'นพดล' โพสต์เฟซบุ๊คปัดข่าวลือ 'ทักษิณ' ตั้งค่าหัว 'สุเทพ' และแกนนำ 200 ล้าน เหน็บหากจริงก็สูงเกิน ลั่นหยุดใส่ความ หนุนแนวทางเจรจาหาทางออกประเทศ
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ค Noppadon Pattama ระบุว่า
Press Release นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องคนไทยด้วยกัน ควรหันหน้าคุยกัน ย้ำทักษิณไม่ได้สั่งการให้ป่วน
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในขณะนี้บ้านเมืองแตกแยกมาก มีการใช้ความรุนแรงกับเด็กและผู้บริสุทธิ์ ถ้าติดตามการชุมนุมของ กปปส. ที่ขณะนี้คนลดลง เพราะผู้ชุมนุมเห็นมีความรุนแรงเกิดขึ้น และคนไทยส่วนใหญ่ขณะนี้ ก็อยากเห็นการคุยกัน แต่นายสุเทพย้ำมาโดยตลอด ว่าไม่ต้องการคุยกับใคร และจะต้องได้ดั่งใจเท่านั้น จึงจะยุติการชุมนุม
ซึ่งตนคิดว่า ถ้าอยากเห็นความสงบของบ้านเมืองอย่างฉับพลัน คงต้องยกประเทศให้นายสุเทพใช่หรือไม่ แต่คนไทยส่วนใหญ่หลายสิบล้านคนที่เป็นเจ้าของประเทศเหมือนกับนายสุเทพและ กปปส. เขาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยึดมั่นในกฎหมาย พูดคุยกันอย่างสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง
แต่ฝ่าย กปปส. ก็ยังมุ่งมั่นที่จะเขย่ามะม่วงให้หล่นจากต้น เพื่อให้เกิดสูญญากาศทางการเมือง ให้มีนายกฯ คนกลาง จึงทำทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นยึดสถานที่ราชการ ไล่ล่านายกฯ ขัดขวางการเลือกตั้ง คุกคามธุรกิจที่คิดว่าอยู่ในเครือตระกูลชินวัตร ซึ่งความจริงครอบครัวได้ขายหุ้นไปหมดแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่คิดออกว่า การยกระดับความรุนแรงนั้น ใครเป็นคนทำและทำเพื่ออะไร
ส่วนที่ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร กล่าวว่า คนที่อยู่ต่างประเทศ ตั้งค่าหัวนายสุเทพและนายถาวร เสนเนียม 200 ล้าน และ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ บงการป่วนเมืองในขณะนี้นั้น
ตนขอเรียนว่า ทั้งสองท่านพูดความเท็จ เพราะค่าหัว นายสุเทพ นายถาวร ถ้าหากมีก็คงไม่แพงขนาดนั้น และ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ตั้งค่าหัวใคร ท่านอยู่ต่างประเทศ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในประเทศ ใครทำอะไรไว้ดีหรือชั่ว ก็ให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎแห่งกรรม อย่าโยนความผิดทุกสิ่งทุกอย่างไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่เป็นธรรมกับท่าน ถ้ามีหลักฐานใดๆ ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายบ้านเมืองไปเลย ควรยุติการใส่ร้ายป้ายสีด้วยความเท็จ ด้วยจินตนาการได้แล้ว
“ตัวเองเห็นด้วยกับ นายบัน คี มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ และ พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ที่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายได้พูดคุยกัน เพื่อหาทางออกให้ประเทศ เพราะถ้าขัดแย้งมากขึ้น บ้านเมืองจะล่มสลาย ถ้าฝ่ายหนึ่งจะเอาแต่ที่ตนต้องการและชนะฝ่ายเดียว อีกฝ่ายหนึ่งก็คงเป็นผู้แพ้และไม่ยอม และท้ายที่สุดก็จะกลับมาเอาคืน เป็นวงจรการแก้แค้นเอาคืนเช่นนี้ไปเรื่อยๆ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ก็ต้องมารับเคราะห์กรรมที่ตนไม่ได้ก่อขึ้น เศรษฐกิจเสียหายไปแล้วจากการชุมนุม เกือบ 500,000 ล้าน ตนอยากเห็นการแก้ไขความขัดแย้งในขณะนี้โดยสันติวิธีและยึดกฎหมายโดยเร็วที่สุด” นายนพดล กล่าว
26 ก.พ. 57