อธิบดีฯเร่งตรวจสอบเรือนจำพิษณุโลก กรณีผู้ต้องขังเสียชีวิต 5 รายติด ยันไม่ใช่โรคติดต่อ
logo ข่าววันใหม่

อธิบดีฯเร่งตรวจสอบเรือนจำพิษณุโลก กรณีผู้ต้องขังเสียชีวิต 5 รายติด ยันไม่ใช่โรคติดต่อ

ข่าววันใหม่ : พิษณุโลก-หลังมีผู้ต้องขังเสียชีวิตไล่เลี่ยกันจำนวน 5 คน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ส่งชุดคัดกรองโ พิษณุโลก,ผู้ต้องขังเสียชีวิต,เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก,โรงพยาบาลวังทอง,พตอณรัชต์เศวตนันทน์,อธิบดีกรมราชทัณฑ์

2,132 ครั้ง
|
05 ม.ค. 2563

พิษณุโลก-หลังมีผู้ต้องขังเสียชีวิตไล่เลี่ยกันจำนวน 5 คน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ส่งชุดคัดกรองโรคเข้าตรวจคัดกรองในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก พร้อมยืนยันเบื้องต้นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ต้องขัง ไม่ใช่โรคติดต่อร้ายแรง

 

พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้ต้องขังป่วยเสียชีวิตในช่วงปีใหม่ไล่เลี่ยกันถึง5 คน ที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ส่งผู้อำนวยการกองบริการทางการแพทย์ รวมถึงผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมลงพื้นที่ไปตรวจสอบสาเหตุที่โรงพยาบาลวังทอง จ.พิษณุโลก

 

ต่อมาได้มีการสั่งสอบผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก หลังผู้ต้องขังป่วยเสียชีวิตในเรือนจำไล่เลี่ยกันถึง 5 คนในช่วงปีใหม่ ซึ่งต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพ เพื่อสรุปว่ามีข้อผิดพลาดหรือข้อบกพร่องในกระบวนการจัดซื้อและตรวจรับอาหารดิบหรือไม่

 

ทางด้าน นายแพทย์ปิยะ ศิริลักษณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ผู้ต้องขังเสียชีวิตไล่เลี่ยกันดังกล่าว เกิดตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2562 หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบผู้ต้องขัง ที่มีอาการป่วย พบว่ามีจำนวนหนึ่งที่มีอาการค่อนข้างรุนแรง จึงได้มีการเจาะเลือดพิสูจน์พบว่ามีเกลือแร่ค่อนข้างต่ำ มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูง ในรายที่รุนแรงได้ส่งโรงพยาบาลวังทองและโรงพยาบาลพุทธชินราช ทันทีเพื่อทำการรักษา จำนวน 11 ราย ส่วนผู้ที่อาการไม่หนักมาก ก็มีการให้ยารักษาตามอาการภายในเรือนจำส่วนผู้ป่วยที่อาการไม่หนักมากและต้องให้ยา จำนวนกว่า 200 คน จากการคัดกรองเบื้องต้นผู้ป่วยที่ทำได้เฉลี่ยวันละ 200 คน มาถึงวันนี้ได้จำนวนกว่า 1000 คน พบอาการผิดปกติในผู้ต้องขัง ทางแพทย์ได้เพียงตั้งข้อสงสัยยังไม่ฟันธงถึงสาเหตุของอาการป่วย 100% คงต้องรอผลจากห้องแลป ซึ่งต้องใช้เวลา 1-2 สัปดาห์

 

เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องอาหาร เป็นข้อสงสัยที่สุด โดยขอยืนยันว่าอาการป่วยต่อเนื่องของผู้ต้องขังไม่ใช่โรคระบาด ไม่ใช่โรคจากเชื้อโรคที่เกิดขึ้นภายในเรือนจำ จึงขอชี้แจงให้ประชาชนอย่าได้แตกตื่น ส่วนสาเหตุที่สันนิษฐานเกี่ยวกับเนื่องจากอาหาร เพราะนักโทษทุกคนได้สัมผัสร่วมกัน และจากการดูสภาพแวดล้อมภายในเรือนจำ ส่วนอื่นใด ที่อาจเป็นสาเหตุก็ไม่พบสภาพแวดล้อม ที่จะก่อให้เกิดโรคได้

 

อย่างไรก็ตาม วันนี้ตลอดทั้งวันได้มีหน่วยงานกองระบาด วิทยากรมราชทัณฑ์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาตรวจคัดกรองเพื่อสรุปผลว่าจะดำเนินการอย่างไร และในช่วงเวลา 18:00 น.

 

วันนี้จะมีการระดมสาธารณสุข จาก 9 อำเภอ พร้อมเครื่องมือ เพื่อตรวจชีพจรนักโทษถ้ามีสัญญาณชีพจร ผิดปกติก็จะทำการเจาะเลือด ตรวจอีกครั้งเพื่อทำการรักษา ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในจังหวัดพิษณุโลกมาเป้าหมายเดินทางมาที่เรือนจำเพื่อตรวจคัดกรองผู้ต้องขังป่วย จำนวนทั้งหมด 3,000 คน ให้แล้วเสร็จ

 

ในขณะที่เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 4 ม.ค. ที่วัดสนามไชย หมู่ 1 ต.มะต้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ญาติและชาวบ้านได้ร่วมกันฌาปนกิจศพ นายคเณศ ภูศรีเทศ อายุ 27 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตภายในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก

 

นายครรชิต ภูศรีเทศ อายุ 44 ปี พี่ชายของนายคเณศ เปิดเผยว่า น้องชายเสียชีวิตภายในเรือนจำโดยเจ้าหน้าที่เรือนจำแจ้งให้แม่ตนทราบว่าน้องชายเสียชีวิตแล้วเมื่อเวลาประมาณ 02.20 น. วันที่ 29 ธ.ค.2562 ตอนแรกไม่รู้สาเหตุก็คิดว่าถูกทำร้ายร่างหายหรือสาเหตุอื่น แต่แพทย์ที่ รพ.พุทธชินราช ระบุมาหลังจากทำการชันสูตรศพว่า เส้นเลือดหัวใจตีบเป็นเหตุการณ์ตาย ความจริงน้องชายตนไม่มีโรคประจำตัวสุขภาพแข็งแรงเพราะเป็นนักกีฬาด้วย แต่หลังถูกคุมขังก็เริ่มมีร่างกายอ่อนแรงมาเรื่อย ๆ จนพี่สาวซื้อนมมาให้เพื่อบำรุงร่างกายเพราะเชื่อว่าขาดแคลเซียม เจ้าหน้าที่เรือนจำคนหนึ่งบอกตนว่ามีคนป่วยลักษณะเดียวกันกับน้องชายตนจำนวนมาก บางคนวูบไม่มีสาเหตุ  ล่าสุดยังมีผู้ต้องขังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลประมาณ 10 ราย ตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว 4 คนรวมทั้งน้องชายของตน และทราบว่าเวลาประมาณ 02.00 น.วันเดียวกันนี้ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย

 

ด้าน น.ส.กนกวรรณ ภูศรีเทศ อายุ 48 ปี พี่สาวของนายคเณศ เปิดเผยว่า ตนติดใจสงสัยในการเสียชีวิตของน้องชาย อยากทราบสาเหตุที่แท้จริง ตอนแม่ไปเยี่ยมน้องชายบอกกับตนว่าเห็นน้องชายรูปร่างผอมผิดปกติ น้องตนจะพ้นโทษวันที่ 30 มกราคม 2563 แต่ก็ต้องมาเสียชีวิตไปก่อน ตอนนี้เจ้าหน้าที่เก็บชิ้นเนื้อในสมองไปตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตโดยละเอียดอีกครั้ง ประมาณ 1 เดือนจึงจะทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง น้องตนเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงก็ไม่ส่งให้แพทย์รักษา ทำเหมือนน้องหนูไม่ใช่คน ตนขอบอกเลยว่าติดใจสงสัยในการตายของน้องตนมาก ขอฝากให้ผู้มีอำนาจช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย ผู้ต้องขังก็เป็นคนเหมือนกันเช่นเดียวกับคนที่อยู่นอกเรือนจำ

 

 

ชมผ่านยูทูปที่นี่ :https://youtu.be/Kt_uJDz4wzk

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง