เอ๋ ปารีณา นอนไม่หลับ เร่งแจ้งความดำเนินคดี โน้ส อุดม ในความผิดมาตรา 112 หลังได้เห็น เดี่ยว สเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์ ของ โน้ส อุดม สตรีมมิงทางเน็ตฟลิกซ์ ซื่งมีการกล่าวถึงคำว่าพอเพียง ทนไม่ไหวเอาเบื้องสูงมาหากิน ลั่นไม่กลัวฟ้องกลับ
จากกรณี เดี่ยว สเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์ ของ นายอุดม แต้พานิช หรือ โน้ส อุดม ที่ได้เผยแพร่ผ่านทางเน็ตฟลิกซ์ เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ดรามาไม่รู้จบ จากคำว่าพอเพียง ที่เขาได้พูดในช่วงหนึ่งของโชว์ว่า “หลังจากไปอยู่กับธรรมชาติ อยากรู้สึกว่าพอเพียง สารภาพตรงนี้เลยว่าเป็นคนไม่รู้จักพอ อยู่ไม่ได้จริงๆ จริตตนมันไม่ใช่ ตนดัดจริตเฉยๆ ทำเป็นอยากพอเพียง อยากปลูกผัก แต่เราไม่ได้เป็นจริงๆ เราแค่อยากให้คนอื่นเห็นว่าเป็น แล้วเราก็อยากจะเป็นแค่นั้นแหละ แต่ไม่ง่ายเลย แล้วเราก็ไปเห่อตามดารา อินฟลูเอ็นเซอร์ที่ไปอยู่ เห็นเขาเกี่ยวข้าว แต่เขาลงมาจากรถตู้ มันพอกครีมกันแดดหลายตลบแล้ว มันลงไปถ่ายภาพเกี่ยวข้าวลง IG แล้วกลับไปห้องแอร์ คนที่ปลูกจริงๆ คือชาวไร่ชาวนาทั้งนั้น อย่าดัดจริต ตนรู้แล้วว่าไม่ใช่เกษตรกร ตอนเด็กๆ จนมาพอแล้ว ไม่ต้องดัดจริตทำเป็นจน อยากมีแอร์เย็น ๆ เน็ตแรง ๆ ดูหนังได้ทั้งวัน ไม่มีแมลงหวี่มาตอมตา ตนคือผู้บริโภค”
ทำให้คนที่มีชื่อเสียงหลายคนไม่เห็นด้วยออกมาแสดงความคิดเห็นต่อ โน้ส อุดม อย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็น พลตำรวจโท เรวัช กลิ่นเกษร, พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ, อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกรัฐบาล
ล่าสุด วันที่ 8 พฤษภาคม เอ๋ ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กตอนเวลา 00.12 น. เป็นภาพของตัวเองขณะอยู่ในสถานีตำรวจ กำลังแจ้งความ พร้อมระบุข้อความว่า “นอนไม่หลับ จริง ๆ อยากจะพัก แต่มันทนไม่ไหวจริง ๆ ยอมรับเคยชื่นชอบ แต่การเอาเบื้องสูงมาหากิน คือสารเลว คืนนี้ ปารีณามาดำเนินคดีไอ้จมูกโต ตามมาตรา 112 ที่ สภ.โพธารามค่ะ ขอให้ศาลสูงพิพากษาจำคุก ขอให้ศาลเตี้ยลงประชาทัณฑ์”
ทางด้าน เอ๋ ปารีณา ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับข่าวเย็นประเด็นร้อน ว่าที่ตัดสินใจไปแจ้งความเพราะว่านอนไม่หลับ อึดอัด เลยลุกขึ้นไปโรงพัก โดยแจ้งความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่ไม่ได้ระบุในเฟซบุ๊กว่าเป็นโน้ส อุดม สื่อไปเขียนเอง ตนเพียงระบุว่า ไอ้จมูกโต ไม่ได้พูดชื่อนามสกุลใคร ซึ่งตรงนี้จะต้องถามตำรวจว่าเป็นใคร
ทีมข่าวถามว่าได้ดูการแสดงของโน้ส อุดม หรือยัง คุณเอ๋ ปารีณา บอกว่า ได้ดูแล้ว และนำคลิปดังกล่าวไปมอบให้ตำรวจด้วยเพื่อดำเนินคดี เพราะเชื่อว่าเป็นความผิดตามมาตรา 112 ซึ่งตำรวจเห็นแล้ว โดยคนที่ถูกแจ้งความจะแจ้งความกลับตนก็ได้ ไปว่ากันที่ศาล และย้ำว่าจุดที่ทำให้นอนไม่หลับ เพราะความรู้สึกโดยสุจริต ความเชื่อ ความไม่สบายใจ ฟังแล้วเข้าใจและรู้สึกเจ็บปวด
ขณะเดียวกัน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง กล่าวว่า โน้ส อุดม ไม่มีความผิดมาตรา 112 ข้อหาหมิ่นสถาบันแต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีข้อเท็จจริงใด ๆ ที่ปรากฏว่า โน้ส อุดม ทำผิดมาตรา 112 ใครทีไปร้องตรวจสอบหรือร้องทุกข์ ต้องระมัดระวัง อาจมีความผิดฐานแจ้งความเท็จได้ ถ้าข้อความที่ไปแจ้งความนั้นบิดเบือนผิดไปจากความเป็นจริง ซึ่งมีโทษจำคุก 5 ปี
นางปารีณา ยังโพสต์เฟซบุ๊กเพิ่มเติมว่า “เมื่อทนายเดชาเข้าใจว่า ประเด็นดังกล่าวไม่เข้าข่ายมาตรา 112 ถือเป็นความคิดเห็นตามมาตรา 329 ออกโรงออกตัวมาป้องแบบนั้น ไม่ว่ากัน
ขณะเดียวกัน มีคนอีกจำนวนมาก เข้าใจว่าเข้าข่ายและรู้สึกเจ็บปวดกับการกระทำของศิลปิน ไม่ควรไปว่าหรือขู่ เพราะเป็นความเห็นตามมาตรา 329 เช่นเดียวกัน อะไรก็ตามแต่ เบื้องสูงเกิดความเสียหาย จึงขอให้มันจบที่ศาลนะคะ ทนายเดชา ทนายคนดีที่เห็นต่างกันกับปารีณา พ่ออยู่บนสวรรค์ รักพ่อปกป้องพ่อ เพราะศิลปินที่ดี ต้องไม่หากินแบบนี้ มิฉะนั้นอาจเป็นเยี่ยงอย่างศิลปินรุ่นน้องที่อยากดัง ปารีณาเตรียมดำเนินคดี netflix ต่อนะคะ”
นอกจากนี้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีพรรคก้าวไกล ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ถ้ามีการแจ้ง ม.112 กับคุณโน้ส อุดม จริง ผมว่ามันไปกันใหญ่แล้ว และการกระทำในครั้งนี้ เป็นประจักษ์หลักฐานที่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ม.112 นั้น มีปัญหาจริง เพราะพฤติกรรมในลักษณะนี้ เข้าข่ายเป็นการใช้ความเห็นต่าง ที่เป็นปกติของทุกสังคม ที่มีความแตกต่างหลากหลาย มาโยงใยกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และใช้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องมือ ในการตอบโต้เอาคืนคนเห็นต่าง ซึ่งก็ไม่ใช่ใคร ก็เป็นประชาชนคนไทยด้วยกันทั้งนั้น พฤติกรรมการใช้ ม.112 เป็นเครื่องมือเช่นนี้ ผมยืนยันว่า ไม่เป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชนเลย แทนที่สถาบันพระมหากษัตริย์จะเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนคนไทยในชาติ กลับต้องถูกนำมาวางเอาไว้ท่ามกลางความขัดแย้ง และถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายล้างระหว่างคนไทยด้วยกันเอง ถ้าประสงค์ดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่ทำแบบนี้”