เพจดังโต้เดือด ! ปมกดดันตำรวจจนช็อก ยันทำในสิ่งที่ถูกต้อง | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

78 ครั้ง

21 มี.ค. 2568

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - จากกรณีเพจดังไลฟ์สด ดาบตำรวจตั้งด่านตรวจจับความเร็ว แล้วมีแอดมินเพจดัง 3 คน ไลฟ์สดพูดจากดดันจนดาบตำรวจช็อก ทรุดวูบคาไลฟ์สด ล่าสุดเพจดังออกมาตอบโต้แล้ว

จากกรณีเพจดังไลฟ์สด ตำรวจตั้งด่านตรวจจับความเร็ว บริเวณเกาะกลางถนนเส้นทางขาขึ้นในพื้นที่ตำบลบ้านหม้อ อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี

โดยนายตำรวจที่ประจำจุดตั้งกล้องวัดความเร็วคือ ดาบตำรวจศุภมิตร พวงประเสริฐ ผบ.หมู่งาน จราจร สภ.พรหมบุรี โดยแอดมินเพจไลฟ์พูดจากดดันดาบตำรวจศุภมิตร ซึ่งสวมโม่งปิดบังใบหน้า จนสุดท้ายทำให้ดาบตำรวจศุภมิตร เกิดอาการวูบชักเกร็ง ก่อนจะหมดสติ นำตัวส่งโรงพยาบาล จากการตรวจของแพทย์พยาบาลเบื้องต้นพบเส้นเลือดในสมองแตกเพราะเกิดจากความเครียด และกล้ามเนื้ออ่อนแรง

ขณะที่แอดมินเพจดังกล่าว ยังได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุ ขออภัยหากสิ่งที่ทำไปไม่ถูกใจใคร แต่ยืนยันว่าเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง และเน้นความถูกต้องเป็นหลัก

แอดมินยอมรับว่าอาจต้องเผชิญกับการดำเนินคดีทางกฎหมาย และพร้อมไปโรงพักหรือศาล และแอดมินแสดงความภูมิใจที่ได้ต่อสู้เพื่อความถูกต้องและความยุติธรรม

และโพสต์ล่าสุดของแอดมิน แสดงความคิดเห็นออกไปทางประชดประชันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า การช่วยตำรวจไม่ให้ ตุย แล้วโดนคดี น่าจะมีที่นี่ที่เดียว ประเทศกะลาแลนด์

โพสต์นี้ อาจกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ดาบตำรวจนายนี้มีอาการเส้นเลือดในสมองแตกจากการไลฟ์สดของเพจดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม แอดมินเพจดังกล่าวแสดงจุดยืนชัดเจนว่าตนเองทำในสิ่งที่ถูกต้อง และพร้อมที่จะรับผลที่ตามมาจากการกระทำของตน

แอดมินเพจยังโพสต์คลิป ระบุข้อความ ถ้าไม่เชิญผมวันนั้น ก็คงไม่ไปครับ เป็นเหตุการณ์ที่ดาบตำรวจ วิ่งข้ามถนนมาคุยกับชายคนหนึ่ง และบอกให้รอรับหมายเรียกกรณีขับรถเร็ว คนโพสต์ยังบอกด้วยว่า เป็นตำรวจข่มขู่ประชาชนและท้าทายก็ได้หรือ

แอดมินเพจยังได้นำเอกสารของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมัยเมื่อครั้ง พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็น ผบ.ตร. ระบุข้อความว่า เผื่อยังไม่เห็นคำสั่งนี้ ใจความในข้อ 2.1 ของคำสั่งนี้ ระบุถึงตำรวจในสายงานปราบปรามและจราจรทุกนาย ต้องแต่งเครื่องแบบให้เรียบร้อยขณะปฎิบัติหน้าที่ ในกรณีที่ต้องสื่อสารกับประชาชน ทั้งการช่วยเหลือ การตรวจค้น และหรือจับกุมบังคับใช้กฎหมาย ต้องใช้กิริยา วาจาสุภาพ แสดงตนโดยเปิดเผย ไม่ปกปิดใบหน้า สวมหมวกผ้า ไหมพรมคลุมทั้งศีรษะ

นายเกรียงไกร ไทยอ่อน นายกสมาคมนักรบด่านเถื่อน ไลฟ์สด ระบุว่า ก่อนหน้านี้ มีนักรบด่านเถื่อนผ่านไปพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.พรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี และเจอกับดาบตำรวจคนดังกล่าว มีพฤติกรรมปกปิดตัวตน

ต่อมานายแจ็ค อุปนายกสมาคมนักรบด่านเถื่อนได้มีข้อพิพาทกับตำรวจคนดังกล่าวผ่านโซเชียล ซึ่งดาบตำรวจคนนี้แต่งกายไม่เรียบร้อย เกิดความสงสัย เพราะไม่ติดป้ายชื่อและสังกัด ติดแค่ยศดาบ โดยทางตำรวจมีการข่มขู่ว่าจะออกหมายจับ ทำให้นายแจ็คพร้อมกับนักรบด่านเถื่อนเดินทางไปหาตำรวจตามนัด และไลฟ์สด ซึ่งการไลฟ์สดถือว่าประชาชนใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ

นายกสมาคมนักรบด่านเถื่อน บอกด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการสะท้อนว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญกับการจับความเร็วมากกว่าชีวิตคน มีเหตุผลอะไรที่ต้องเอาชีวิตมนุษย์ไปนั่งรอตั้งกล้องจับความเร็วท่ามกลางอากาศร้อน จนนำมาสู่การช็อกของดาบตำรวจไม่ได้คิดว่าการไลฟ์สดเป็นการชนะ แต่การไลฟ์สดเป็นการสะท้อนพฤติกรรมของตำรวจในพื้นที่ การแต่งกายไม่เรียบร้อย และไม่แสดงตัวตนให้ผู้บังคับบัญชาของเขาได้เห็น เรื่องของคดีก็ว่าไปตามกฎหมาย แต่ยืนยันว่าการไลฟ์สดของนักรบด่านเถื่อน ทำตามหลักรัฐธรรมนูญ

นายกสมาคมนักรบด่านเถื่อน ยังแสดงความเสียใจไปถึงครอบครัวของตำรวจนายนี้ ขอน้อมรับและรับผิดชอบ ภายใต้กรอบและกฎหมาย

ที่ สภ.พรหมบุรี หลังจากที่เมื่อช่วงบ่าย พลตำรวจตรี โชคชัย งามวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้มาประชุมติดตามความคืบหน้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย พันตำรวจโทภูสิษฐ์ ก้อนทอง รองผู้กำกับสอบสวน สภ.พรหมบุรี ระบุว่า การตั้งจุดตรวจจุดสกัดนั้น ได้ขออนุญาติจากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี ผู้มีอำนาจตามระเบียบกฎหมาย ผลการปฎิบัติที่ผ่านมา มีการจับกุมในคดีอาญาหลายคดี รวมถึงยาเสพติดและอาวุธปืน รวมถึงการใช้เอกสารปลอมเช่นใบขับขี่ปลอม ทะเบียนปลอม

ส่วนประเด็นที่เกิดขึ้น มีการไลฟ์สดจนทำให้ดาบตำรวจศุภมิตร เกิดอาการเครียดและวูบ แขนขาอ่อนแรง ซึ่งที่ผ่านมา ดาบศุภมิตรไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ เป็นคนแข็งแรง ออกกำลังกายอยู่เสมอ เรื่องนี้ทางผู้บังคับบัญชาเองได้ให้ความสำคัญ สั่งดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้มากขึ้น ต้องตรวจสุขภาพจากปีละ1 ครั้งเป็นปีละ 2 ครั้ง ส่วนในทางคดี ทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งให้ฝ่ายสอบสวน พิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าเข้าข้อหาใดได้บ้าง และจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.30-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35