คุณแม่ออกมาเรียนกับสื่อ หลังลูกสาววัย 5 ขวบ เสียชีวิตแบบคาใจ โดยแพทย์วินิจฉัยว่าไม่เป็นอะไร พร้อมบ่ายเบี่ยงไม่ให้ย้าย รพ. ก่อนจะเสียชีวิตด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรง
วันที่ 5 เม.ย. 66 สุทธิดา ทุมสงคราม (ฟ้า) แม่เด็กที่เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 66 ลูกสาวมีอาการอาเจียน และมีไข้สูง จึงให้ปู่(พ่อสามี) พาไปโรงพยาบาล เนื่องจากลูกของตน มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว โดยเป็นภาวะธารัสซีเมีย และมีภาวะเหล็กเกิน แต่เข้ารับการรักษามาโดยตลอด ต่อมาเมื่อถึงโรงพยาบาล ต้องใช้แพทย์ตรวจเลือดถึง 3 คน วนมาตรวจเลือด สุดท้ายก็ได้ให้ลูกนอนที่โรงพยาบาล เนื่องจากห่วงเรื่องโรคประจำตัว ซึ่งในระหว่างนอนที่โรงพยาบาล ลูกสาวมีอาการอาเจียนอยู่ตลอด จนแพทย์ต้องฉีดยาแก้อาเจียนให้ถึงจะได้นอน
เช้าวันต่อมาตนได้ขอให้ปู่แจ้งย้ายลูกไปที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัด เพราะลูกรักษาโรคประจำตัวอยู่ที่นั่น และที่นั่นก็มีแแพทย์เฉพาะทาง แต่แพทย์กลับให้เซ็นปฏิเสธการรักษาก่อน ถึงจะให้ย้ายได้ ซึ่งปู่เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจ และ กลัวว่าถ้าลูกสาวเป็นอะไรระหว่างทางจะทำยังไง เพราะแพทย์เองก็แจ้งว่าให้นอนดูอาการอีก 1-2 วัน ต่อมา ยายได้สังเกตุว่าหลานนิ่งไป จึงเรียกให้พยาบาลมาตรวจเขาก็บอกว่าปกติ ก่อนจะกรี๊ดออกมา พร้อมปัสสาวะรดที่นอน แล้วก็นิ่งไปอีกครั้ง คราวนี้ลูกสาวปลุกไม่ตื่น แพทย์เวรในตอนนั้นถึงได้มาตรวจและแจ้งให้ย้ายไปโรงพยาบาลในจังหวัดด่วน อาการวิกฤติ แต่ทว่ากว่าจะได้ย้ายต้องรอถึงเกือบ 2 ชั่วโมง ซึ่งรอเอกสาร และรอคนไข้อีกคนหนึ่งไปพร้อมกัน ทั้งที่คนไข้คนนั้นยังเดินได้ แต่ลูกตนวิกฤติแล้ว เมื่อมาถึงโรงพยาบาลในตัวจังหวัด แพทย์ได้เจาะเลือดวินิจฉัยว่าน้องติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรง และมีโอกาศที่หัวใจจะหยุดเต้น ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ หลังจากสวดศพลูกไปได้ 1 วัน โรงพยาบาลกลับมาขอศพลูกไปเอ็กซ์เรย์ ซึ่งตนก็ยังเอะใจว่าทำไมถึงต้องนำไปเอ็กซ์เรย์ ส่วนผลเอ็กซ์เรย์ก็ยังไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ที่ตนออกมาร้องสื่อ เพราะอยากทราบเรื่องระบบการรักษา ระยะเวลาการส่งตัว ระบบส่งต่อ อยากรู้ว่าเขาทำถูกต้องไหมซึ่งเคยทวงถามกับทางโรงพยาบาลแล้วไม่ได้รับคำตอบอะไรเลยตนรอมากว่า 3 สัปดาห์ ถ้าไม่ได้สื่อโซเชียล ตนจะได้เรียกร้องความเป็นธรรมไหม
ด้าน รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว กล่าวว่า ตามปกติแล้ว ถ้าการรักษาเกินศักยภาพของโรงพยาบาลนั้น ๆ ยังไงก็ต้องส่งต่อไปให้โรงพยาบาลที่มีศักยภาพพอ ส่วนเรื่องขั้นนตอนการรักษาต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจ ทั้งนี้อาการของน้องน่าจะมีอาการติดเชื้อจากทางเดินอาหาร เพราะมีอาการอาเจียนรุนแรง
ฟาก ระพีพรรณ จันทรอ้วน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงคาน เผยว่า ทีมแพทย์ได้ทำการรักษาไปตามขั้นตอนอย่างเต็มที่ ซึ่งผลเลือดในวันนั้นไม่ได้บอกอะไรชัดเจน จึงรักษาไปตามอาการ ส่วนเรื่องที่ผู้ปกครองประสงค์ย้ายผู้ป่วย ตนคิดว่าอาจจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร ขณะเดียวกันเรื่องเอ็กซ์เรย์นั้น มีข้อสงสัยว่าน้องอาจมีปัญหาที่สมอง จึงขอนำตัวไปเอ็กซ์เรย์ อย่างไรก็ตามจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจอีกครั้ง และตนจะหารือกับผู้ใหญ่เพื่อเยียวยาผู้เสียหาย
ด้าน รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า หากจะให้ทางโรงพยาบาลรับผิดชอบนั้น ศาลจะต้องพิจารณาแล้วว่า แพทย์ที่รักษานั้นประมาทเลินเล่อ ดังนั้นต้องมีการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามตนสงสัยว่า ในกระบวนการต่าง ๆ มันมีความผิดพลาดไหม ที่ตนแปลกใจคือทำไมต้องเอาศพน้องไปเอ็กซ์เรย์ ทำไมถึงไม่ทำตั้งแต่ยังไม่เสียชีวิต
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35