สลด ชายวัย 44 คว้าไม้ฟาดพระจนมรณภาพ ตร.คุมตัวให้การวกวนคล้ายคนเสียสติ
logo ข่าวอัพเดท

สลด ชายวัย 44 คว้าไม้ฟาดพระจนมรณภาพ ตร.คุมตัวให้การวกวนคล้ายคนเสียสติ

ข่าวอัพเดท : วันที่ 19 ก.พ. 62 ที่ สภ.วาปีปทุม อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ร.ต.อ. สุพล อุณาภาค ร้อยเวรสอบสวน สภ.วาปีปทุม ได้เบิกตัว นายอิ่นอ้อย ชัยโชค ฆ่าพระ,ไม้ฟาดพระ,มรณภาพ

2,946 ครั้ง
|
19 ก.พ. 2562
วันที่ 19 ก.พ. 62 ที่ สภ.วาปีปทุม อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ร.ต.อ. สุพล อุณาภาค ร้อยเวรสอบสวน สภ.วาปีปทุม ได้เบิกตัว นายอิ่นอ้อย ชัยโชค อายุ 44 ปี มาสอบปากคำเพิ่มเติม ภายหลังจากเมื่อวานนี้ (18 ก.พ.) เวลาประมาณ 16.00 น. นายอิ่นอ้อย ได้ก่อเหตุใช้ไม้ฟาดพระสมบัง กองบุตร อายุ 81 ปี มรณภาพ ข้างเมรุเผาศพ ป่าช้าวัดบ้านแก่นเท่า หมู่ 6 ต.โพธิ์ชัย อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม
 
ร.ต.อ. สุพล เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านว่าเกิดเหตุฆ่ากันตาย จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณป่าช้ามีเมรุ และศาลาพักศพ พบผู้ถูกทำร้ายนอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้นข้างแคร่นอน ในศาลาพักศพ ลักษณะนอนหงายห่มจีวร มีร่องรอยการถูกตีด้วยของแข็งบริเวณศีรษะและใบหน้า ตามร่างกายมีบาดแผลและกระดูกหักผิดรูป 
 
เมื่อตรวจสอบเอกสารทราบชื่อผู้ตาย คือ พระสมบัง กองบุตร อายุ 81 ปี ซึ่งเป็นพระภิกษุจำพรรษาเดินทางมาพัก และปฏิบัติธรรมที่วัดบ้านแก่นเท่า ใกล้กันพบจอบพร้อมด้ามจับ มีดตะขอท่อนไม้ที่เปื้อนเลือดตกอยู่ และกระป๋องกาวในจุดเกิดเหตุ ตำรวจจึงเก็บเป็นหลักฐาน
 
โดยบริเวณที่เกิดเหตุยังพบนายอิ่นอ้อย ชัยโชค อายุ 44 ปี เดินวนเวียนอยู่บริเวณข้างเมรุ เสื้อผ้าที่สวมใส่มีคราบเลือดติดอยู่ทั่วตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่นายอิ่นอ้อยกลับให้การวกวน พูดจาไม่รู้เรื่องคล้ายคนเสียสติ ตำรวจจึงควบคุมตัวไปที่ สภ.วาปีปทุม 
 
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายอิ่นอ้อย เดินทางมาเยี่ยมพี่ชายที่อยู่หมู่บ้านแก่นเท่าและได้มาขอพักอาศัยที่ศาลาภายในป่าช้า และรู้จักกับผู้ตายตอนที่มาขออาศัยอยู่ที่วัด ก่อนที่จะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น และยังไม่ทราบแรงจูงใจว่าก่อเหตุไปเพราะเหตุใด แต่ในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาไม่ได้ดื่มสุรา แต่เจ้าหน้าที่พบกระป๋องกาวอยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งคาดว่าผู้ต้องหาอาจจะดมกาวจนเสียสติ เกิดอาการหลอนและก่อเหตุขึ้น 
 
ด้านนายศักดิ์ศิลป์ แก้วสังข์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านแก่นเท่า ต.โพธิ์ชัย อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เล่าว่า พระภิกษุสมบัง ที่มรณภาพได้เดินทางมาอาศัยและปฏิบัติธรรมอยู่ที่ป่าช้าวัดแห่งนี้มานานกว่า 7 ปีแล้ว โดยจำวัดอยู่เพียงรูปเดียว ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นทราบว่าเคยบวชเป็นพระ และสึกเองอยู่หลายครั้ง จนล่าสุดได้เดินทางจากจังหวัดเลยมาเยี่ยมพี่ชายที่อยู่หมู่บ้านแห่งนี้ และมาขออาศัยหลับนอนที่ศาลาภายในป่าช้า 
 
ซึ่งก่อนเกิดเหตุไม่เคยเห็นนายอิ่นอ้อยและพระสมบังมีเรื่องทะเลาะหรือผิดใจกัน จนเมื่อชาวบ้านมาบอกว่า นายอิ่นอ้อยเป็นผู้ลงมือก่อเหตุก็รู้สึกสะเทือนใจไม่คิดว่าจะเกิดเหตุสลดดังกล่าวในหมู่บ้านได้  
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง