โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพจากทวิตเตอร์ @rainBowMBB ที่ได้โพสต์ภาพเลือดของคนไข้รายหนึ่งเป็น สีชมพูสาเหตุมาจากกินยาดีท็อกซ์ลดความอ้วนติดต่อกันนาน 2 เดือน ก่อนมีอาการปวดท้องรุนแรงจนต้องเข้ามารักษาในโรงพยาบาล พบมีอาการแทรกซ้อนหลายอย่างจนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และไม่สามารถนำเลือดไปตรวจได้เนื่องจากมีไขมันสูง พร้อมทั้งมีรายงานว่าคนไข้คนดังกล่าวได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา
พร้อมกันนี้ เฟซบุ๊ก ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน ได้โพสต์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน ชี้ว่ายาดีท็อกซ์ ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรมีอันตรายที่หลายคนคาดไม่ถึง โดยเฉพาะมีส่วนผสมของมะขามแขก ซึ่งดูเหมือนสมุนไพรธรรมดา แต่สรรพคุณที่แท้จริงคือเป็นยาระบายไม่ใช่ยาลดความอ้วน โดยระบุ
"อยากผอมจนตับพังไหมล่ะคุณ???”
มีผู้ป่วยอาการหนักมาอีกแล้วครับ มีคนส่งมาให้ดู สาเหตุเดิมๆ กินยาลดความอ้วน!!!
ผู้ป่วยได้ถือสิ่งที่กินเข้าไปมาด้วย ชื่อว่า “ดีท๊อก...” มีสรรพคุณ ขับเมือกไขมัน(คนหรือปลาไหลว้า? มีเมือกดั้ว) ลดไขมันส่วนเกิน ช่วยให้รูปร่างสมส่วน ลดไขมันพอกตับ ขจัดสารพิษ ไม่รู้ว่ามีเครื่องหมายอาหย่อยรับรองรึเปล่า
พวกยาลดความอ้วนพวกนี้ ถ้าพบคำว่า มะขามแขก นั่นมันคือยาระบายครับ ทำให้เราถ่ายท้อง ควรปรึกษาหมอ กินไปมากๆไม่ดีนะครับ เสียน้ำเสียเกลือแร่จนหมดเรี่ยวหมดแรง ระบบขับถ่ายเสียหมด แม้ว่าชื่อจะดูเป็นมิตรด้วยการเขียนคำว่าสมุนไพรเติมลงไป แต่เราไม่อาจรู้ว่ามันมีสารอันตรายอะไรบ้างที่ส่งผลต่อร่างกายในระยะยาว เห็นที่ผมวงกลมในภาพไหมครับ เลือดเป็นสีขาวขุ่น นั่นคือไขมันในเลือดสูง คาดว่าตับน่าจะมีปัญหาหรือตับพังนั่นเอง
"ต้นๆ ตับเป็นอะไรอะ"
"ตับเสียสตาร์ทไม่ติด"
"ทำไมไม่เลิกใช้ยาลดความอ้วนละ"
"เพราะเลิกใช้แล้วตับฟิตสตาร์ทติดง่าย"
ปล. อยากให้เลิกกินยาจริงๆจังๆ ไม่ขำนะครับผม
ที่มา https://twitter.com/rainBowMBB/status/701427579731865601/…/1
หมอ
ชาวเน็ต
แพทย์
คนไข้
ผู้ป่วย
เลือด
สีชมพู
ลดความอ้วน
ดีท็อกซ์
สมุนไพร
แชร์ออฟเดอะเดย์
shareoftheday