จับตา ! ปัตตานี รับศึกน้ำจาก 2 ด้าน น้ำยังท่วมกระจาย 13 อำเภอ | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - จากสถานการณ์น้ำท่วมหนักในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส และ จังหวัดยะลา ล่าสุดวันนี้ ได้ขยายวงกว้างและส่งผลกระทบมายังพื้นที่ จังหวัดปัตตานี แล้ว ชาวบ้านหลายคนใช้รถสัญจรไปไหนมาไหนไม่ได้ ตัดสินใจขี่วัวลุยน้ำไปทำธุระ

 

จับตา จ.ปัตตานี รับศึกน้ำจาก 2 ด้าน

 

นี่เป็นภาพที่ชาวบ้านในหมู่บ้านตะโละไกรทอง อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี ขี่วัวลุยน้ำออกไปทำธุระนอกหมู่บ้าน หลังน้ำไหลเข้าท่วมถนน รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้

 

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี หลังมวลน้ำจากจังหวัดนราธิวาส ได้ไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรี ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ติดกับริมน้ำสายบุรี ในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกะพ้อ อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอสายบุรี อำเภอไม้แก่น ได้รับผลกระทบกับสภาพน้ำท่วมสูงไหลเข้าสู่หมู่บ้าน

 

นอกจากนี้ อีกด้านหนึ่ง มวลน้ำจากจังหวัดยะลาก็ได้ขยายวงกว้าง และไหลลงมาสู่แม่น้ำปัตตานี ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่ง และขยายเข้าท่วมพื้นที่ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานี ใน 4  อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอยะรัง อำเภอหนองจิก และ อำเภอโคกโพธิ์ ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านจางา หมู่ 1 บ้านยือโมะ ตำบลปะกาฮะรัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นที่ราบลุ่มติดแม่น้ำปัตตานี ระดับน้ำได้เข้าท่วมถนนสายทางเข้าหมู่บ้าน ชาวบ้านต้องเผชิญกับน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทาง

 

ขณะที่ ถนนสาย 42 ซึ่งเป็นสายหลัก ปัตตานี-นราธิวาส ในพื้นที่ ตำบลตะบิ้ง และพื้นที่ ตำบลละหาร น้ำได้เข้าท่วมถนนทั้ง 4 เลน ส่งผลให้ถนนฝั่งปัตตานีไปนราธิวาสมีน้ำสูงถึง 50 เซนติเมตร และมีน้ำไหลแรง จึงมีการปิดเส้นทางให้ใช้เลนเดียวฝั่งนราธิวาสไปปัตตานี แต่การจราจรเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะเลนดังกล่าวน้ำก็ท่วมสูงเช่นเดียวกัน

 

ซึ่งขณะนี้ อำเภอสายบุรี ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้ง 7 ตำบล บางจุดมีน้ำท่วมสูง 1-3 เมตร ประชาชนเริ่มอพยพออกนอกพื้นที่ ไฟฟ้าดับหลายแห่ง ด้าน นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้กำชับไปยังนายอำเภอแต่ละอำเภอที่ประสบอุทกภัย ให้เร่งช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งมีการตั้งโรงครัวเพื่อทำอาหารช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากอุทกภัยครั้งนี้

 

นาทีซึ้ง ! กู้ภัยช่วยแม่พร้อมลูกอายุ 7 วัน จ.ปัตตานี

 

เป็นหนึ่งคลิปที่ชาวบ้านรู้สึกปลาบปลื้มใจไปด้วย เมื่อมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ได้เข้าไปช่วยเหลือคุณแม่มือใหม่ป้ายแดง ที่ติดอยู่ในบ้าน จังหวัดปัตตานี ซึ่งในคลิปจะเห็นว่า ปริมาณน้ำท่วมสูงเกือบถึงหน้าอก 

 

นอกจากคุณแม่มือใหม่แล้ว หลายคนยังได้เห็นภาพทารกน้อย อายุเพียงแค่ 7 วัน ถูกช่วยเหลือด้วยการนำตัวเด็กใส่กล่อง ค่อย ๆ ลอยออกมาจากบ้าน ท่ามกลางรอยยิ้มของทีมกู้ภัย และชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง

 

น้ำยังท่วมกระจาย 13 อำเภอ เฝ้าระวัง 3 ลุ่มน้ำ จ.นราธิวาส

 

ที่ จังหวัดนราธิวาส น้ำยังท่วมกระจาย 13 อำเภอ มีผู้ได้รับผลกระทบนับแสนคน ด้าน เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังระดับน้ำ 3 ลุ่มน้ำหลัก สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 13 อำเภอ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ราย ในพื้นที่รือเสาะ 4 ราย และพื้นที่ระแงะ 3 ราย และจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายให้ถนน 2 สาย สะพาน 2 แห่ง และโรงเรียน 278 แห่ง สถานที่ราชการ 5 แห่ง

 

ส่วนความคืบหน้ากรณีผู้สูญหาย 4 ราย ในเหตุการณ์น้ำท่วม ที่ ตำบลเรียง อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เป็นผู้ใหญ่ 2 ราย และเด็ก 2 ราย โดยสูญหายหลังเรือพลิกคว่ำ ขณะเจ้าหน้าที่กำลังขนย้ายชาวบ้าน โดยเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่พบร่างผู้สูญหายแล้ว 2 ราย ล่าสุด วันนี้มีรายงานว่า พบร่างเด็กอีก 1 รายแล้ว ส่วนอีกรายอยู่ระหว่างการค้นหา

  

ขณะที่มีการแชร์ภาพดินโคลนถล่มจากภูเขาเมาะแต ลงมายังหมู่บ้านบระเอ็ง ตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ทำให้มีคุณครู 2 ราย เป็นสามี ภรรยา ถูกน้ำป่าจากดินโคลนถล่มพัดพาร่างจนเสียชีวิตทั้ง 2 ท่าน แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า เคยสำรวจพื้นที่เขาดังกล่าว พบว่าการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งนอกจากปริมาณฝนที่ตกเยอะ การลักลอบตัดไม้ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ดินจากภูเขาถล่มลงมาด้วย จนเกิดเหตุสลดดังกล่าว

 

อย่างไรก็ตาม เช้าวันนี้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส ยังคงมีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่จะเอ่อล้นตลิ่งต่อเนื่อง รวมถึงลุ่มน้ำบางนรา ลุ่มน้ำโก-ลก และลุ่มน้ำสายบุรี ที่ขณะนี้ระดับน้ำยังสูง นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่าบริเวณอำเภอรือเสาะ อำเภอศรีสาคร อำเภอระแงะ และ อำเภอเจาะไอร้อง จะมีฝนตกช่วงบ่ายและช่วงค่ำ

 

ส่วนบริเวณ อำเภอตากใบ อำเภอสุคิริน และ อำเภอแว้ง ฝนจะตกช่วงดึกถึงเช้าอีกวัน ส่วนในพื้นที่ อำเภอศรีสาคร อำเภอจะแนะ อำเภอตากใบ อำเภอสุไหงปาดี และ อำเภอสุไหงโก-ลก เป็นฝนกำลังอ่อนถึงปานกลาง ที่ตกกระจายทั่วไป ทำให้ลุ่มน้ำบางนรา ลุ่มน้ำโก-ลก และลุ่มน้ำสายบุรี ล้นตลิ่ง โดยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส มีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ทั้ง 3 ลุ่มน้ำดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ขณะที่ในวันนี้ พื้นที่บ้านปิเหล็ง อำเภอเจาะไอร้อง น้ำมีปริมาณลดลงกว่าวันที่แล้ว และในศูนย์อพยพชั่วคราวนิคมปิเหล็ง มีพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 150 คน จาก 3 หมู่บ้าน ซึ่งมีระดับน้ำสูงกว่าเกือบ 2 เมตร แต่ในขณะนี้สภาพอากาศค่อย ๆ ดีขึ้น ฝนทิ้งช่วงลงทำให้ระดับน้ำลดลง การสัญจรไปมายังคงใช้เพียงเรือท้องแบนของทางหน่วยงานเท่านั้น ซึ่งบรรยากาศภายในศูนย์อพยพชั่วคราว หน่วยงานต่าง ๆ ได้เข้าให้การช่วยเหลือ โดยเฉพาะหน่วยทหารในพื้นที่ได้จัดรถครัวสนาม พร้อมกำลังพลเจ้าหน้าที่ประกอบอาหาร จัดหาเครื่องดื่ม พร้อมอำนวยความสะดวกในด้านที่พักอาศัยชั่วคราวให้กับประชาชน โดยทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้จัดถุงยังชีพกว่า 50 ชุด มอบให้กับครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งปัญหาที่พบ มีเด็กและคนชราจำนวนหนึ่งที่ยังคงขาดของเครื่องใช้จำเป็นบางรายการ ทางแม่ทัพภาคที่ 4 จึงได้เร่งสั่งการหน่วยทันทีให้จัดหาสิ่งของจำเป็นมาให้กับผู้อพยพในศูนย์พักพิงดังกล่าว อาจต้องใช้เวลาสักระยะในการฟื้นฟูให้พื้นที่กลับสู่ภาวะปกติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกหน่วยงานพร้อมบูรณาการร่วมกันในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม หากฝนทิ้งช่วง 1-2 วันนี้ คาดว่าสถานการณ์ต่าง ๆ จะดีขึ้น

 

ระดับน้ำเริ่มลด-ชาวบ้านเร่งทำความสะอาด จ.ยะลา

 

ที่ จังหวัดยะลา สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มลดลงหลายพื้นที่ แต่ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักยังสูงล้นตลิ่งหลากท่วมเป็นวงกว้าง มีชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 70,000 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย

 

โดยระดับน้ำจากแม่น้ำสายหลัก ทั้งแม่น้ำปัตตานี แม่น้ำสายบุรี และคลองละแอ ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังท่วมเป็นวงกว้าง โดยพื้นที่บ้านลิมุด หมู่ที่ 4 ตำบลท่าสาป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับแม่น้ำปัตตานี ระดับน้ำยังคงสูงกว่าตลิ่ง อยู่ที่ 0.90 เมตร และยังคงถูกน้ำท่วมและมีพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง

 

โดยทีมข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้านรายหนึ่ง เล่าว่า น้ำเริ่มเข้าท่วมช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 26 ธันวาคม และก็ท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปกติน้ำไม่เคยเข้าบ้าน มีน้ำแค่หน้าบ้านเท่าน้้นเอง แต่ปีนี้น้ำมาเร็ว จนตั้งตัวไม่ทัน แต่ได้รับแจ้งเตือนมาก่อน จึงได้มีการยกของขึ้นที่สูง ทำให้ไม่มีอะไรเสียหาย วันนี้ก็จะเริ่มทำความสะอาดบ้าน และอาจจะเตรียมขายของในวันพรุ่งนี้ แต่หากน้ำยังท่วมขังที่หน้าบ้าน ก็คงต้องหยุดขายไปก่อน

 

นอกจากนี้ ยังเกิดดินสไลด์ในพื้นที่หมู่ 9 บ้านคีรีลาด ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ทำให้เส้นทางถูกตัดขาด ชาวบ้านใช้รถจักรยานยนต์สัญจรเข้าพื้นที่ได้เท่านั้น

 

ส่วนในพื้นที่ อำเภอรามัน บริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำสายบุรี ระดับน้ำยังคงสูงกว่าตลิ่ง อยู่ที่ 2.35 เมตร และยังคงถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างเช่นกัน หลังฝนหยุดตก ระดับน้ำในเขตเทศบาลตำบลเมืองรามันเริ่มลดลงแล้ว ประชาชนเริ่มสัญจรไปมาได้ตามปกติ แต่ยังไม่สามารถเดินทางไปยัง จังหวัดนราธิวาส ได้ เนื่องจากสะพานขาด ส่วนพื้นที่ ตำบลอาซ่อง ซึ่งถูกน้ำท่วมสูง ล่าสุด รถยนต์สามารถสัญจรเข้าไปได้แล้ว แต่ยังต้องใช้ความระมัดระวัง