พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 4/2561 ปลดนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้งพ้นจากตำแหน่งว่า ที่ประชุมคสช.ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้และทุกคนเห็นด้วย ส่วนรายละเอียดนั้นขอให้ไปดูในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 4/2561 พร้อมเชื่อว่าคำสั่งนี้จะไม่เป็นการแทรกแซงองค์กรอิสระ และเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ปรึกษาเรื่องออกคำสั่ง ม. 44 ปลดนายสมชัย ศรีสุทธิยากรออกจากตำแหน่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมีการหารือในที่ประชุมคสช. เมื่อวานนี้ ซึ่งข้อเท็จจริงสาเหตุการปลดเป็นไปตามคำสั่ง ว่าพฤติการณ์ไม่เหมาะสมในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเรื่องกระบวนการและกำหนดการเลือกตั้ง สร้างความสับสนและผลประโยชน์ขัดกันเพราะเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการออกระเบียบคัดเลือกเลขาธิการ กกต. ส่วนสาเหตุอื่นตนไม่ทราบ และไม่กังวลว่าจะกระทบกับการทำงานของ กกต. โดย กกต.ที่เหลืออีก 4 คน สามารถจัดการเลือกตั้งได้ หรืออาจจะเป็น กกต.ชุดใหม่ที่อาจเข้ามาจัดการเลือกตั้ง คาด กกต.ชุดเก่าไม่น่าจะอยู่ทันจัดการเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อคืนนี้ได้พูดคุยกับนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ที่งานศพบิดาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติถึงการทำงานของกกต.แล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และไม่คิดว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว หรือกังวลว่านายสมชัยจะออกมาแฉรัฐบาลและ คสช.
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. เดินทางเข้าสำนักงาน กกต. เพื่อเก็บของและเอกสารต่างๆ ออกจากสำนักงาน กกต. แล้ว หลัง คสช. ใช้อำนาจ ม.44 มีคำสั่งปลดออกจากตำแหน่งเมื่อวานที่ผ่านมา
โดยนายสมชัยมีสีหน้ายิ้มแย้ม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ยืนยันว่าไม่เสียใจและพร้อมน้อมรับคำสั่ง แต่ไม่ขอให้ความเห็นถึงเหตุผลที่ คสช.ใช้อ้างเพื่อปลดออกจากตำแหน่งครั้งนี้และยังไม่คิดว่าจะฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมหรือไม่
ยืนยันว่าหลังจากนี้ยังเดินหน้าทำงานด้านการเมืองต่อไป ส่วนกระแสข่าวจะไปเล่นการเมืองเต็มตัวนั้นยังไม่ได้คิดขึ้นอยู่กับว่าจะมีคนมาทาบทามหรือไม่ แต่หลักๆจะกลับไปทำงานในมูลนิธิองค์การกลางเพื่อประชาธิปไตย หรือ พีเน็ตต่อ และยังไม่ได้ถอนตัวจากการสมัครเป็นเลขาธิการ กกต. เพราะเชื่อว่าคุณสมบัติครบถ้วน และคำสั่ง คสช. ไม่ได้บอกว่าเป็นการประพฤติชั่วร้ายแรง แต่ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจสร้างความลำบากใจต่อกรรมการ กกต. ที่เหลืออยู่ในการพิจารณาเลือกเลขาธิการ กกต.
ส่วนการที่ คสช. ปลด กกต. ครั้งนี้จะเป็นการใช้อำนาจล่วงเกินองค์กรอิสระหรือไม่นั้น นายสมชัยไม่ขอให้ความเห็น และให้ไปถาม กกต. ที่เหลืออยู่เองว่าจะกระทบต่อเรื่องที่ กกต. กำลังตรวจสอบรัฐบาลหรือไม่โดยเฉพาะกรณีการตรวจสอบคุณสมบัติคณะรัฐมนตรีและสมาชิก สนช.บางคนที่ไปถือหุ้นให้บริษัทเอกชนและรัฐวิสาหกิจ
นายสมชัยยืนยันที่ผ่านมาตนเองได้ทำหน้าที่อย่างเป็นกลางไม่เข้าข้างใคร รัฐบาลใดทำอะไรไม่ถูกต้อง ก็มีการตักเตือนเหมือนกันหมดทุกรัฐบาล และที่ผ่านมาการให้สัมภาษณ์ก็พูดแต่ความจริงไม่ใช่บิดเบือนหรือใข้คำหยาบคาย
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ครั้งนี้ กกต.รายอื่นๆไม่ขอให้ความเห็น หลายคนเก็บตัวเงียบ ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังประธาน กกต. แต่ก็ถูกตัดสายทิ้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม