-น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท อดีตภรรยาของพล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อายุ 67 ปี ผู้ก่อเหตุยิงกลางศาลจังหวัดจันทบุรี เปิดใจระหว่างเดินทางมาติดต่อของรับร่างของอดีตสามี ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ว่าเมื่อวานนี้ ตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ภายในศาลจังหวัดจันทบุรี แต่มาทราบข่าวเมื่อช่วงสายๆวานนี้ โดยสาเหตุการลงมือ เนื่องจากอดีตสามีผู้ก่อเหตุ และคู่กรณีมีการฟ้องร้องทางแพ่งเกี่ยวกับที่ดินจำนวน 3,800 ไร่ ที่ อ.ท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งฟ้องร้องกันมานานกว่า 8 ปี และมีแรงกดดันในหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องของคดีความที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เรียกไปพบ ให้มีการล้มเลิกการต่อสู้คดีความนี้ และทุกครั้งที่มีการขึ้นศาล ก็จะนำเอาชื่อเสียงของคุณพ่อของ พล.ต.ต.ธารินทร์ มาเกี่ยวข้องตลอด ซึ่งผู้ตายเป็นคนรักครอบครัว และรักศักดิ์ศรี จึงมองว่า พ่อไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทำให้คดีมีความตึงเครียดมาก กดดัน และรู้สึกถูกดูหมิ่น
-กระทั่งเมื่อวานนี้ ช่วงการก่อเหตุ พล.ต.ต.ธารินทร์ ก็ตะโกนบอกกับทุกคนในห้องว่า "ใครไม่เกี่ยวให้ออกไป" ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิง และเมื่อก่อเหตุเสร็จก็นั่งรออยู่ในห้อง เพื่อมอบตัว แต่พอภายหลัง เสมียนทนายความ ที่ออกไปข้างนอก กลับเอาปืนของตำรวจศาลออกมายิง พร้อมตั้งคำถาม ยิงเขาทำไม แล้วมาอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลขึ้นมาแต่ป่วยกระทันหัน จึงหยิบปืนมายิงเอง จากด้านนอกยิงผ่านกระจก จากนั้น พล.ต.ต.ธารินทร์ ก็ฟุบลงบนโต๊ะแล้ว แต่ทางนายธนากร ก็เดินเข้าไปยิงซ้ำอีก ทั้งที่ พล.ต.ต.ธารินทร์ ไม่ได้ยิงออกนอกห้องเลย เพราะเขาไม่ตั้งใจจะทำร้ายใครที่ไม่เกี่ยวข้อง มันแสดงให้เห็นว่า นายธนากร มีเจตนาจะฆ่า ให้เสียชีวิต
-ทั้งนี้ฝากถึงทุกคน ให้มองว่าใครเป็นคนทำอะไร ในคดีนี้ มันเกิดจากอะไร อีกทั้ง การไม่ได้รับความยุติธรรมในคดีที่ยาวนานถึง 8 ปี และตนเองเพิ่งทราบจากทนายความเมื่อเช้า ว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีการนัดสืบพยาน มีการยื้อแย่งเอกสารกัน เพราะทางฝ่ายโจทก์ไม่ยอมให้ทางฝ่ายตน ดูเอกสาร ทั้งที่ทางกฎหมายสามารถทำได้ ทำให้เกิดการปะทะ กัน พล.ต.ต.ธารินทร์ จึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
-สำหรับตนแล้วมองว่า พล.ต.ต.ธารินทร์ ไม่ใช่มือปืน แต่เขาเป็นเหมือนนักสู้ เป็นเหมือน วีรบุรุษที่พลีชีพเพื่อให้ทุกคนออกมาพูดความจริง ทำเพื่อครอบครัว อยากจะขอโทษอดีตสามี ที่ดึงให้มาช่วยดูแลในคดีนี้ ทั้งๆที่เขาก็เกษียณอายุราชการไปแล้ว และสุขภาพก็ไม่แข็งแรง มีครอบครัวใหม่แล้ว ถ้าหากเขาไม่ได้เข้ามาช่วยครอบครัวของเรา ไม่ได้มาต่อสู้เพื่อพระพุทธศาสนา ก็น่าจะใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างมีความสุข ไม่ต้องมาเจอกับภาระที่หนักหนาแบบนี้ การที่เขาถือปืนอยู่ตรงนั้น เขาไม่ได้ใช่คนร้าย ที่ตั้งใจจะยิงผู้อื่น แต่เชื่อว่า บันดาลโทสะ เพราะเก็บกด และอาจมองว่าไม่มีอะไรที่ทำให้คนหันมาสนใจ เป็นการเสียสละชีวิตเพื่อความจริงปรากฎ
-ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นายสาคร สุขรมย์ อายุ 75 ปี บิดาของ นายวิจัย สุขรมย์ ทนายฝ่ายโจทก์ ที่ถูกพลตำรวจตรี ธารินทร์ จันทราทิพย์ ยิงที่ศาลจังหวัดจันทบุรี เดินทางเข้ารับศพลูกชาย หลังร่างถูกส่งมาตรวจชันสูตร ด้วยความโศกเศร้า เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดป่ามัชฉิมวงศ์รัตนาราม จังหวัดอุดรธานี โดยจะมีการฌาปนกิจศพในวันอาทิตย์นี้
-ก่อนหน้านี้นายสาคร กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเหตุการณ์ กระทันหันมาก โดยเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ช่วงเข้า ลูกชายได้โทรมาหาตน แต่ตนไม่ได้รับ -ทั้งนี้ที่ผ่านมา ลูกชายกำลังทำคดีนี้ ก็มีความตึงเครียด แต่ว่าตนไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะคิดว่า มันเป็นเรื่องของการทำงาน เวลาลูกชายไปทำงาน ไปขึ้นศาล ที่จังหวัดจันทบุรี ก็โทรมาบอกตลอด สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ตนก็ไม่รู้จะโกรธอะไร ให้อภัย เพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้ว หลังจากนี้ก็ต้องยอมรับความจริง
-จากนั้น นางสาวเขมจิรา บัณฑูรนิพิท อดีตภรรยา ของพลตำรวจตรี ธารินทร์ ได้รับร่าง ที่ถูกส่งมาชันสูตรที่เดียวกัน ก็รับร่างไปอระกอบพิธีทางศาสนาที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยยังไม่ระบุว่า แต่เบื้องหลังคาดว่าจะมีการสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 3 คืน