ความคืบหน้าจากกรณีตำรวจ สภ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ เข้าตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัยที่ชาวบ้านแจ้งว่าจอดอยู่บริเวณริมถนนปากทางเข้าโรงพยาบาลกุยบุรี โดยเกรงว่าจะมาก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ แต่กลับพบว่าภายในมีชายแต่งกายห่มผ้าจีวรสีเหลืองคล้ายพระสงฆ์อยู่กับสีกาภายในหน้ารถเพียงลำพัง 2 คนในลักษณะกระจกประตูฝั่งคนขับมีผ้าสีเขียวผืนหนึ่งแขวนบังสายตาจากด้านนอก ทราบชื่อคือพระไพโรจน์ จันทร์แก้ว ส่วนที่บริเวณหน้ารถที่เบาะนั่งถูกปรับในลักษณะเอนนอนไปด้านหลัง มีผู้โดยสารหญิงวัย 47 ปีคนหนึ่ง ซึ่งกระดุมเสื้อถูกแกะออก ส่วนผู้ชายที่แต่งกายห่มจีวรคล้ายพระสงฆ์อ้างว่าตนบวชเป็นพระจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองประจวบฯ นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า พระไพโรจน์ จะเดินทางมาลาสิกขาบทกับ พระครูศรีธรรมสถิต เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในตำบลอ่าวน้อยเขต 2 ในฐานะเป็นพระอุปัชฌาย์ แต่เมื่อผู้ถึงเวลานัดหมาย กลับไม่พบพระไพโรจน์แต่อย่างใด
โดยพระครูศรีธรรมสถิต เปิดเผยว่า พระไพโรจน์ได้โทรศัพท์มาบอกว่าได้ลาสิกขาบทแล้วที่วัดทุ่งเคล็ดสามัคคีธรรม เมื่อวันที่ 26 ก.พ. เวลา 15.30 น. และยอมรับว่าประพฤติตนไม่เหมาะสมในสมณเพศ
ซึ่งเมื่อตนได้โทรศัพท์ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางวัดดังกล่าว ก็ปรากฏว่าพระไพโรจน์ได้ลาสิกขาบทแล้วจริงๆ แต่พระไพโรจน์หลังจากที่ได้ลาสิกขาบทแล้ว
+ อ่านเพิ่มเติม