จากกรณีที่นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายชื่อดังและประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้มีการโพสต์ข้อความลงบนโลกออนไลน์ เกี่ยวกับกรณีที่แพทย์ได้ทำการวินิจฉัยผิดพลาดว่า น.ส.นุ๊ก ติดเชื้อเอชไอวี ตั้งแต่อายุ 8 ปี จนกระทั่งปัจจุบันพบว่าไม่ได้มีการติดเชื้อเอชไอวีแต่อย่างใด ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้จึงได้ติดต่อไปยัง ทนายสงกานต์ เพื่อขอสัมภาษณ์พิเศษพร้อมด้วยน.ส.สุทธิดา แสงสุมาตร์ หรือ นุ๊ก ผู้เสียหายจากการถูกแพทย์วินิจฉัยผิดพลาด
น.ส.สุทธิดา เล่าว่า หลังจากพ่อของตนเสียชีวิตจากการติดเชื้อเอชไอวี ป้าของตนก็ได้พาไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในใน จ.ร้อยเอ็ด และหมอได้วินิจฉัยว่าตนติดเชื้อเอชไอวี และต้องรับประทานยารักษาต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนั้นตนอายุเพียง 8 ปี โดยมาทราบว่าตนไม่มีเชื้อเอชไอวี ตอนอายุ 19 ปี ในตอนที่ไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.กรุงเทพฯ หลังจากตั้งท้องกับแฟน โดยได้รับการตรวจเลือดอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งหมอได้วินิจฉัยว่าไม่มีเชื้อเอชไอวี ด้วยความแปลกใจ จึงไปกับศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย โดยวินิจฉัยว่าตนไม่มีเชื้อเอชไอวีด้วยเช่นกัน แต่ด้วยในขณะนั้นตนยังบรรลุนิติภาวะและไม่มีญาติให้ขอความช่วยเหลือจึงไม่ได้ฟ้องร้อง หรือเรียกร้องอะไร จนกระทั่งปัจุบันอายุ 24 ปี จึงได้ขอความช่วยเหลือมายังทนายสงกานต์ เพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องคดี
ด้านนายสงกรานต์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นรับทำคดีนี้เนื่องจาก จะให้คดีเป็นคดีตัวอย่างต่อสังคมและให้แพทย์เพิ่มความระมัดระวังในการรักษาหรือวินิจฉัยโรค เพื่อจะไม่ให้เกิดความผิดพลาดแบบนี้อีก นอกจากนี้ตนและน.ส.สุทธิดา ก็ได้เตรียมหลักฐานการตรวจจากโรงพยาบาลและจากทางสภากาชาดไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะดำเนินการฟ้องร้องทั้งทางแพ่งกับแพทยสภา เพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทน
นอกจากนี้นายสงกานต์ กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ถึงแม้สุดท้ายจะพิสูจน์ได้ว่า สามารถรักษา น.ส.สุทธิดา ให้หายจากการติดเชื้อเอชไอวีได้ ก็จะได้ประกาศให้โลกรู้ว่าประเทศไทยได้ประสบความสำเร็จในการรักษาการติดเชื้อเอชไอวีแล้ว แต่หากเกิดความประมาทของแพทย์ ก็อยากให้แพทย์คนดังกล่าวออกมายอมรับและแสดงความรับผิดชอบ รวมทั้งช่วยเหลือเยียวยา น.ส.สุทธิดา สำหรับชีวิตที่ผ่านมา จนกระทั่งผลกระทบจากยารักษาที่ทานมานานหลายปี
+ อ่านเพิ่มเติม