logo ถกไม่เถียง

ตร.เร่งล่าตัว! ฆาตกรปลิดชีพ 2 สามี-ภรรยาชาวไทยในไต้หวัน #ถกข่าวร้อน

ถกไม่เถียง : ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ กรณีคนร้ายก่อเหตุฆ่า 2 สามีภรรยา นำศพยัดใส่ท้ายรถและจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถสถานีรถไฟความเร็วสูง เถาหยวน ในไต ถกข่าวร้อน,ฆาตกรรมในไต้หวัน,สามีภรรยาชาวไทยถูกฆ่าในไต้หวัน,สาวท้องแฝดถูกฆ่า,ขัดแย้งเรื่องการกู้เงิน,คนไทยถูกฆ่าในไต้หวัน

328 ครั้ง
|
13 มิ.ย. 2565

ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ กรณีคนร้ายก่อเหตุฆ่า 2 สามีภรรยา นำศพยัดใส่ท้ายรถและจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถสถานีรถไฟความเร็วสูง เถาหยวน ในไต้หวัน โดยฝ่ายหญิงเป็นชาวไทยที่ได้สัญชาติไต้หวัน และตั้งครรภ์ 5 เดือน ส่วนสามีเป็นคนไทยมาจากอุบลราชธานี ขณะที่ผู้ก่อเหตุเป็นคนไทยที่ได้รับสัญชาติไต้หวัน และเป็นเพื่อนที่ผู้ตายไว้ใจ 

 

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีเข้ามาที่ประเทศไทย โดยทางตำรวจกองบังคับการกองการต่างประเทศ ได้รับการประสานขอความร่วมมือในการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ โดยได้พูดคุยเบื้องต้นกับผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจไต้หวันตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยหากมีการร้องขอให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุก็จะมีการพิจารณาติดตามจับกุมให้ในหลักต่างตอบแทน เนื่องจากไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน

 

ฆ่ายัดรถ

 

โดยสาเหตุของการเกิดเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญนี้ สันนิษฐานว่า เกิดจากความขัดแย้งในเรื่องการกู้เงินและผลประโยชน์ รวมถึงธุรกิจเกี่ยวกับจัดหาแรงงาน จนเป็นเหตุนําไปสู่การฆ่ากันเกิดขึ้น

 

ทางรายการ ถกข่าวร้อน ได้รับข้อมูลจากสำนักข่าวในประเทศไต้หวันหลายสำนัก เช่น Apple Online และ TTV News ระบุถึงไทม์ไลน์การก่อเหตุของ “สันติ” ซึ่งคาดว่าเป็นบุคคลที่ลงมือสังหาร 2 สามีภรรยาในประเทศไต้หวัน โดยข้อมูลที่เราได้รับระบุว่า

 

ฆ่ายัดรถ

 

วันที่ 8 มิ.ย.65

22.00 น. สองสามีภรรยา พร้อมด้วย “สันติ” ได้นัดเจรจาธุรกิจกันที่สถานที่แห่งหนึ่ง 

22.46 น. สันติได้ลงมือก่อเหตุฆาตกรรมสองสามีภรรยาในสถานที่ที่นัดเจรจาธุรกิจ ซึ่งขณะที่ก่อเหตุสันติ ได้สวมใส่เสื้อผ้าสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน

23.00 น.ครอบครัวของฝ่ายหญิงได้พยายามโทรติดต่อ และไปแจ้งความกับตำรวจ หลังเห็นว่าหายตัวไปนานผิดปกติ  

หลังจากนั้น ซึ่งไม่ระบุเวลาชัด สันติได้นำร่างของทั้งสองไปยัดไว้ในรถ BMW สีขาว ซึ่งคู่สามีภรรยาเพิ่งจะถอยมาใช้เมื่อช่วงต้นปี ในราคาประมาณ 3 ล้านบาทเศษ 

 

ฆ่ายัดรถ

 

วันที่ 9 มิ.ย.65

04.50 น. สันติ ได้ขับรถ BMW ไปจอดที่ลานจอดรถสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน โดยภาพวงจรปิดจับภาพของสันติใส่เสื้อผ้าสีแดง 

10.30 น. สันติเดินทางโดยแท็กซี่ไปที่สนามบิน ซึ่งมีภาพบันทึกว่า สันติ ได้สวมใส่เสื้อผ้าสีขาว ก่อนจะเดินทางออกนอกประเทศโดยสายการบิน STARLUX เที่ยวบิน JX741

 

ฆ่ายัดรถ

 

วันที่ 10 มิ.ย.65

08.00 – 09.00 น.พลเมืองดีได้กลิ่นคล้ายศพ และได้แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ 

