ตาตายแล้วฟื้น ตกใจเห็นกู้ภัย วิ่งเตลิดหนีกลับบ้าน 3 กิโลเมตร
logo ข่าวอัพเดท

ตาตายแล้วฟื้น ตกใจเห็นกู้ภัย วิ่งเตลิดหนีกลับบ้าน 3 กิโลเมตร

ข่าวอัพเดท : คุณตา วัย 59 ปี ดื่มเบียร์ แล้วอาบน้ำสุดท้ายหมดสติ ไร้ชีพจร ญาติแจ้งกู้ภัยมานำส่งโรงพยาบาล ขณะปฐมพยาบาลเบื้องต้น ฟื้นขึ้นมาตกใจพยาบา ตายแล้วฟื้น,ตาตายแล้วฟื้น

813 ครั้ง
|
11 มิ.ย. 2567

คุณตา วัย 59 ปี ดื่มเบียร์ แล้วอาบน้ำสุดท้ายหมดสติ ไร้ชีพจร ญาติแจ้งกู้ภัยมานำส่งโรงพยาบาล ขณะปฐมพยาบาลเบื้องต้น ฟื้นขึ้นมาตกใจพยาบาลกำลังสอดท่อเครื่องช่วยหายใจ ลุกขึ้นเปิดประตูวิ่งกลับบ้านกว่า 3 กิโลเมตร

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2567 กู้ภัยวัดสว่างอารมณ์ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากทาง รพ.ปราสาท ให้ไปรับชายหมดสติอยู่ในห้องน้ำ ทราบชื่อ คือ นายเปรือง เอ็นมาก หรือ ตาเพียบ อายุ 59 ปี เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนจะนำตัวเปลี่ยนถ่ายผู้ป่วยให้รถ รพ.ปราสาท

ระหว่างที่แพทย์กำลังช่วยเหลือบนรถพยาบาล โดยใส่สายน้ำเกลือให้คนไข้ พอรถพยาบาลขับมาถึงบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านทนง อ.ปราสาท ตาเพียบเกิดรู้สึกตัว ได้ลุกขึ้นดึงสายน้ำเกลือออก ดิ้นขัดขืนจนทำให้พยาบาลได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะเปิดประตูวิ่งหนีลงจากรถเพื่อจะหนีกลับบ้าน

โดยมีรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยวิ่งขับตามไปพร้อมกับถ่ายคลิปตลอดเส้นทาง แต่ไม่กล้าเข้าไปใกล้ เพราะในมือของตาเพียบถือไม้อยู่ ซึ่งระหว่างที่เกิดเหตุมาถึงบ้านระยะทางประมาณ 3-4 กิโลเมตร จากนั้นญาติตาเพียบได้ขับรถตามมาถึงก็เข้าจับตัวตาเพียบนำกลับบ้านอย่างปลอดภัย

10 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดสว่างอารมณ์ ต.ปราสาททนง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสมาคมกู้ภัยวัดสว่างอารมณ์ นายวรเศรษฐากร ศักดาสกุลคุณากร อายุ 33 ปี อาสาสมัครกู้ภัยวัดสว่างอารมณ์ เล่าว่า ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลปราสาทว่า ให้รับชายหมดสติไม่มีชีพจร

เมื่อไปถึง ญาติกำลังทำ CPR อยู่ กู้ภัยจึงรับช่วงทำ CPR ต่อจากญาติ ซึ่งทำ CPR ได้ 20 นาที ชีพจรก็กลับคืนมา แต่สอบถามไม่พูดไม่จาได้แต่มอง จึงรีบแจ้งไปยังโรงพยาบาลปราสาท พร้อมนำตัวมาเปลี่ยนถ่ายผู้ป่วยบริเวณโรงเรียนบ้านทนง แต่พอผู้ป่วยรู้สึกตัว ตกใจไม่ยอมให้ใส่ท่อหายใจ ใช้แขนปัดไปมาพร้อมเปิดประตูรถพยาบาลวิ่งหนีออกมา

จากนั้นผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านกำไสจาน ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พบกับนางสมบัติ เอ็นมาก ภรรยาตาเพียบ อายุ 57 ปี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตาเพียบ กินเบียร์ไป 2-3 ขวด และเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ แต่เห็นว่า ตาเพียบเข้าห้องน้ำนาน นึกเอะใจก้มลงดูที่ช่องประตู จึงเห็นว่า ตาเพียบนอนหมดสติอยู่ในห้องน้ำ และไม่หายใจ ญาติจึงทำ CPR พร้อมโทรศัพท์แจ้งกู้ภัยให้มาช่วยเหลือ จนตาเพียบฟื้นขึ้นมา

นางสมบัติ เล่าอีกว่า เวลากินเหล้าเบียร์ ตาเพียบจะเกิดอาการวูบหมดสติไม่หายใจ ตนถามตาเพียบว่ารู้ตัวไหมว่า ตายแล้วฟื้น ตาเพียบบอกว่าไม่รู้ตัวเลย เพียงแต่ฟื้นมาแล้วพบใครก็ไม่รู้อยู่ตรงหน้าและงงว่า มานอนตรงนี้ได้อย่างไร พอมีคนนั้นเอาท่ออะไรมายัดใส่เข้าไปปาก รู้สึกเจ็บจึงปัดป้อง และวิ่งหนีออกมาเพื่อจะกลับบ้าน

เหตุการณ์นี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ตาเพียบวูบไม่หายใจ ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ตาเพียบวูบหมดสติไม่หายใจไป 1 คืน 1 วัน ก่อนจะฟื้นขึ้นมา พอถามตาเพียบ ตาเพียบบอกว่า ไม่รู้ตัว รู้แต่ว่ามีคนมาเล่นดนตรีไทยและรำให้ดู พร้อมกับบอกว่า ดูเสร็จแล้วก็กลับบ้านได้นะ

ด้าน ตาเพียบ เล่าว่า ตอนนี้รู้สึกอ่อนเพลียไม่มีแรง ตอนเกิดเหตุ ไม่รู้ตัวเลยว่า วิ่งกลับบ้านได้ยังไง โดยที่ไม่เหนื่อย และไม่เจ็บมือที่ถูกเข็มทิ่มเข้าไป คิดอย่างเดียวว่า อยากกลับบ้านไม่อยากไป รพ.