เกิดเหตุเรือสปีดโบ๊ทชนกันที่ภูเก็ต พบนักท่องเที่ยวต่างชาติเจ็บ 8 ราย
logo ข่าวอัพเดท

เกิดเหตุเรือสปีดโบ๊ทชนกันที่ภูเก็ต พบนักท่องเที่ยวต่างชาติเจ็บ 8 ราย

6,038 ครั้ง
|
16 ม.ค. 2561
     เมื่อเวลา 16.30 น. ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเรือสปีดโบ๊ทชนกันบริเวณลำคลองอ่าวสะปำ ปากทางเข้าท่าเทียบเรือรอยัลภูเก็ตมารีน่า จึงนำกำลังพร้อมประสานกู้ภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ
 
     บริเวณท่าเทียบเรือดังกล่าว พบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งซึ่งมีทั้งอาการปกติและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งมีเรือสปีดโบ๊ทที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์นำกลับขึ้นฝั่ง โดยมีเจ้าหน้าที่กำลังสอบถามรายละเอียดและคัดกรองผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล ต่อจากนั้นก็มีการนำนักท่องเที่ยวที่บาดเจ็บปานกลางซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชายชาวต่างชาติมีบาดแผลบริษัทศีรษะยังไม่ทราบสัญชาติขึ้นรถพยาบาลส่งโรงพยาบาลสิริโรจน์ และลูกเรือชาวไทยซึ่งได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะเช่นกันนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นอกจากนี้ยังมีการนำนักท่องเที่ยวที่บาดเจ็บเล็กน้อยส่งโรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ตอีก 8 คน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาย 2 คน และนักท่องเที่ยวหญิง 6 คน ส่วนของผู้ไม่ได้รับบาดเจ็บทางบริษัทนำเที่ยวก็ได้นำกลับไปขึ้นเรือที่อ่าวป่าตอง ซึ่งมีกำหนดเดินทางออกจากภูเก็ตในวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.) 
 
     จากการสอบถามทราบว่า นักท่องเที่ยวดังกล่าวเดินทางมาท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต ด้วยเรือสำราญขนาดใหญ่ ชื่อ คอสต้า ครุยส์ วิคตอเรีย ซึ่งจอดลอยอยู่ที่บริเวณหน้าอ่าวป่าตอง โดยเมื่อช่วงเช้ามีการแบ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ตและอ่าวพังงา ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีจำนวน 29 คน ได้เดินทางมาขึ้นเรือสปีดโบ๊ทชื่อ สตกมล 333 ซึ่งมีนายอนุชา งานแข็ง อายุ 49 ปี เป็นกัปตันเรือ ที่ท่าเทียบเรือดังกล่าว เพื่อเดินทางไปยังอ่าวพังงา ขณะนั่งเรือเพื่อขึ้นฝั่งในช่วงเย็นก่อนจะถึงท่าเทียบเรือรอยัลภูเก็ตมารีน่าเล็กน้อย ได้มีเรือพิมพ์รชา 5 ซึ่งมีนายอรัญ ช่วยการกล้า อายุ 22 ปี เป็นกัปตันเรือ และมีลูกเรืออีก 2 คน นำเรือออกจากท่าเรือเดียวกันเพื่อกลับไปจอดที่บริเวณอ่าวยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง หลังส่งนักท่องเที่ยวเสร็จแล้ว แต่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นลำคลองในช่วงที่มีความคดเคี้ยว ได้เกิดเฉี่ยวชนกันขึ้น ทำให้มีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บดังกล่าว 
 
     อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัวกัปตันเรือทั้งสองลำไปตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในลำคลอง ก่อนที่จะนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมทั้งตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ และแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป