ทำความรู้จัก อาโป้ง ขนมพื้นถิ่นพังงา ทำรายได้สู่รุ่นต่อรุ่น

8,143 ครั้ง

21 ก.พ. 2560

แชร์ข่าวไปที่

อาโป้งขนมพื้นถิ่นในจังหวัดพังงา หอม หวาน กรอบ นุ่ม ทำรายได้สู่รุ่นต่อรุ่นและประกอบเป็นอาชีพจนสามารถเปิดสาขาปัจจุบันนี้ถึง 6 สาขาสามารถจำหน่ายได้กำไรวันละ 2,000 – 3,000 บาทต่อวัน

ขนมพื้นบ้านในจังหวัดพังงาส่วนใหญ่มีพื้นฐานการทำและชื่อที่เรียกกันมาจากภาษาจีน เช่น ขนมเต้าซ้อ ขนมโอ๊ะเอ่ว เป็นต้น ขนมอาโป้ง ก็เป็นขนมพื้นบ้านชนิดหนึ่งที่มีการสืบทอดวิธีการทำมายาวนาน จนปัจจุบันเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคทุกวัยทุกเพศทุกศาสนาในพื้นที่ แต่วิธีการทำที่ละเอียดอ่อนกว่าจะได้ขนมอาโป้งที่รสชาติหอม กรอบ นุ่ม ละลายลิ้น ต้องผ่านกรรมวิธีซึ่งเป็นความลับเฉพาะของผู้ถูกถ่ายทอดสู่รุ่นต่อรุ่นเท่านั้น

ข่าวอัพเดท : ทำความรู้จัก อาโป้ง ขนมพื้นถิ่นพังง

นางรัตนพร พืชฟู อายุ 58 ปี เจ้าของร้านอาโป้งกระโสมเจ้าเก่า เป็นทายาทอีกรุ่นหนึ่งที่สืบทอดการทำขนมอาโป้งมาจากบรรพบุรุษเชื้อสายจีน และประกอบเป็นอาชีพจนสามารถเปิดสาขาปัจจุบันนี้ถึง 6 สาขา ในพื้นที่ อ.เมือง อ.ทับปุด อ.ท้ายเหมือง อ.กะปง อ.ตะกั่วทุ่ง และ อ.คุระบุรี ซึ่งจะเปิดเผยสูตรลับการทำอาโป้งจนได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เริ่มจากการผสมแป้งกับน้ำปูนใสหมักประมาณ 10 ชั่วโมง จากนั้นนำแป้งมาผสมกับไข่ น้ำตาล เกลือ กะทิ ในอัตราส่วนที่เหมาะสม ตามความชอบของคนในพื้นที่ เมื่อผสมแป้งจนมีรสชาติกลมกล่อมแล้ว จึงเตรียมเตาถ่านเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งจะทำให้ ขนมอาโป้ง ที่ได้มีกลิ่นหอมกว่าเตาแก๊ส จากนั้นเตรียมกระทะขึ้นเตาโดยใช้ไข่แดงสุกเช็ดกระทะไม่ให้ แป้งอาโป้ง ติดกระทะ ต่อมาโรยแป้งที่ผสมไว้ร่อนให้ทั่วกระทะ รอให้แป้งสุกจึงแกะออกมาและม้วนรอขายได้ทันที

สำหรับขนมอาโป้งที่อร่อยนั้นควรที่จะรับประทานหน้าเตาหรือรับประทานทันทีที่ซื้อ เนื่องจากจะมีความกรอบและนุ่มอยู่จากการสุกของแป้ง นางรัตนพร กล่าวว่า แป้ง 5 กิโลกรัม สามารถจำหน่ายได้กำไรวันละ 2,000 – 3,000 บาทต่อวัน ใช้เวลาจำหน่ายประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง เพราะผู้บริโภคในพื้นที่จะรู้ดีว่ารสชาติความอร่อยนั้นมีอยู่เต็มเปี่ยม เห็นได้จากขณะเตรียมเตามีคนมารอคิวซื้ออย่างไม่ขาดสาย

แชร์ข่าวไปที่

พังงา

อาโป้ง

ขนม