทศไทย โดยสายการบินแอร์เอเชีย เดินทางออกจากเมืองอู่ฮั่นเวลาประมาณ 16.30น. ถึงประเทศไทย 20.40 น. ของเมื่อวานนี้ ( 04 ก.พ. 63 )ที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา

เวลาประมาณ 21.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวอย่างเป็นทางการถึงภาพรวมในการไปรับคนไทยกลับจากเมืองอู่ฮั่นประเทศจีน มีคนไทยเดินทางกลับมา 138 คน จากเดิมที่เคยมีจำนวนมากกว่านี้ เนื่องจากมีคนไทยอีก 3 คนที่ไม่ได้เดินทางกลับมาด้วย โดยมี 2 คนที่ทางการจีนตรวจพบว่ามีไข้สูงเกินมาตรฐานคือไม่เกิน 37.3 องศา แต่คนไทย 2 คนดังกล่าวมีไข้สูงถึง 37.4 องศา และ 37.5 องศา อย่างไรก็ตามทาการจีนต้องทำการกักตัวเอาไว้ตามขั้นตอน และคนไทยอีก 1 คนที่ไม่ได้เดินทางกลับมาด้วยเพราะวีซ่าขาด

ขณะที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข บอกว่าจากการตรวจคัดกรอง มีจำนวน 6 รายมีไข้ในระหว่างการเดินทาง แต่เป็นไข้ที่ไม่ได้สูงมากนัก เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวไปรักษาที่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เพื่อเฝ้าระวังและนำผลตรวจเข้าห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบ ถ้าหากอาการยังไม่ดีขึ้น จะทำการส่งตัวต่อไปที่โรงพยาบาลนจังหวัดชลบุรี แต่ถ้าหากอาการดีขึ้นจะส่งตัวไปที่อาคารรับรอง ส่วนคนที่เหลือมีทีมแพทยืคอยดูแลตลอดทุก 12 ชั่วโมง ถ้าไม่มีไข้จะเฝ้าระวังกันตามปกติ ซึ่งทางนายอนุทิน บอกว่าการที่คนไทย 6 คนมีไข้ อาจเกิดจากการเดินทาง อ่อนเพลียขาดน้ำเป็นเหตุให้มีไข้ได้ แต่ยืนยันว่าทุกคนมีการตรวจวัดอุญหภูมิก่อนจะขึ้นเครื่องจากจีนแล้ว

ส่วนในเรื่องของการเข้าเยี่ยมของญาติ จะเข้าเยี่ยมได้ผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ต้องรอให้พ้นช่วงของการเฝ้าระวังในช่วง 3 วันไปก่อน และในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ คนไทยทั้ง 138 คน ถ้าตรวจไม่พบเชื้อใดๆ จึงจะสามารถกลับบ้านได้

ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์ ระบุว่า ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 6 ราย เป็นคนไทย 4 ราย ชาวจีน 2 ราย

ซึ่งในจำนวนคนไทย 4 รายที่ติดเชื้อ 2 รายเป็นสามีภรรยากันไปเที่ยวญี่ปุ่นกลับมาแล้วป่วย ส่วนอีก 2 ราย เป็นคนขับรถรับจ้างไม่ประจำทาง รับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ป่วย โดยคนหนึ่งมีอาการหนัก ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เนื่องจากมีภาวะผสม 2 โรค คือวัณโรค และติดเชื้อไวรัสโคโรนา

ซึ่งในขณะนี้ข้อมูลยืนยันมีผู้ติดเชื้อที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 17 คน กลับบ้านได้แล้ว 8 คน รวมผู้ป่วยสะสม 25 คน สำหรับผู้ป่วยยืนยันใหม่ 6 คน พบว่า 5 คนอาการดีขึ้นเมื่อผลตรวจของทางห้องปฏิบัติการเป็นลบก็สามารถกลับบ้านได้ ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ป่วยอายุ 70 ปี ที่รับส่งต่อมาจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ และส่งตัวไปยังโรงพยาบาลบำราศนราดูร โดยผลวินิจฉัยพบว่าเป็นวัณโรคด้วยและยังติดเชื้อโคโรนาด้วย พบว่ามีประวัติรับ-ส่ง กรุ๊ปทัวร์ชาวจีน

ส่วนกรณีที่เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับมาจากไทยนั้น นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดวิทยา และที่ปรึกษากรมควบคุมโรค เปิดเผยว่ายังสรุปไม่ได้ว่าติดเชื้อจากไทยจริงหรือไม่ เพราะทั้งที่ไทยและเกาหลีใต้ มีการระบาดของไวรัสโคโรนา ยังต้องรอผลยืนยัน

ทั้งนี้คนไทยที่ติดเชื้อโคโรนารายแรกของไทย นางใจ้ม่วย แซ่อึ๊ง อาม่าวัย 73 ปีได้หายเป็นปกติแล้ว หลังจากที่ไปเที่ยวเยี่ยมญาติที่อู่ฮั่นเมื่อ 25 ธันวาคม 2562 และเดินทางกลัยไทยเมื่อ 3 มกราคม 2563 กลับมาได้ 14 วัน เริ่มมีไข้หายใจเหนื่อย อ่อนเพลีย ซึ่งได้รับการรักษาตามแนวทางเพื่อปกป้องการติดเชื้อ และนอนพักรักษาตัวในห้องแยกความดันลบ ถ่ายภาพรังงษีปอดติดตามโรค จนผลตรวจเป็นบลติดต่อกันถึง 2 ครั้ง พ้นระยะการแพร่กระจายของเชื้อ ทางโรงพยาบาลก็ให้ผู้ป่วยเดินทางกลับบ้าน หลังเข้ารับการรักษาเป็นเวลา 10 วัน

ขณะที่นางใจ้ม่วย แซ่อึ๊ง อาม่าวัย 73 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม ผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนาไวรัสรายแรกของไทย เผยว่า ได้เดินทางไปเที่ยวที่เมืองอู่ฮั่นประเทศจีน กับลูกสาวและญาติรวม 18 คน ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และบนเขาแต่ไม่ได้ไปตลาดสดเลย ไม่รู้ว่าติดเชื้อมาจากที่ไหน

รับชมผ่ายูทูบได้ที่ : https://youtu.be/xetfmM9PCRg

แชร์ข่าวไปที่

อนุทินชาญวีรกูล

โคโรนา

พาคนไทยกลับบ้าน

ใจ้ม่วย แซ่อึ๊ง

คนไทยที่ติดเชื้อรายแรก