สำนักข่าว metro นำเสนอบทวิเคราะห์น่าสนใจของผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากันครั้งแรกของ 2 ผู้นำโลกในการประชุมสุดยอดผู้นำครั้งประวัติศาสตร์ ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่โรงแรมคาเปลล่า เกาะเซนโตซ่า ประเทศสิงคโปร์ และได้ลงนามในเอกสารสำคัญประเด็นสันติภาพและการปลดอาวุธนิวเคลียร์คาบสมุทรเกาหลีนั้น
จูดี้ เจมส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายระบุว่า คิมจองอึนได้รับคำแนะนำจากทรัมป์ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับ “พ่อ” ปฏิบัติกับลูก
นับตั้งแต่เริ่มพิธีการโดยทั้งคู่จับมือกันเป็นเวลานานถึง 12 วินาที แม้ว่าจะดูเหมือนการพบกันครั้งนี้ทรัมป์จะมีบทบาทเป็นผู้นำ แต่เมื่อมองโดยภาพรวมก็แสดงให้เห็นถึงความมีพลังอำนาจของทั้งสองผู้นำ
โดยภาษากายที่ทั้งคู่แสดงออกมาก็สะท้อนตัวตนของอีกคน บางช่วงคิมจองอึนมองไปที่ทรัมป์ดูว่าอีกฝ่ายจะทำท่าทางอย่างไรแล้วทำตามให้ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งการสัมผัสกันทางกายภาพก็มีส่วนสำคัญมากในการทลายกำแพงน้ำแข็ง
นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังวิเคราะห์อีกว่า แม้ทรัมป์จะปฏิบัติตัวเกือบจะเหมือนกับเป็นพ่อของคิมจองอึน แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่ามันเป็นการดูหมิ่นผู้นำเกาหลีเหนือแต่อย่างใด เพราะเริ่มแรกที่เผชิญหน้ากันทั้งคู่ดูเข้มครึม แต่หลังจากนั้นคิมจองอึนก็เป็นฝ่ายยิ้มให้มากขึ้น ขณะที่ทรัมป์ค่อนข้างจะมีความระมัดระวังตัว
แต่เมื่อเทียบกับครั้งที่คิมจองอึนเผชิญหน้ากับ มุนแจอิน ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ แล้วความสัมพันธ์ยังห่างชั้นกันไกล เพราะครั้งนั้นทั้งคู่ปฏิบัติตัวต่อกันเหมือนญาติที่ไม่ได้พบหน้ากันมานาน
คิมทรัมป์
ทรัมป์คิม
ทรัมป์คิมจองอึน
ผู้เชี่ยวชาญ
วิเคราะห์
ภาษากาย
เกาหลีเหนือ
ผู้นำเกาหลีใต้
ผู้นำสหรัฐ
ปธนสหรัฐ