จากกรณีที่สื่อในประเทศอังกฤษมีการนำเสนอข่าวว่านักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษ ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่ายลงในสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่ามาเที่ยววัดพระธาตุดอยสุเทพ ที่จังหวัดเชียงใหม่ แล้วถ่ายภาพกับเด็กผู้หญิงที่แต่งกายชุดชนเผ่าสองคน ต่อมาปรากฏว่านาฬิกาข้อมือได้หายไป ซึ่งเชื่อว่าเป็นฝีมือของเด็กหญิงทั้งสองคนที่ขโมยไป ซึ่งก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ นั้น
ล่าสุด พันตำรวจโทธาดา ธิตะปัญญา สารวัตรปราบปรามสถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ราชนิเวศน์ และร้อยตำรวจเอกเทอดพงษ์ จุลศิลป์ รองสารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ พร้อมด้วยพ่อแม่ของเด็กหญิงทั้งสองคน อายุ 10 ปี และอายุ 7 ปี ซึ่งเป็นพี่น้องกันที่ถูกกล่าวหา ร่วมกันแถลงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า จากการตรวจสอบกับพ่อแม่ของเด็กหญิงทั้งสองคน ได้รับการยืนยันว่าเด็กไม่ได้เป็นผู้ขโมยนาฬิกาไปจากนักท่องเที่ยวตามที่ถูกกล่าวหา
โดยในวันที่เกิดเหตุผู้เป็นแม่ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวถ่ายภาพร่วมกับลูกสาวทั้งสองคนด้วย และไม่พบว่ามีความผิดปกติใดๆ ซึ่งลูกสาวทั้งสองคนจะใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนหรือวันหยุดแต่งกายชุดประจำเผ่ามาถ่ายภาพที่ระลึกกับนักท่องเที่ยวที่บริเวณวัดพระธาตุดอยสุเทพเป็นประจำอยู่แล้ว โดยได้รับเงินจากนักท่องเที่ยวบ้างแล้วแต่สมัครใจ และไม่เคยเกิดเองเช่นนี้มาก่อน
นอกจากนี้จากการตรวจสอบข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ปรากฏด้วยว่าตลอดช่วงที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษแสดงตัวเป็นผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ราชนิเวศน์ และตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าเรื่องที่มีการนำเสนอข่าวไปนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง โดยเบื้องต้นเพื่อเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทางเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนกำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณใกล้เคียงจุดที่นักท่องเที่ยวอ้าง เพื่อตรวจสอบภาพในช่วงที่เกิดเหตุ ซึ่งน่าจะทำให้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
ในส่วนของนักท่องเที่ยวนั้น หากยังคงท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทย ขอให้เข้าแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ซึ่งหากเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายจริง ทางเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป ส่วนในกรณีที่นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวเดินทางออกนอกประเทศไปแล้วนั้น เบื้องต้นจะมีการตรวจสอบข้อมูลให้ทราบว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวชื่อและมีสัญชาติใด เพื่อที่จะได้ประสานผ่านทางกงสุลหรือสถานทูต ไปยังนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวเพื่อขอข้อมูลที่จะทำให้เกิดความชัดเจนต่อไป ทั้งนี้ยืนยันจะดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ด้านพ่อแม่ของเด็กหญิงทั้งสองคนที่ถูกกล่าวหา เปิดเผยว่า เพิ่งทราบข่าวกรณีที่เกิดขึ้นนี้เมื่อช่วงเช้าจากผู้ใหญ่บ้าน โดยที่ลูกสาวทั้งสองคนยังไม่ทราบเรื่องนี้ ซึ่งส่วนตัวในฐานะที่เป็นพ่อแม่รู้สึกเสียใจอย่างมากที่ลูกถูกกล่าวหาเช่นนี้ และยืนยันว่าลูกสาวไม่ได้เป็นคนที่ขโมยนาฬิกาของนักท่องเที่ยวตามที่มีการนำเสนอข่าว รวมทั้งไม่เคยมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมใดๆ กับนักท่องเที่ยวด้วย จึงต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ และขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยกันทำให้ความจริงปรากฏ
+ อ่านเพิ่มเติม