โลกนี้จะล่มสลาย เข้าสู่ช่วงวิกฤตของมนุษยชาติหากขาด “ผึ้ง”

ผึ้งเป็นสัตว์ที่อยู่มาตั้งแต่โบราณกาลซึ่งมีบทบาทสำคัญกับธรรมชาติเป็นอย่างมาก ผึ้งจึงมีความสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ ทั้งการช่วยเหลือการผสมพันธุ์ของพืชชนิดต่าง ๆ และผลิตน้ำผึ้งที่เป็นแหล่งอาหารของสัตว์หลายชนิดรวมถึงเป็นประโยชน์แก่มนุษย์ในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ

จากการสำรวจทราบว่าร้อยละ 80 ของพืชและดอกไม้จำเป็นต้องอาศัยผึ้งเพื่อขยายพันธุ์ แต่ในปัจจุบันทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยพบว่าจำนวนของผึ้งลดลงอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งเกิดจากพืชพรรณซึ่งเป็นแหล่งอาหารของผึ้ง ค่อย ๆ หายไปจากธรรมชาติ และนี่คือผลกระทบของภาวะโลกร้อน

โลกในปัจจุบันมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นการอาหาร การเดินทาง และด้านอื่น ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลทำต่อระบบนิเวศของโลก มนุษย์เอาแต่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและผลประโยชน์ของเผ่าพันธุ์ตนเอง พยายามเอาเทคโนโลยีมาแทนที่ธรรมชาติ

แต่หลาย ๆ คนคงลืมไปและไม่ทันคิดไปว่า นวัตกรรมต่าง ๆ ที่พังไปสามารถสร้างขึ้นมาได้ แต่ธรรมชาติไม่ได้เป็นแบบนั้น หากสูญเสียไปแล้วการนำกลับมาแทบเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ โลกเริ่มส่งสัญญาณเตือนแล้วหลายอย่าง เช่น อากาศที่ร้อนผิดปกติ หลุมอากาศที่มีมากขึ้น น้ำแข็งที่ขั้วโลกละลายจนสัตว์อยู่แทบไม่ได้ หรือภัยธรรมชาติในรูปแบบต่าง ๆ และล่าสุดนี้คือจำนวนผึ้งที่เริ่มลดลงเรื่อย ๆ แต่มนุษย์ก็ยังไม่หยุด

หากวันหนึ่งผึ้งหายไปจากโลกจะเกิดอะไรขึ้น ?

อย่างที่กล่าวไปช่วงแรกว่าบทบาทของผึ้งที่สำคัญคือการผสมเกสร หากโลกนี้ไม่มีผึ้งพืชพรรณต่าง ๆ เองก็จะลดลงและสูญพันธุ์ตามไป เมื่อพืชพันธุ์ลดลงแหล่งอาหารของสัตว์จะลดลงตามส่งผลต่อให้สัตว์ไม่มีแหล่งอาหาร และสุดท้ายถ้าขาดแหล่งอาหารสัตว์จะตาย

แล้วถ้าทั้งพืชพรรณและสัตว์ตายมนุษย์จะเอาแหล่งอาหารมาจากไหน ?

โลกจะเข้าสู่สภาวะการขาดอาหารอย่างรุนแรง และนอกจากอาหารเสื้อผ้าเองก็จะขาดแคลนเพราะผึ้งมีผลต่อต้นฝ้ายเช่นกัน สรุปแบบง่าย ๆ ก็คือ ไม่มีผึ้ง > พืชไม่ได้ขยายพันธุ์ > พืชสูญพันธุ์ > สัตว์ไม่มีอาหารกิน > สัตว์สูญพันธุ์ > มนุษย์เข้าสู่ภาวะขาดแคลนอาหาร > มนุษย์สูญพันธุ์

องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กล่าวว่าวิธีการผสมพันธุ์ของผึ้งเป็นตัวการสำคัญต่อโลก ทำให้เรามีความมั่นคงทางอาหาร เราทุกคนจึงควรช่วยกันรักษาสมดุลของธรรมชาติด้วยวิธีการเซฟน้องผึ้งง่าย ๆ เช่น ปลูกพืชเป็นแหล่งอาหารให้ผึ้ง ลดการก่อมลพิษ หันกลับมาให้ความสำคัญกับระบบนิเวศเพื่อโลกของเราจะได้น่าอยู่ต่อไป

ที่มา : WWF, SAS, สวก.