ตำรวจพบศพของ 2 สามีภรรยา ถูกยัดไว้ภายในรถ BMW 

นอกจากนี้ ยังมีรายงานระบุว่า ในช่วงวันเวลาที่เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมนั้น ทางพี่สาวของผู้หญิงที่ถูกฆาตกรรม ได้โทรศัพท์หาสันติเพื่อสอบถามว่าพบตัวน้องสาวหรือไม่ โดยสันติ ตอบกลับไปว่า “ให้ลองไปหาที่ลานจอดรถสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวนสิ”

 

ด้านครอบครัวผู้เสียชีวิต จากเหตุฆาตกรรม 2 สามีภรรยาชาวไทยในไต้หวัน ล่าสุด นายยิ่งยศ อายุ 38 ปี พี่ชายของหญิงที่ถูกฆาตกรรม ได้เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจภูธรภาค 5 โดยมี พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนร่วมรับเรื่อง

 

นายยิ่งยศ เผยว่า อยากให้ตำรวจติดตามตัวนายสันติ คนร้ายที่ฆ่าน้องสาวและน้องเขย พร้อมลูกแฝดในท้อง หลังมีชาวบ้านแจ้งว่าหลบหนีกลับมาเมืองไทยและมีคนพบเห็นอยู่ที่บ้านเกิด บ้านใหม่หนองบัว จ.เชียงใหม่ จึงอยากให้เร่งตามตัวคนร้าย เพราะอำมหิตผิดมนุษย์ แล้วยังมาลอยนวลในพื้นที่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

ฆ่ายัดรถ

 

โดยน้องสาวและนายสันติ มีความสนิทกันมาก เพราะโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ก่อนที่น้องสาวจะสอบชิงทุนเรียนที่ไต้หวันตั้งแต่อายุ 16-17 ปี มีครอบครัวจนได้สัญชาติไต้หวัน ส่วนนายสันติ เพิ่งไปไต้หวันเมื่อ 2 ปี อีกทั้งยังไปอยู่ที่บ้านน้องสาวตนจนกระทั่งได้งานทำ ซึ่งทั้งสองสนิทกันมากถึงขั้นรู้รหัสประตูบ้านน้องสาวตนและให้ยืมสร้อยทองใส่ จนมาร่วมทำธุรกิจร่วมกัน 

 

ก่อนเกิดเหตุ น้องสาวโทรศัพท์มาปรึกษาหลังถูกแรงงานไทยคนหนึ่ง ขโมยเงิน 8 แสนบาท พร้อมสร้อยคอทองคำหนัก 15 บาท ไป เชื่อว่าสาเหตุที่นายสันติ ก่อเหตุครั้งนี้มาจากเรื่องเงินแน่นอน ทำให้คนในครอบครัวตกใจมาก ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแบบนี้ อีกทั้งคนที่ลงมือเป็นคนสนิทกันมาก เป็นญาติห่างๆกันด้วย ไม่คิดว่าจะมีจิตใจโหดเหี้ยมแบบนี้ได้ ส่วนศพของน้องคงจะทำพิธีที่ไต้หวันเลย วันที่ 16 มิ.ย.นี้ ก่อนนำอัฐิกลับมาทำบุญที่บ้านตามประเพณีอีกครั้ง

 

พล.ต.ต.วีรชน เปิดเผยว่า หลังรับเรื่องร้องทุกข์ได้ให้ทีมกฎหมาย ประสานงานหน่วยงานต่างๆ พร้อมประสานไปยังตำรวจไต้หวัน เพื่อรับทราบข้อมูลต่างๆ ทราบว่า ตัวคนร้ายที่หนีกลับมาประเทศไทยแล้วนั้นตอนนี้อยู่ที่ไหน แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีนอกราชอาณาจักร ต้องดูเรื่องสนธิสัญญาเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดน รวมทั้งทางตำรวจไต้หวันเอง ยังไม่มีการประสานเรื่องมาให้กับตำรวจไทย แต่เราก็จะเตรียมการทั้งหมดไว้ก่อน 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ทางชุด กก.4 บก.ป. ได้จัดชุดลงพื้นที่บ้านหนองบัว และพบข้อมูลว่า นายสันติ นั้นยังถือสัญชาติเมียนมา ไทย รวมถึงไต้หวัน หลังก่อเหตุได้กลับมาอยู่ที่บ้าน จากนั้นพอเป็นข่าว คาดว่าได้หลบหนีออกไปประเทศเมียนมาแล้ว

 
 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/Lj8TO12XVEs

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง