logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ศาลรัฐธรรมนูญ ตีตกคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ปมมติรัฐสภาห้ามเสนอชื่อ “พิธา” ซ้ำ !

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ความเคลื่อนไหวการเมือง ความชัดเจนจากการพูดคุยหารือ แบ่งเก้าอี้ การจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย แ ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

208 ครั้ง
|
16 ส.ค. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ความเคลื่อนไหวการเมือง ความชัดเจนจากการพูดคุยหารือ แบ่งเก้าอี้ การจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย แม้จะยังไม่มีอะไรที่ชัดเจนคืบหน้าจากเมื่อวานมากนัก แต่ที่ชัดเจนแล้ววันนี้ คือศาลรัฐธรรมนูญ ได้ตีตกคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ปมมติรัฐสภาห้ามเสนอชื่อ พิธา ซ้ำรอบที่ 2
 
ศาลรัฐธรรมนูญ ตีตกคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ปมมติรัฐสภาห้ามเสนอชื่อ พิธา ซ้ำ
 
วันนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาคำร้องที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่า กรณีรัฐสภา มีมติตีความว่าการเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบในรอบที่สอง เป็นญัตติทั่วไป ห้ามนำเสนอญัตติซ้ำอีก ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เป็นการละเมิดสิทธิ หรือเสรีภาพของผู้ร้องเรียนหรือไม่
 
ภายหลังการประชุม ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า บุคคลที่มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ต้องเป็นบุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิ หรือเสรีภาพโดยตรง สำหรับกระบวนการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรี รัฐธรรมนูญ ให้สภาพิจารณาให้ความเห็นชอบเฉพาะจากบุคคลที่พรรคการเมืองเสนอ และเป็นผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ ดังนั้น ผู้มีสิทธิที่จะได้รับการพิจารณาได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาต้องเป็นผู้ที่พรรคการเมืองเสนอ
 
เมื่อผู้ร้องเรียนทุกคนไม่ใช่บุคคลที่พรรคการเมืองแจ้งรายชื่อไว้ ว่าจะเสนอรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกฯ ทั้งไม่ได้เป็นบุคคลที่พรรคการเมืองเสนอชื่อต่อรัฐสภา ผู้ร้องเรียนทุกคนจึงไม่ใช่ผู้ถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพโดยตรง ไม่อาจใช้สิทธิยื่นคำร้องเรียนได้
 
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณา เนื่องจากผู้ร้องทั้ง 3 ไม่ใช่ผู้ถูกละเมิดสิทธิโดยตรง เมื่อมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว คำขอให้คำสั่งชะลอการโหวตนายกรัฐมนตรีออกไป จึงเป็นอันตกไป สำหรับผู้ร้องเรียนเรื่องนี้ต่อผู้ตรวจการแผ่นดินมี 3 คน คือ รศ.พรชัย เทพปัญญา, ผศ.ดร.บุญส่ง ชเลธร และ นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ และคณะ
 
วันนอร์ นัดพรุ่งนี้ประชุมฝ่ายกฎหมายรัฐสภา วันโหวตนายกฯ
 
หลังทราบมติของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน มีรายงานว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา หารือกับทีมกฎหมายของสภาฯ โดยยังไม่มีความชัดเจน ต่อการนัดประชุมรัฐสภา อย่างไรก็ตาม นายวันมูหะมัดนอร์ ได้เรียกประชุมฝ่ายกฎหมายอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในวันที่ 17 สิงหาคม จากนั้นวันที่ 18 สิงหาคม จะเรียกประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อกำหนดวันเลือกนายกฯ
 
นัดโหวต นายกฯ วันที่ 22 ส.ค.นี้
 
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา แถลงข่าวว่า ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็ถือว่า สิ่งที่รัฐสภาได้ประชุมไปแล้ว เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ขัดต่อสิ่งที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งไป ฉะนั้นในวันพรุ่งนี้ (17 ส.ค) เวลา 14.00 น.จะมีการพิจารณารายละเอียดคำวินิจฉัยของศาล ก่อนจะนำเรื่องหารือ 3 ฝ่าย โดยเบื้องต้นจะมีการเชิญสมาชิกรัฐสภา ประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ซึ่งตนเองได้หารือกับประธานวุฒิสภาเรียบร้อยแล้ว
 
สว.สมชาย เผย วันนอร์ เคยแจ้งนัดโหวตนายกฯ 22 ส.ค.
 
ขณะที่ สว. สมชาย แสวงการ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา หรือ วิปวุฒิสภา บอกว่า เบื้องต้น นายวันมูหะมัดนอร์ ได้หารือกับ นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง ระหว่างไปร่วมการประชุมรัฐสภาอาเซียน ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งได้แจ้งว่าจะนัดประชุมรัฐสภาในวันที่ 22 สิงหาคม ทำให้นายศุภชัย ในฐานะวิปวุฒิสภา ได้แจ้งต่อที่ประชุมวิปวุฒิสภา ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อแจ้งให้สมาชิกรับทราบข้อหารือดังกล่าว แต่เมื่อวานนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ ได้พบกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในการประชุมของสถาบันพระปกเกล้า ได้แจ้งขอเปลี่ยนแปลงวันที่แจ้งไปเบื้องต้น แต่ สว. เห็นว่าได้แจ้ง สว. ไว้แล้ว หากจะเปลี่ยนวันอาจไม่สามารถทำได้ เพราะ สว.หลายคนติดภารกิจลงพื้นที่ ทั้งงานของกรรมาธิการและโครงการ สว.พบประชาชน
 
รังสิมันต์ ยันเสนอญัตติให้สภาทบทวนปมโหวตนายกฯ ซ้ำได้
 
ส่วนแกนนำพรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญตีตกคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่า พรรคก้าวไกลยืนยันมาโดยตลอดว่า กรณีแบบนี้ สภาควรจะว่ากันเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้องค์กรภายนอกอย่างศาลรัฐธรรมนูญเข้ามา อะไรก็ตามที่ทำไม่ถูกต้องและทำผิดไปโดยหลักการทั้งหมด สภามีอำนาจที่จะแก้ไข การที่สภาเคยมีมติว่า ญัตติที่เสนอชื่อนายพิธา เป็นนายกฯ ซ้ำ ไม่สามารถทำได้ มันเป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งได้เสนอญัตตินี้และได้มีการรับรองถูกต้องแล้ว ดังนั้นในการเลือกนายกฯ ครั้งต่อไป พรรคก้าวไกล ยืนยันที่จะเสนอญัตตินี้ต่อไป และหวังว่ากระบวนการตรงนี้ จะทำให้สภาได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
 
ศาล รธน. ขยายเวลา พิธา-ก้าวไกล ยื่นคำชี้แจง นโยบายแก้ไข ม. 112
 
เรื่องของพรรคก้าวไกล และนายพิธา ที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ นอกจากการตีตกคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว ยังมีอีก 2 เรื่องที่อยู่ในศาล คือเรื่องหุ้นไอทีวี และเรื่องการหาเสียงจะแก้มาตรา 112 ซึ่งในวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องของผู้ถูกร้องทั้งสอง คือนายพิธา และพรรคก้าวไกล ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาครั้งที่สอง ออกไปอีก 30 วัน นับถัดจากวันครบกำหนดขยายระยะเวลา ครั้งแรกแล้ว โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งอนุญาตตามคำขอ นั่นคือขยายเวลาออกไปอีก 30 วัน
 
อนุทิน ย้ำโควตารัฐมนตรี ต้องจบก่อนโหวตนายกฯ
 
ในส่วนความเคลื่อนไหวการจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความคืบหน้า และโควตารัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ว่า เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว พร้อมปฎิเสธกระแสข่าวการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลไม่ลงตัว โดยยืนยัน ไม่เคยมีเรื่องเคลียร์ไม่ลงตัว อย่ากังวลไปก่อน พร้อมยอมรับโควตาในส่วนพรรคภูมิใจไทย มีดูแล 4 กระทรวง ได้มีการพูดคุยกันเบื้องต้นแล้ว ไม่ได้มีเรื่องน่ากังวลอะไร เพราะส่วนใหญ่การพูดคุย จะเน้นเรื่ององค์รวมในการจัดตั้งรัฐบาล
 
ทั้งนี้ หากพรรคได้ดูแลกระทรวงเดิม มีความต่อเนื่องก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ไม่ได้มีข้อจำกัดอะไร แต่ทั้งนี้ควรหารือเรื่องโควตารัฐมนตรี ให้จบก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรี และน่าจะมีการนัดพูดคุยใน 2-3 วันนี้ รวมถึงกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทย จะขอดูแลกระทรวงด้านเศรษฐกิจเองทั้งหมด
 
ภูมิธรรม ย้ำยืนบนหลักประชาธิปไตยไม่เปลี่ยน ภายใต้ทางเลือกที่คับแคบ
 
ส่วนในฟากของพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กตั้งแต่เช้า เนื้อหาโดยสรุปประมาณว่า การดำเนินงานการเมืองของพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้ กับความพยายามคลี่คลายความขัดแย้งที่ดำรงอยู่มาเป็นเวลายาวนานกว่า 20 ปี หัวใจสำคัญ คือแต่ละฝ่ายยอมถอยออกคนละก้าว ให้มาอยู่ในจุดที่ทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชนกระบวนทัศน์เดิมในทางการเมือง มองพรรคการเมืองคู่แข่งคือการเอาชนะคะคานกัน
 
กระทั่งปัจจุบันยังเพิ่มอารมณ์เหยียดหยามด้อยค่าอีกฝ่ายที่ไม่ใช่ฝ่ายเราอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ หากเปลี่ยนมุมคิดโดยใช้การเมือง เป็นเวทีที่ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำงานร่วมกัน ช่วยสลายขั้วความขัดแย้ง และนำพาบ้านเมืองออกจากหล่มความขัดแย้งดังกล่าว
 
การคิดและดำเนินการเพื่อให้ประสบผลสำเร็จในภารกิจใหญ่เช่นนี้ มิใช่เรื่องง่ายสำหรับพรรคเพื่อไทย เพราะในอดีตเคยเป็นฝ่ายถูกกระทำมาโดยตลอด แต่ภายหลังการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันภายในพรรค ได้ข้อสรุปที่ตระหนักดีว่า หากจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีของสังคมอย่างที่ทุกคนคาดหวัง พรรคเพื่อไทยต้องคิดใหญ่ ด้วยใจที่ใหญ่ ใจที่กว้าง ภายใต้สถานการณ์ทางเลือกที่คับแคบ อย่างยิ่ง
 
เฉลิมชัย ยัน เพื่อไทย ยังไม่ติดต่อร่วมรัฐบาล
 
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงทิศทางโหวตเลือกนายกฯ ว่า กรรมบริการบริหารพรรคชุดรักษาการ มีอำนาจเต็มในการตัดสินใจ เมื่อมีข้อเสนออย่างใดอย่างหนึ่งออกมา ก็สามารถเรียกประชุม สส. เพื่อมีมติได้ พร้อมยืนยันว่า วันนี้กรรมการรักษาการ และ สส. มีอำนาจเต็มอยู่แล้วและทุกเรื่อง ถ้าหากจะต้องตัดสินใจบางอย่าง ก็สามารถเรียกประชุมเพื่อตัดสินใจได้ทุกเรื่อง แต่ในส่วนของการร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วมก็ต้องประชุมร่วมกับ สส. ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับพรรค ซึ่งเมื่อมีมติแล้ว สส. สามารถดำเนินการตามมติพรรคได้เลยไม่มีอะไรสะดุด ส่วนพรรคเพื่อไทยได้ติดต่อพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลมาแล้วหรือไม่ นายเฉลิมชัย ยืนยันว่า ส่วนตัวยังไม่มี และพูดเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว
 
ปชป. ส่ง นพ.บัญญัติ ชิงเก้าอี้ สส.เขต 3 ระยอง
 
ส่วนการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 3 จังหวัดระยอง พรรคประชาธิปัตย์ มีมติส่ง นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ อดีต สส.ระยอง 3 สมัย ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัครเดิม ลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยพรรคประชาธิปัตย์ เผยว่า นพ.บัญญัติ เป็นผู้ที่ทำงานในสภาฯ มาอย่างต่อเนื่อง และไม่มีประวัติด่างพร้อยทางด้านทุจริตคอร์รัปชัน หรือการปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม จึงมั่นใจในคุณสมบัติที่จะเป็นตัวแทนของคน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง แม้กระแสภาพรวมของพรรคก้าวไกล จะมาแรง ก็ยังมีความมั่นใจในผู้สมัคร ที่มีความดีและความพร้อมของประชาธิปัตย์
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube https://youtu.be/if2aUTkzOy0

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง