มีกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Aoitip Kamonmun” โพสต์ภาพนิ่งของชายที่มีบาดแผลบริเวณศีรษะ และสภาพโชคเลือด พร้อมข้อความว่า “แชร์ให้โลกรู้ว่าคนชั่วต้องได้รับผิด ฝากแชร์หน่อยนะค่ะ. พ่อนู๋อาการสาหัสได้เย็บหลายร้อยเข็ม” และ “พ่อค่ะอย่าเป็นอะไรมากเลยนะค่ะ. รอหนูก่อนนะ. กฎหมายจะเอาผิดคนชั่วให้ได้นู๋เชื่อว่าต้องเอาคนทำผิดมาลงโทษให้ได้สู้นะพ่อ”
ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อไปยังเจ้าของเฟสบุ๊ครายดังกล่าว ซึ่งทราบว่า ทำงานอยู่ในกรุงเพทมหานคร ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ต่อเนื่องวันที่ 1 มกราคม 2563 บิดาชื่อ นายอุทิศ กมลมูล อายุ 59 ปี ถูกวัยรุ่นในหมู่บ้าน ใช้มีดฟันศีรษะและทำร้ายร่างกาย ในหมู่บ้าน บ้านโคกกว้าง ม.10 .โคกงาม อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านเห็นเหตุการณ์จำนวนมาก
ต่อมาเวลา 16.00 น.วันที่ 1 มกราคม 2562 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านโคกกว้าง ซึ่งพบชาวบ้านจำนวนมาก นั่งคุยกันและวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งพาผู้สื่อข่าวดูจุดที่นายอุทิศ ถูกรุมฟันและทำร้ายร่างกาย ซึ่งยังมารอยเลือดเป็นจุดใหญ่ๆอยู่บนถนน ใกล้ศาลาเอนกประสงค์ของหมู่บ้าน
นางสะอ้าน แก้วเศษ อายุ 80 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนอนดูทีวีในบ้าน ก็มีเสียงเอะอะคล้ายคนทะเลาะวิวาทบนถนนหน้าบ้าน จึงรีบลุกมาดู พบชายวัยรุ่นกำลังใช้มีดสปาต้าฟันร่างของนายอุทิศอยู่ โดยมีเพื่อนบ้านอีกคนเข้าห้ามปรามเอาร่างบังตัวนายอุทิศเอาไว้ ยายเห็นวัยรุ่น 3 คน รุมทำร้ายนายอุทิศ 1 ใน 3 ใช้มีดสปาต้าฟันที่ศีรษะนายอุทิศ ครั้งแรกยายห้ามไม่ทัน พอเขาจะฟันซ้ำครั้งที่สอง ยายจึงตะโกนห้ามและว่าอย่าทำ มันเป็นการกระทำที่รุนแรงระวังจะถูกจับเข้าคุก ยายก็ถูกวัยรุ่นตะคอกกลับว่า ยายไม่รู้เรื่อง ยายอย่ายุ่ง จากนั้นก็มีชาวบ้านมาที่เกิดเหตุมากขึ้น วัยรุ่นทั้ง 3 คนจึงวิ่งหลบหนีไป
ขณะที่นายชัชวาล กมลกุล หรือนายกิ๊ฟ อายุ 20 ปี ลูกชายของนายอุทิศ คนเจ็บ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว มูลเหตุทั้งหมดเกิดจาก เมื่อคืนวันที่ 29 ธันวาคม ที่ผ่านมา มีงานบวชในหมู่บ้าน เจ้าภาพจ้างหมอลำมาฉลองและจัดการแสดงภายในวัดประจำหมู่บ้าน การแสดงหมอลำจบลงเวลาประมาณ 02.00 น.วันที่ 30 ธันวาคม ก็เดินเท้ากลับบ้าน จู่ๆก็มีเพื่อนบ้านชื่อนายบุ๋มเดินเข้ามาถามพร้อมกับชกต่อยหลายครั้งว่า ทำร้ายหลานกูทำไม ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่รู้รายละเอียด จึงตอบกลับไปว่าไม่รู้เรื่องและชกต่อยคืน จนถูกนายบุ๋ม นายโจ และนายหมู อายุ 20-25 ปีมารุมทำร้าย จนต้องวิ่งหนีกลับบ้าน ทั้ง 3 คนยังวิ่งไล่ตาม และบุกรุกเข้าไปทำร้ายถึงในบ้าน จนเพื่อนบ้านและผู้ใหญ่บ้านมาห้ามและเคลียร์กัน และเรื่องก็จบกันไปเรียบร้อย
นายกิ๊ฟ กล่าวอีกว่า วันที่ 31 ธันวาคม ที่บ้านจัดกินเลี้ยงฉลองปีใหม่ก็มีเด็กอายุประมาณ 10 ขวบขับขี่รถจักรยานยนต์มาหาที่บ้านแล้วบอกว่า กลุ่ม นายบุ๋ม นายโจ และนายหมู เรียกไปเคลียร์กันที่หน้าร้านเกมส์ ซึ่งอยู่ใกล้กับศาลเอนกประสงค์ของหมู่บ้าน แต่ญาติพี่น้องและพ่อห้ามไม่ให้ไป กระทั่งหลังการเคาท์ดาวน์ก็มีคนมาเรียกไปคุยเรื่องเดิมอีก ครั้งนี้พ่อหงุดหงิด เพราะเรื่องที่ทั้ง 3 คนจะเคลียร์คือมันจบไปเรียบร้อยแล้ว ต่างฝ่ายต่างไม่ยุ่งกัน พ่อจึงเดินถือท่อนไม้ไปหาทั้ง 3 คนที่หน้าร้านเกมส์
“ผมเป็นห่วงพ่อ จึงเดินตามไป ก็เห็นทั้ง 3 คนรุมทำร้ายพ่อ นายโจเป็นคนใช้มีดสปาต้าฟันศีรษะพ่อ ส่วนนายบุ๋มและนายโจ พากันรุมเตะ เห็นท่าไม่ดี จึงวิ่งมาเรียกญาติพี่น้องที่บ้าน พอไปถึงพ่อก็นอนจมกองเลือดแล้ว ญาติพี่น้องจึงหามพ่อมาใส่รถ ส่งรพ. จนถึงขณะนี้พ่อยังไม่ฟื้น”
ขณะที่นางสาวอำนวย กุลตรี อายุ 43 ปี น้องสาวภรรยาคนเจ็บ พาผู้สื่อข่าวเดินดูรอยเลือดตามถนนในหมู่บ้านและในรถยนต์กระบะที่ใช้เป็นยานพาหนะพาคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ซึ่งจากจุดที่ถูกฟัน จนถึงบ้านพักระยะทางประมาณ 100 เมตร มีเลือดหยดตลอดทาง พร้อมทั้งเปิดเผยว่า เหตุการณ์ต่างๆมันน่าจะจบกันตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 30 ธันวาคมแล้ว เพราะผู้ใหญ่บ้านและญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายพูดจาเคลียร์กันจบแล้ว กระทั่งหลังการเคาท์ดาวน์ วัยรุ่นทั้ง 3 คนมาเรียกหลานชายไปเคลียร์กันที่หน้าร้านเกมส์ แต่พ่อ หรือนายอุทิศ พี่เขยของตนไม่ให้ลูกชายไป เพราะทุกอย่างเคลียร์จบแล้ว แต่พี่เขยเดินไปเอง
“พี่เดินตามหลังพี่เขยมาที่ถนนหน้าร้านเกมส์ ก็เห็นวัยรุ่น 3 คน กระโดเตะ ต่อยและใช้มีดสปาต้าฟันศีรษะพี่เขย จนล้มจมกองเลือด จึงวิ่งเอาตัวเองบังร่างพี่ชายไว้ พร้อมตะโกนขอความช่วยเหลือจากญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน เมื่อคนมาเยอะ วัยรุ่น 3 คนก็เดินหนีกลับบ้านไป”
นางสาวอำนวย กล่าวต่ออีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้น พี่เขยถูกทำร้ายที่ศีรษะเย็บร้อยกว่าเข็มสลบ ยังไม่ฟื้น ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ตลอด 24 ชม. ขณะนี้ในครอบครัวคุยกันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด โดยได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ให้เอาผิดกับวัยรุ่นทั้ง 3 คน ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า รวมถึงถ้าพี่เขยฟื้นจากการบาดเจ็บก็ต้องรอดูว่า จะกลับมาทำมาหากินได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้วัยรุ่นทั้ง 3 ต้องรับผิดชอบครอบครัวของพี่เขยด้วย เนื่องจากพี่เขยมีอาชีพขับรถดูดส้วม เป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัวมาทั้งชีวิต ถ้าพี่เขยทำงานไม่ได้ก็ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูครอบครัวพี่เขยไปตลอดชีวิต