สุพรรณบุรีระทึก15ชั่วโมงล้อมจับเอกหลักแก้วผู้ต้องหายาเสพติดอาวุธปืน
ที่ จ.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ดิเรก ชาวสวน ผู้กำกับ สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีชายต้องสงสัยเข้ามาพักที่ โรงแรมแห่งหนึ่งริมถนนสายโพธิ์พระยา-อ่างทอง หมู่ 4 ต.วังยาง สงสัยจะเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวนนำกำลังเข้าตรวจสอบทราบว่าชายคนดังกล่าวพักอยู่ห้องพักเลขที่ 304 กับหญิงสาวอายุ ประมาณ 20-25 ปี
โดยมีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุสีเขียว ทะเบียน บต 8993 สุพรรณบุรี จอดอยู่หน้าห้อง เจ้าหน้าที่จึงเคาะประตูห้องเพื่อขอตรวจสอบแต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมให้ตรวจสอบพร้อมชักอาวุธปืนออกมาขู่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้เข้าใกล้และไม่ยอมให้จับโดยบอกว่ายอมตายดีกว่าถูกจับ
เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมกับขอกำลังสนับสนุนจากชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.สุพรรณบุรี ชุดสืบสวน ภาค 7 กว่า 20 นายเข้าปิดล้อมเจรจาให้มอบตัวแต่ชายคนดังกล่าวซึ่งทราบชื่อต่อมาคือนายธเนศร์ ชาญวุฒิธรรม หรือเอก หรือกิจ หลักแก้ว อายุ 40 ปีบ้านอยู่หมู่ 3 ต.หลักแก้ว อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
เจ้าหน้าที่จึงประสานให้แม่และน้องชายของนายธเนศร์ มาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัวแต่พอแม่และน้องของนายธเนศร์ เข้าไปในห้องเหตุการณ์กลับตึงเครียดเมื่อทั้งสองไม่สามารถเกลี้ยกล่อมในลูกชายมอบตัวได้ต่อมาได้มีเพื่อนสนิทของนายธเนศร์ อาสาเข้าไปช่วยเกลี้ยกล่อมสุดท้ายกลับไม่เป็นผลโดยนายธเนศร์ ได้เปิดประตูห้องพักเอาไว้แล้วหญิงสาวซึ่งเป็นก๊กกันนั่งขวางประตูเป็นเกาะกันกระสุนส่วนตัวเองแอบอยู่ในห้อง
โดยนายธเนศร์ ซึ่งมีอาการหวาดระแวงพร้อมยอมรับว่าตัวเองเสพยาไอซ์ พยายามโยกโย้ให้ตามแฟนเก่ามาช่วยพาเข้ามอบตัวแต่พอแฟนเก่ามาถึงกลับไม่ยอมมอบตัวและไม่ยอมวางอาวุธเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นานตั้งแต่เวลา 17.00 น.วันที่ 8 พ.ย.กระทั่งเวลา 23.40 น.นายธเนศร์ ก็ยังไม่ยอมมอบตัวกลับมีข้อต่อรองกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกขอให้ผู้ใหญ่บ้านหลักแก้ว มารับรองความปลอดภัยเนื่องจากกลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำอันตรายเจ้าหน้าที่จึงอนุญาตพร้อมกับประสานผู้ใหญ่บ้านให้เดินทางมาช่วยเจรจา
หลังจากผู้ใหญ่บ้านมาถึงนายธเนศร์ ได้พากันเดินออกมาจากห้องโดยใช้อาวุธปืนจี้ตัวเองพร้อมขู่ว่าถ้าเจ้าหน้าที่บุกเข้าจับกุมก็จะยิงตัวตายทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ใหญ่บ้านพยายามช่วยกันเกลี้ยกล่อมใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงการเจรจาไม่เป็นผลเนื่องจากคนร้ายไม่ยอมวางอาวุธปืนแต่จะให้ผู้ใหญ่บ้านเข้าไปหาเพื่อพาเข้ามอบตัวแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมเนื่องจากเกรงจะเกิดอันตรายสุดท้ายการเจรจาล้มเหลวผู้ใหญ่บ้านจึงเดินทางกลับ โดยนายธเนศร์ ได้ตะโกนขุ๋จะยิงตัวตายอยู่ตลอดเวลาสร้างความหวาดกลัวให้กับแม่ของนายธเนศร์ ที่ยืนอยู่ด้วยกัน
เมื่อการเจรจาล้มเหลวเจ้าหน้าที่จึงตรึงกำลังปิดล้อมโดยให้นายธเนศร์ พร้อมแม่และแฟนสาวนั่งอยู่หน้าห้องพักกระทั่งเวลา 09.00 น.วันที่ 9 พ.ย.เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังเข้าเจรจาให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวและวางอาวุธใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงผู้ต้องหาจึงมอบตัวโดยให้กิ๊กสาวเป็นคนนำอาวุธปืนขนาด 9 มม.พร้อมแม็กกาซีน 2 อันกระสุน 28 นัดส่งให้ตำรวจเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเข้าตรวจค้นในห้องพักพบยาเสพติดประเภทยาไอซ์จำนวนหนึ่งพร้อมอุปกรณ์การเสพและที่บริเวณโถส้วมเจ้าหน้าที่พบร่องรอยเหมือนการทำลายของกลางจากนั้นได้ตรวจค้นในรถกระบะไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายจึงควบคุมไปสอบสวนต่อที่โรงพักศรีประจันต์
จากการตรวจสอบประวัตินายธเนศร์ พบว่าเคยถูกจับคดีจำหน่ายยาเสพติดถูกศาลตัดสินติดคุก 9 ปีพ้นโทษออกมาได้ประมาณ 1 ปีสำหรับพฤติการณ์ของนายธเนศร์ ผู้ต้องหาได้มาเปิดห้องพักโรงแรมดังกล่าวเมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น.วันที่ 7 พ.ย.และเวลาประมาณ 4 ทุ่มได้ขับรถออกจากห้องพักกลับมาอีกครั้งประมาณตีสี่ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยเจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบและพบว่ามีการเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท1 ยาไอซ์ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีประจันต์ดำเนินคดีต่อไป