'ปลอดประสพ' ตอกกลับ6องค์กรอิสระ กลับไปทำหน้าที่หลักให้ดีก่อน

'ปลอดประสพ' โพสต์เฟซบุ๊คตอกกลับ 6 องค์กรอิสระ กลับไปทำหน้าที่หลักให้ดีก่อน ชี้ทางออกประเทศ ต้องยึดตามระบอบประชาธิปไตย

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ความคิดเห็นลงเฟซบุ๊คส่วนตัวระบุว่า

อยากเป็นคนกลางกันนัก

ท่านสมชัยหนึ่งในห้าเสือ กกต. เสนอตัวออกโรงชักชวนให้ 6 องค์กรอิสระออกเทียบเชิญท่านนายกยิ่งลักษณ์ (แกมบังคับ) และคุณสุเทพในฐานะเลขา กปปส. ให้เสนอชื่อคนกลางที่ตนเชื่อถือ 10 คน ภายใน 7 วัน หากไม่ปฏิบัติต้องรับผิดชอบ (???) และอธิบายแถมท้ายว่าหากชื่อตรงกันเมื่อไร จะถือว่าเป็นคนกลางที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย (สงสัยจะหายากมั้ง) โดยสุดท้ายจะแบ่งให้ฝ่ายละครึ่งเท่ากัน (แหมอุตสาห์รอฟังตั้งนาน ที่แท้ก็เท่านี้)

ขอเรียนว่าหากมองอย่างผิวเผินก็น่าจะเป็นสิ่งดี เพราะแสดงว่ามีผู้คนห่วงใยใคร่ช่วยเหลือ แต่หากเพ่งมองอย่างตรึกตรอง จะพบข้อข้องใจมากมาย เช่น ท่านสมชัยคิดทำเอง หรือมีคนสั่งให้ทำ เพราะลำพังคุณสมชัยก็เป็นแค่ กกต.คนหนึ่ง ไม่เห็นจะมีแรงดึงดูดอะไรมากมาย ถึงสามารถไปเกณฑ์คณะกรรมการจากองค์กรอิสระอื่น (ปกติถือตัวไม่ยอมร่วมกับใคร) มาร่วมงานทั้งที่มีโอกาสจะโดนชยันโตสูง และอย่าลืมว่าองค์กรอิสระที่มาร่วมสังฆกรรมในครั้งนี้ที่ผ่านมาก็เคยโดนสวดยับมาแล้ว ว่าไม่ค่อยทำหน้าที่อย่างที่ควรจะเป็น แต่มาคราวนี้เรียกว่าออกนอกเรื่องเลยก็ว่าได้ ไม่กลัวถูกต่อว่าทำนอกหน้าที่หรือ (หรือต้องทำตามคำสั่ง)

หากถามว่าเมื่อไม่อยากให้เป็นคนกลางแล้ว อยากให้องค์กรอิสระทำอะไร คำตอบคือ

-กกต. ควรจะขมีขมันจัดการเลือกตั้งให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ไม่ใช่คิดลากตั้งให้ยาวไปจนถึงปลายเดือนเมษายน ภารกิจเช่นนี้น่าทำมากกว่าการเป็นคนกลางใช่ไหม

-ป.ป.ช. ควรเร่งสอบเรื่องของการบริหารองค์การเพื่อปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ซึ่งทำความเสียหายนับแสนล้านบาทและขณะนี้อายุความกำลังจะหมดในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2557 (ศาลพิพากษาผู้เกี่ยวข้องบางคนไปแล้ว)

ควรเร่งสอบคุณอภิสิทธิ์เรื่องการประกันราคาข้าวมากกว่าพยายามเป็นผู้ไกล่เกลี่ยหรือเปล่า

-กรรมการสิทธิควรเร่งพิสูจน์ว่าใครสั่งฆ่าคนเสื้อแดง 99 คน และ กรณีเหตุการณ์ปิดกรุงเทพของ กปปส. 17 คน มิดีกว่าการเปิดเวทีให้คนมาพูดกันใช่ไหม

-สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจฯ ควรจะวิเคราะห์ความเสียหายกว่า 200,000 ล้านที่เกิดจาก กปปส. ปิดกรุงเทพไม่ใช่มาเป็นตัวเชื่อมอะไรแบบนี้ ในเมื่อพวกท่านไม่ทำงานตามอำนาจหน้าที่ของท่าน แล้วจะให้ใครเชื่อว่าไอ้ที่ท่านเสนอมานี่เป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่ควรจะร่วมมือทำ

-คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ก็ให้ไปตรวจและสั่งลงโทษ(ผิดแหงๆ) โครงการไทยเข้มแข็งของประชาธิปัตย์ ที่ฉ้อฉลโรงพักจนสร้างไม่เสร็จทุกวันนี้

มีนักกฎหมายตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดกลุ่มองค์กรฯ ทั้ง 7 (ไม่มีอัยการแน่นอน) ถึงใจดีขนาดเปิดโอกาสให้คุณสุเทพ ซึ่งถูกคดีกบฏในเหตุการณ์ครั้งนี้เสนอชื่อผู้แทน 10 ชื่อ ขอถามล่วงหน้าว่าหากทั้ง 10 ชื่อ ที่จะเสนอเป็นผู้ถูกกล่าวหาหมดทุกคน แล้วอะไรจะเกิดขึ้น อย่างนี้มันจะแตกต่างอะไรกับการเจรจาระหว่างคณะโจรกับคณะตำรวจเล่า

นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ ขณะนี้การเลือกตั้งก็กำลังดำเนินอยู่ (ยังไม่แล้วเสร็จเพราะ กปปส. ขัดขวาง) แล้วจะให้รัฐบาลที่ลาออกไปแล้วไปเจรจากับใคร (ถ้าหากเป็น กกต. เรื่องการจัดการเลือกตั้งก็คงเป็นไปได้) แล้วจะไปเจรจาทำไมเพราะช่วงเลือกตั้ง การเจรจาที่ส่งผลผูกพันกับรัฐบาลต่อไปเป็นสิ่งต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญแน่นอน ซึ่ง กกต. ได้ประกาศเตือนรัฐบาลอย่างจริงจังในเรื่องนี้ตลอดมา แล้วทำไมตอนนี้ กกต. จึงเสนอเรื่องที่ผิดกฎหมายมา (จะให้พวกผมติดคุกหรือ)

ผมคิดว่าท่านทั้งหลาย (เอาว่ามองในแง่ดีก็แล้วกัน เพราะไม่พบว่ามีนายก ม.7) คงจะต้องทำการบ้านอีกมาก มีรายละเอียดเยอะที่ต้องแสดง มีกรอบทางกฎหมายที่ต้องพิสูจน์ได้ มีหลักจริยธรรมจนเป็นที่ยอมรับของสังคม (ส่วนรวม) โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่เป็นเรื่องการปกครองประเทศ ดังนั้นความชัดเจนในเรื่องหลักนิติธรรมและนิติรัฐต้องกระจ่าง ไปคิดให้รอบคอบเสียใหม่แล้วค่อยเสนอมาเถอะครับ ตอนนี้ผมว่าพวกท่านกลับไปทำหน้าที่ตามอำนาจและหน้าที่ของท่านตามได้ทรงพระราชทาน ณ พระราชวังไกลกังวล ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนพรรษาจะเป็นสิ่งประเสริฐที่สุด

คำตอบของทางออกของประเทศไทยที่ยั่งยืน ก็คือการเป็นราชอาณาจักรที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด ไม่มีอย่างอื่นแล้วครับ