นักธุรกิจสาวชาวฝรั่งเศส เจ้าของวิลลาให้เช่าบนเกาะสมุย ใช้ปืนจบชีวิตตัวเองริมสระน้ำในวิลลาส่วนตัว ก่อนตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินคาดว่าอาจมีมูลค่านับ 100 ล้านบาท ให้แม่บ้านคนสนิท
นางแคทเธอร์รีน อายุ 59 ปี นักธุรกิจชาวฝรั่งเศส ใช้อาวุธปืนจ่อยิงขมับซ้ายตนเองเสียชีวิตริมสระน้ำ ภายในวิลลาส่วนตัว บนเนินเขาบ้านแม่น้ำซอย 5 ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงสายของวันที่ 29 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา คาดว่าเพราะความเครียดจากโรคร้ายที่รุมเร้า
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในวิลลา บันทึกภาพ นางแคทเธอร์รีน กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน โดยมีโน้ตบุ๊กวางอยู่ 1 เครื่อง และกำลังเขียนอะไรบางอย่าง ก่อนที่เธอจะพยายามใช้ไม้ถูกระจก ดึงกล้องวงจรปิดให้หันลงจนกล้องไม่สามารถจับภาพเธอต่อได้อีก
กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น นายสมพร อายุ 29 ปี คนงานทำความสะอาดสระน้ำ เข้ามาพบศพนางแคทเธอร์รีนนอนจมกองเลือด จึงแจ้งตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ที่ขมับซ้ายพบรูกระสุน เจาะทะลุขมับขวา เลือดไหลนองกระจายบนเตียงสำหรับนอนเล่นริมสระน้ำ ข้างศพพบอาวุธปืนพกสั้นแบบออโตเมติกขนาด .45 สีดำ 1 กระบอก และพบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันตกอยู่ใต้เตียง 1 ปลอก และยังพบรูกระสุนทะลุไปเจาะกระจกประตู หัวกระสุนไปตกอยู่ในบ้าน 1 หัว
ตำรวจได้ตรวจพบหลักฐานสำคัญในมือถือของผู้ตาย มีการเขียนข้อความถึง นางณัฐวลัย ภูพองตา หรือ ป้าติ๋ม อายุ 49 ปี ชาวอำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร แม่บ้านคนสนิท ใจความสรุปว่า เธอเลือกให้ป้าติ๋มเป็นผู้ดำเนินการเรื่องพินัยกรรมของเธอ สำเนาพินัยกรรมต่าง ๆ อยู่ในตู้นิรภัยที่เก็บไว้ ซึ่งให้ป้าติ๋มเปิดพร้อมกับเพื่อนสนิทของเธอ โดยเธอต้องการให้เผาศพ และเอาขี้เถ้าของเธอไว้บนเกาะสมุย
ส่วนทรัพย์สินที่ยกให้ป้าติ๋ม มีหลายรายการ อาทิ บ้านวิลลา ที่ดินเปล่า 2 ไร่ รถยนต์หรู เครื่องประดับแหวนเพชร เงินสดในธนาคาร พร้อมกับโอนเงินค่าทำศพตัวเองเป็นเงิน 5 แสนบาท รวม ๆ มูลค่าทรัพย์สินมรดกที่ยกให้ป้าติ๋ม ราว ๆ กว่า 100 ล้านบาท และยังมีสมบัติอื่น ๆ ที่ยกให้สามีเก่า คือวิลลาอีก 2 หลัง เงินในบัญชีธนาคารบางส่วน และลูกแมวอีก 3 ตัว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ นางแคทเธอร์รีน ระบุว่า เธอขโมยมา
ด้าน ป้าติ๋ม เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนรู้จักกับนางแคทเธอร์รีนมากว่า 17 ปีแล้ว ตนสมัครทำงานเป็นแม่บ้านที่ห้องเช่าของนางแคทเธอร์รีนก่อนนางแคทเธอร์รีนจะขยายธุรกิจจากห้องพักให้เช่ามาสร้างรีสอร์ท และวิลลา ตนก็อยู่ช่วยเหลือกันมาตลอด จนก่อนเกิดเหตุนางแคทเธอร์รีนโอนเงินเดือนให้ และบอกสั้น ๆ ว่าพรุ่งนี้มีเรื่องซับซ้อนต้องคุยกัน แต่ไม่รู้ว่าเจ้านายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้และเป็นการสั่งเสียครั้งสุดท้าย
ในส่วนของคดี ตำรวจนำศพนางแคทเธอร์รีนไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลเกาะสมุย พร้อมแจ้งให้สถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยทราบ และจะเชิญคนงานและป้าติ๋มมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ แม้ในข้อความระบุว่าขโมยมา แต่ตำรวจยังต้องตรวจสอบอีกครั้งว่านำมาจากไหน