logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

โฆษกตำรวจ ชี้ ! การสอบสวนยึดตามกฎหมายสากล เป็นหน้าที่หน่วยงานกลาง | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - โฆษกตำรวจ เผยเหตุการณ์สายการบิน สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ตกหลุมอากาศ ขอลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ch7hd news,ch7hdnews,ช่อง7,ช่อง7hd,ch7,ch7hd,ข่าว,news,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวกีฬา,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูย้อนหลัง,ดูทีวี,ดูข่าว,live ข่าว,liveข่าว,ไลฟ์สดทีวี,ไลฟ์สดข่าว,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว7,ถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์,อาร์ม พิพัฒน์,ปุ้ม เปรมสุดา

943 ครั้ง
|
22 พ.ค. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - โฆษกตำรวจ เผยเหตุการณ์สายการบิน สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ตกหลุมอากาศ ขอลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ การสอบสวนยึดตามกฎหมายสากล และเป็นหน้าที่หน่วยงานกลาง ส่วนผู้บาดเจ็บยังรักษาตัวในไทย 71 คน
 
โฆษก ตร. ชี้การสอบสวนเป็นหน้าที่หน่วยงานกลาง
 
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการดำเนินการสอบสวนเหตุสายการบิน สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน SQ321 เส้นทางฮีทโธรว์-ชางงี ขอลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังตกหลุมอากาศจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เมื่อช่วงเย็นวานนี้
 
พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า คดีนี้อาจต้องมีการฟ้องร้องตามสิทธิ์ ซึ่งตำรวจไทยไม่ได้รับผิดชอบในส่วนนี้ การสอบสวนจะต้องดำเนินการตามหลักกฎหมายสากล ในรูปของกรรมการร่วมหลายหน่วยงาน เป็นคณะกรรมการสากล เนื่องจากเป็นอากาศยานต่างชาติ นักบินต่างชาติ สถานที่เกิดเหตุอยู่นอกเหนือราชอาณาจักร แม้ว่าไทยจะมีส่วนเกี่ยวข้อง ในฐานะที่ปรากฏผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีอำนาจในการรับแจ้งความ เพราะต้องยึดตามกฎหมายสากลด้วย เชื่อว่ามีช่องทางในการร้องเรียนดำเนินการอยู่แล้ว
 
ผู้ได้รับบาดเจ็บยังอยู่ไทย 71 คน
 
ส่วนความคืบหน้าอาการผู้บาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ได้เผยแพร่เอกสารต่อสื่อมวลชน มีใจความว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวมารักษาทั้งหมด 71 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยบาดเจ็บเล็กน้อย 26 คน ส่งต่อโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 4 คน
 
ผู้บาดเจ็บอาการปานกลาง 39 คน ส่งต่อโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 4 คน, ส่งต่อโรงพยาบาลกรุงเทพ 2 คน และผู้ป่วยบาดเจ็บอาการรุนแรง 6 คน สำหรับสัญชาติผู้บาดเจ็บในเบื้องต้น มีมาเลเซีย 3 คน, สหราชอาณาจักร 3 คน, นิวซีแลนด์ 2 คน, สหรัฐอเมริกา 2 คน และอังกฤษ, สเปน, ไอร์แลนด์ ชาติละ 1 คน
 
ขณะที่เมื่อช่วงเช้า ทีมแพทย์ผู้รักษาได้ประชุมสรุปตัวเลขผู้บาดเจ็บ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ก่อนจะชี้แจงเอกสารฉบับที่ 2 นอกจากนี้มีตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย เดินทางมาติดตามความคืบหน้าอาการผู้บาดเจ็บ แต่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลหรือให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
 
ซีอีโอสายการบิน สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เสียใจเหตุตกหลุมอากาศ
 
ด้าน เพจ Singapore Airlines เผยแพร่คลิปวิดีโอของ นายโกะชุน พง (Goh Choon Phong) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส กล่าวถ้อยแถลงแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อวานนี้ประมาณ 10 ชั่วโมง หลังออกจากกรุงลอนดอน มายังสิงคโปร์ เที่ยวบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ส SQ321 ได้เผชิญสภาพอากาศเลวร้ายกะทันหัน เหนือน่านฟ้าที่ราบปากแม่น้ำอิระวดี ที่ระดับความสูง 37,000 ฟุต นักบินได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน และเปลี่ยนเส้นทางบินมาลงที่กรุงเทพเมื่อเวลา 15.45 น.
 
เรารู้สึกเสียใจมากต่อเหตุการณ์นี้ ซึ่งทำให้มีผู้สูญเสีย 1 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ในนามของ สิงคโปร์ แอร์ไลนส์ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
 
นายกสมาคมนักบินไทย ชื่นชม กัปตันสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส
 
ด้าน นายธีรวัจน์ อังคสกุลเกียรติ นายกสมาคมนักบินไทย แสดงความเห็นว่า จากข้อมูลที่ตัวเองได้ดูจากสื่อ พบเครื่องบินตกจากความสูง 37,000 ฟุต เหลือ 31,000 ฟุต หรือประมาณ 6,000 ฟุต (ราว 1.8 กิโลเมตร) ภายในเวลา 3 นาทีนั้น จากประสบการณ์การเป็นกัปตัน ในการลดระดับความสูงของเครื่องบินจำนวนนี้คือการลดระดับตามปกติ เหมือนเวลาจะนำเครื่องบินลงจอด หรือแลนดิง
 
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น กัปตันธีรวัจน์ มองว่า เครื่องบินตกหลุมอากาศในระดับความสูงที่บินอยู่ โดยหลุมอากาศที่เกิดจากกระแสลมปั่นป่วนอย่างรุนแรง ที่ระดับความสูงเดียวกับเพดานบิน ซึ่งลักษณะของหลุมอากาศชนิดนี้ เรดาร์บนเครื่องบินไม่สามารถตรวจจับได้ อีกทั้งหากมองด้วยสายตา อากาศภายนอกจะมีสภาพแจ่มใส ทำให้กัปตันไม่สามารถประเมินล่วงหน้า หรือประกาศแจ้งเตือนผู้โดยสารให้เตรียมตัวได้ ทำได้เพียงส่งสัญญาณเตือนรัดเข็มขัด และเครื่องบินคงสั่นสะเทือนทันที ส่วนหลุมอากาศที่เกิดขึ้นจากพายุฝนฟ้าคะนอง กรณีนี้ตรวจพบจากเรดาร์ของเครื่องบินได้ กัปตันและนักบินจึงหลีกเลี่ยงไม่บินไปใกล้ได้
 
กัปตันธีรวัจน์ กล่าวอีกว่า ในฐานะตัวเองเป็นกัปตันเครื่องบิน ยอมรับว่ายังไม่เคยเจอเหตุการณ์ความรุนแรงการตกหลุมอากาศแบบนี้มาก่อน ส่วนใหญ่จะเป็นหลุมอากาศสภาวะปกติ ที่สามารถประเมินและหลีกเลี่ยงได้ ส่วนตัวเชื่อว่ากรณีนี้ล่าสุดตัดสินใจแก้ปัญหาสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดี เพราะหลังจากเกิดเหตุได้ประสานลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทันที ไม่ได้ตัดสินใจบินให้ถึงปลายทางก่อน
 
โลกร้อน ทำให้เครื่องบินตกหลุมอากาศมากขึ้น
 
ขณะที่ นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์บางช่วงว่า อุณหภูมิในบรรยากาศโลกที่สูงขึ้น ทำให้ลมกรด-ลดความเร็วลงในบางช่วง ทำให้เกิดอากาศแปรปรวน ขณะที่อากาศปลอดโปร่งมากขึ้น และทำให้ความหนาแน่นของมวลอากาศ ในช่วงบริเวณดังกล่าวบางลง ทำให้เกิดหลุมอากาศขึ้น ขณะที่เครื่องบินได้บินผ่านหลุมอากาศ แรงยกจากปีกของเครื่องบินจะลดลงกะทันหัน ทำให้ตัวเครื่องตกลงไปในหลุมอากาศ แต่จะตกมากหรือน้อยขึ้นอยู่ที่ขนาดความหนาแน่นของมวลอากาศ
 
โดย นักวิจัย ชี้ว่า อัตราการเกิดหลุมอากาศจะเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า ภายในปี 2050 และอาจมีเครื่องบินต้องเผชิญกับหลุมอากาศที่รุนแรงมากขึ้นถึง 40
 
เครื่องบินตกหลุมอากาศเป็นอย่างไร
 
ขณะเดียวกัน มีนักบินไทยโพสต์คลิปสถานการณ์ตกหลุมอากาศที่เคยประสบมาก่อน
 
ในคลิปจะเห็นสภาพอากาศด้านหน้าที่เต็มไปด้วยกลุ่มก้อนเมฆ จังหวะที่นักบินบินฝ่าเข้าไป ปรากฏว่าเกิดอาการเครื่องสั่นสะเทือนค่อนข้างแรง พอบินหลุดจากกลุ่มก้อนเมฆดังกล่าว สถานการณ์ก็กลับสู่ภาวะปกติ โดยในโพสต์ยังระบุด้วยว่า นี่แค่เฉี่ยว ๆ ปลาย ๆ พร้อมแนะนำผู้โดยสารควรรัดเข็มขัดตลอดเวลาขณะนั่งอยู่กับที่ เพราะจะช่วยเซฟชีวิตเราไว้ได้
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง