ร้องแพทย์สั่งยกศพไปผ่าพิสูจน์กลางงานสวดอภิธรรมคืน 2 ทั้งที่ญาติไม่ติดใจสาเหตุ ทำให้ต้องเสียค่ารถค่าผ่านับหมื่น
logo ข่าวอัพเดท

ร้องแพทย์สั่งยกศพไปผ่าพิสูจน์กลางงานสวดอภิธรรมคืน 2 ทั้งที่ญาติไม่ติดใจสาเหตุ ทำให้ต้องเสียค่ารถค่าผ่านับหมื่น

26,671 ครั้ง
|
12 ต.ค. 2559
     ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านปราสาท ต.จันดุม อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าได้มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลพลับพลาชัย สั่งให้นำศพนายศิลา บุญรัตน์ อายุ 50 ปี ที่ตั้งบำเพ็ญกุศล ไว้ที่บ้านในหมู่ 6 ต.จันดุม อ.พลับพลาชัย มาเป็นคืนที่ 2 เพื่อนำไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลจังหวัดสุรินทร์ สร้างความมึนงงให้กับญาติและชาวบ้านที่มาร่วมงานศพเป็นอย่างมาก ทั้งที่จะเตรียมเผาในวันรุ่งขึ้นแล้ว โดยชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์ ถึงการทำงานของแพทย์โรงพยาบาลพลับพลาชัย เพราะไม่มีเหตุผลทั้งที่พ่อแม่และญาติทุกคน ไม่ติดใจการเสียชีวิตในครั้งนี้ สร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าภาพงานศพ ที่มีฐานะยากจนอยู่แล้ว ต้องเลื่อนงานออกไปอีก 
 
     นางวิลัย บุญรัตน์ อายุ 44 ปี น้องสาวผู้ตาย บอกว่า พี่ชายมีอาชีพรับจ้างทั่วไปอาศัยอยู่กับแม่ และลูกชาย ชอบดื่มสุรา วันเกิดเหตุ (9 ต.ค.) ที่ผ่านมา พี่ชายขี่รถจักรยานออกไปหาปลา และมีคนไปพบเป็นศพข้างทาง ไม่มีร่องรอยหรือบาดแผลใดๆตามร่างกาย เมื่อตำรวจมาพิสูจน์ ได้สอบถามญาติว่าติดใจการเสียชีวิตของพี่ชายหรือไม่ ซึ่งญาติต่างไม่ติดใจ เพราะพี่ชายไม่เคยมีศัตรู ประกอบกับหลักฐานในที่เกิดเหตุไม่มีอะไรที่น่าสงสัย คาดว่าพี่ชายเมาสุราแล้วหกล้มจนเสียชีวิต ตำรวจจึงอนุญาตให้นำศพมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน
 
     โดยหลังจากตั้งศพสวดอภิธรรมที่บ้านเป็นคืนที่ 2 ได้มีตำรวจ สภ.พลับพลาชัย มาแจ้งว่า จำเป็นต้องเอาศพไปผ่าพิสูจน์ เนื่องจากแพทย์โรงพยาบาลพลับพลาชัย ระบุว่าต้องนำไปผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายให้แน่ชัดก่อน สร้างความมึนงงให้กับครอบครัว และชาวบ้านที่มาร่วมงานศพเป็นอย่างมาก 
 
     ซึ่งการนำศพไปผ่าพิสูจน์ครั้งนี้ ญาติจะต้องเสียค่าเหมารถไปจังหวัดสุรินทร์  9,000 บาท ค่าผ่าพิสูจน์อีก 1,500 บาท ถือเป็นการซ้ำเติมครอบครัวของตนซึ่งมีฐานะยากจนอยู่แล้ว นอกจากนี้งานศพยังวุ่นวายทั้งญาติที่มาร่วมงาน และพระที่นิมนต์มาสวดอภิธรรม ต่างไม่พบโลงศพ ในการสวดอภิธรรมคืนที่ 3 จึงจำเป็นต้องสวดโดยไม่มีร่างของพี่ชายอยู่
 
     ขณะที่นางบุญตา บุญรัตน์ อายุ 70 ปี แม่ผู้ตาย บอกว่า การกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ สร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก ทั้งแขกที่เชิญมาร่วมงานต่างกลับบ้าน ภายในวัดปราสาท ที่เป็นสถานที่ฌาปนกิจ ก็ต้องจัดของไว้รอโดยไร้ศพมาทำพิธี จึงอยากจะให้แพทย์จากโรงพยาบาลพลับพลาชัย ออกมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆที่ต้องเสียโดยที่ผู้เสียหายไม่รับรู้
 
     ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง ร.ต.อ.อัครวัฒน์ คุณวงศ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.พลับพลาชัย บอกว่า การเสียชีวิตของนายศิลา ไม่พบความผิดปกติ ไม่มีบาดแผลร่องรอย ผู้ตายไม่มีประกันชีวิตใดๆ ไม่มีทรัพย์สิน ครอบครัวมีฐานะยากจน และญาติไม่ติดใจการตาย จึงอนุญาตให้นำศพไปบำเพ็ญกุศลได้ หลังจากนั้นผ่านไป 2วัน ได้ประสานแพทย์เพื่อขอใบลงความเห็นการเสียชีวิต แพทย์ได้บอกว่าไม่ได้ จะต้องนำศพไปผ่าพิสูจน์ก่อน จึงจำเป็นต้องแจ้งให้ญาติผู้ตายทราบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง