สุเทพ ยกระดับการชุมนุมขจัดระบอบทักษิณแบบถอนรากถอนโคน

เมื่อเวลา 19.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม ขึ้นเวทีราชดำเนินปราศรัยว่า วันนี้เป็นวันที่นัดหมายตัดสินให้ประเทศไทยรอดพ้นจากปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น  การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เห็นว่า “กฎหมายนิรโทษกรรม” เป็นเพียงส่วนยอดของปัญหา และแท้จริงแล้ว "ระบอบทักษิณ" คือต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย  เพราะที่ผ่านมามีการทำลายคุกคามคนสุจริต สนับสนุนคนไม่ดีเข้ามามีอำนาจ หลอกใช้คนยากจนเป็นเครื่องมือ คุกคามกระบวนการยุติธรรม ทำให้ระบบรัฐสภาเป็นเพียง "ตรายางของนายทุน" โดยอ้างความชอบธรรมจากการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต ทำให้เกิด "สภาทาส" และเป็นศูนย์รวมอำนาจของระบอบทักษิณ

นายสุเทพ  ได้ประกาศยกระดับการต่อสู้ “เป็นการขจัดระบบทักษิณแบบถอนรากถอนโคนให้หมดไปจากแผ่นดินไทย” เพื่อที่จะได้เปลี่ยนแปลง นำประเทศไทยไปสู่การปกครองอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และจะต่อสู้จนกว่าระบอบทักษิณหมดสิ้นจากแผ่นดินไทย ไม่หมดไม่เลิก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายสุเทพประกาศยกระดับการต่อสู้ดังกล่าว คนที่อยู่ในที่ชุมนุมต่างส่งเสียงดังลั่น พร้อมตะโกน "ออกไปๆ"

จากนั้นนายสุเทพ ได้ประกาศมาตรการ  คือ

1. ลงชื่อถอดถอน ส.ส. ทั้ง 310 คน ที่ลงมติให้กฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย โดยจะมีการตั้งเต็นท์รับคำร้องให้ประชาชนร่วมลงชื่อตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป  พร้อมเดินสายไปรับคำร้องในพื้นที่ต่างๆ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 19 พ.ย.นี้ จากนั้นจะส่งตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญไปยังป.ป.ช. หากมีการชี้มูลวันใด ส.ส.ทั้ง 310 คนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที

2. มุ่งหน้าจัดการกับคนของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการเฉพาะ โดยขอให้ประชาชนร่วมแสดงความรังเกียจ ด้วยการแสดงอารยะต่อต้าน เช่น การประณามทุกเวที และร่วมไม่เสวนาด้วย เจอที่ไหน เป่านกหวีดใส่อย่างเดียว พร้อมยกตัวอย่าง คือ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ , นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา , นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา และบรรดาส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยต้องทำให้คนเหล่านี้ไม่กล้าเดินถนน

3. ร่วมมือกันต่อต้านสินค้าในเครือญาติของพ.ต.ท.ทักษิณ ทุกชนิด ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีประชาชนนับพันเริ่มทำเป็นตัวอย่าง ขอให้ติดตามข่าว

4. ชวนประชาชนหยุดงานพร้อมกันทั้งประเทศ แต่มาตรการนี้จะเป็นไปได้ต้องมีประชาชนออกมาแสดงตัวร่วมการต่อสู้ให้ข้าราชการมั่นใจได้ก่อน แต่ทั้งหมดจะเป็นการดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมาย