ทหารพรานยิงใส่ นศ. ที่ปัตตานี เหตุ นศ.ตามตัวเพราะขับรถชนจยย.ตกน้ำ เจ้าตัวอ้างบันดาลโทสะ
logo ข่าวอัพเดท

ทหารพรานยิงใส่ นศ. ที่ปัตตานี เหตุ นศ.ตามตัวเพราะขับรถชนจยย.ตกน้ำ เจ้าตัวอ้างบันดาลโทสะ

ข่าวอัพเดท : เกิดเหตุ ส.อ.ปรีชา อินทะรังษี ทหารพรานสังกัดหน่วยเฉพาะกิจที่ 4422 อำเภอแม่ลาน จ.ปัตตานี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลั่นใส่นางสาวฮานาน (ขอสงวน ปัตตานี,ทหารพราน,นักศึกษา,ยิง

12,162 ครั้ง
|
09 ส.ค. 2560
 
เกิดเหตุ ส.อ.ปรีชา อินทะรังษี ทหารพรานสังกัดหน่วยเฉพาะกิจที่ 4422 อำเภอแม่ลาน จ.ปัตตานี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลั่นใส่นางสาวฮานาน (ขอสงวนนามสกุล) นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี โชคดีกระสุนพลาดเป้า จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดหอพักนอกของนักศึกษา ถ.เจริญประดิษฐ์ ต.รูสะมีแล อ.เมือง เมื่อเย็นวันอังคาร ที่ 8 ส.ค. เวลาประมาณ 17.30 น. ที่ผ่านมา ภายหลังเกิดเหตุ ทางอาจารย์มหาลัยฯ พร้อมองค์กรนักศึกษาพาผู้เสียหายไปแจ้งความที่โรงพัก สภ.เมืองปัตตานี 
 
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า หลังจากนางสาวฮานาน ได้จอดรถจักรยานยนต์บริเวณบ้านพักเพื่อจะเข้าไปจัดกระเป๋าเตรียมตัวจะกลับบ้าน สิบเอกปรีชา ได้ขับรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว นำรถเข้าจอดบริเวณจุดเดียวกันและเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ฟีโน่ของนางสาวฮานาน ขณะจะเข้าจอดรถยนต์ จากนั้นนางสาวฮานานเดินออกมาดูเหตุการณ์ดังกล่าว และเข้าไปสอบถามคู่กรณีถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่สิบเอกปรีชา ได้เกิดโทสะและใช้ปืนประจำตัวลั่นปืนใส่นางสาวฮานาน 3 นัด แต่กระสุนปืนพลาดเป้า ทำให้นางสาวฮานานรีบวิ่งหนีเข้าบ้านพักเอาชีวิตรอด
 
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี ได้ทำการควบคุมตัวส.อ.ปรีชา พร้อมยึดอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมกระสุนในแม็กกาซีน จำนวน 7 นัดที่ใช้ก่อเหตุ และดำเนินคดี 5 ข้อหา คือ 1.พยายามฆ่าโดยเจตนา 2.ข่มขู่เอาชีวิต 3.ทำให้ผู้อื่นตกใจหวาดกลัว 4.พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ และ 5.ยิงปืนขึ้นฟ้า ซึ่งหลังจากพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาจึงได้นำตัวส่งไปยังเรือนจำทหาร ภายในมนฑลทหารบกที่ 46 เพื่อดำเนินขั้นตอนตามกฏหมายของศาลทหารต่อไป
 
ต่อมาเช้าวันนี้ พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบก.ฉก.ปัตตานี พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี ร่วมแถลงกรณีดังกล่าว พร้อมให้ผู้ต้องหากล่าวขอโทษประชาชน โดยสิบเอกปรีชามาในสภาพถูกจับโกนศีรษะ และแต่งชุดนักโทษสีส้ม เพราะได้สู่กระบวนการลงโทษของทหารตามระเบียบวินัย
 
พล.ต.จตุพร กล่าวว่า คดีขอให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงและต้องขอโทษพี่น้องประชาชนที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ซึ่งจากการสอบถามทราบว่า ส.อ.ปรีชากำลังอยู่ในช่วงพักในขณะที่เกิดเหตุ ส.อ.ปรีชากำลังทะเลาะกับภรรยาจึงเกิดบันดาลโทสะ ขณะนี้ผู้กระทำความผิดอยู่ในเรือนจำทหาร มทบ.46 ขั้นตอนต่อไปพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานีจะส่งเรื่องมาที่ศาลทหาร
 
ล่าสุด นักศึกษาคนดังกล่าวเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนได้ไปรับเพื่อนที่สถานีขนส่ง ก่อนที่ตนและเพื่อนจะเดินทางมาที่บ้านพักในซอยเจริญประดิษฐ์ ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ แต่เนื่องจากไม่มีกุญแจเข้าบ้าน ตนจึงจอดรถจักรยานยนต์บริเวณหน้าบ้านเพื่อรอเพื่อนมาเปิดประตู
 
ในขณะที่ตนและเพื่อน ๆ กำลังคุยกันอยู่นั้น ก็ได้มีรถกระบะไทรทันขับเข้ามาแล้วมาชนท้ายอย่างจัง ทำให้รถตกลงข้างทาง ตนก็ตกใจอย่างมาก ตนจึงยกรถของตัวเองพร้อมทั้งดูรถที่ชนว่ามีใครลงมาจากรถบ้าง สักพักก็เห็นผู้หญิงเดินลงมา ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นภรรยาของทหารเดินลงมา ตนก็เดินไปถามและพยายามเรียก โดยพยายามไม่ขึ้นเสียง แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ ตนจึงเรียกอยู่ตลอดจนคู่กรณีเดินเข้าบ้าน เพียงสักพักก็มีผู้ชายเดินออกจากรถซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นทหาร จู่ๆก็ถลกเสื้อขึ้น แล้วชักปืนที่เอวออกมา แล้วเล็งมาที่ขวามือของตน แล้วก็ยิงออกมา 3 นัด ทำให้ตนรู้สึกตกใจมาก
 
เมื่อยิงเสร็จ ชายดังกล่าวก็เดินอ้อมตามภรรยาเข้าไป และได้ยินเสียงปืนอีก 2 นัด และได้ยินเสียงตะโกนออกมาว่า พวกมึงเข้ามาเลย กูจะยิงให้ตายให้หมด ตนเห็นว่าชายดังกล่าวกำลังเล็งปืนออกมาอีกครั้ง โดยเล็งปืนไปหาเพื่อน ซึ่งตนกับเพื่อนตกใจมาก โชคดีที่เพื่อนข้างบ้านได้เข้ามาดึงตัวเข้าไปหลบซ่อนภายในบ้าน ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ตนตกใจ และไม่คาดคิดว่าเป็นเรื่องที่จะต้องใช้ปืนในการตัดสิน ตนเพียงแต่ต้องการคำขอโทษ เนื่องจากทรัพย์สินไม่ได้เสียหายมาก อยากได้เพียงแค่คำขอโทษเท่านั้น อยากจะฝากไปยังเจ้าหน้าที่ว่า ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงลาพักก็ควรระวังในการใช้อาวุธปืนให้มากขึ้น
 
ด้าน ดร.บดินทร์ แวลาเตะ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา มอ.ปัตตานี กล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นทางมหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่จะเข้ามาดูแลความปลอดภัยของนักศึกษา ส่วนความช่วยเหลืออันดับแรกก็คือ การดูแลเรื่องที่พักให้กับนักศึกษาที่เกิดเหตุ ให้มาอยู่หอพักภายในมหาวิทยาลัย เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ก็ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดบาดแผลทางด้านจิตใจ ดังนั้นจึงจะต้องบำบัดและดูแล โดยนักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยมีทั้ง 2 สาขา โดยผ่านกระบวนการศูนย์สุขภาวะนักศึกษา จะได้เข้ามาพูดคุยทั้งตัวเด็กนักศึกษาและผู้ปกครอง มาร่วมพูดคุยเพื่อเยียวยาจิตใจให้ดีขึ้น
 
ข้อมูลจาก ทีมข่าวไทยทีวีสีช่อง 3 และนสพ.ข่าวสด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง