พ่อค้าร้านก๋วยเตี๋ยวริมคลองแห่งหนึ่ง ที่จ.ลพบุรี เดือดเจอลูกค้านักเลง ตะโกนถาม "ทำไมยังไม่ได้ก๋วยเตี๋ยวเลย นี่ลูกพี่ผมกินหมดไปสองชามแล้ว" พ่อค้าเลือดร้อน ตักน้ำร้อนลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวสาดเสริฟ์ลูกค้า จนเป็นแผลทั้งตัว
2 พฤษภาคม 2562 ช่วงประมาณเที่ยง ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดลพบุรี นายธารา แสงทองคำ อายุ 52 ปี ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ท่าหิน เข้าไปในสภาพที่ศีรษะ ใบหน้า ที่ไหล่ซ้าย ถูกน้ำร้อนลวกผิวหนังแดง มีผ้าพันแผลเต็มไปหมด และดวงตาข้างขวาเกือบบอด
ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพรับรถลูกค้าอยู่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองลพบุรี ก่อนเกิดเหตุมาแวะจอดกินก๋วยเตี๋ยวกับลูกพี่ (เจ้าของร้านอาหาร) ตอนแรกก็สั่งอาหารปกติ โดยลูกพี่กินก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อย 1 ชาม ส่วนตนเองสั่งก๋วยเตี๋ยวหมู 1 ชาม ด้วยความที่พ่อค้าแม่ค้าแยกหม้อกันทำ (หม้อก๋วยเตี๋ยวหมูฝั่งหนึ่ง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อฝั่งหนึ่ง) ลูกพี่ของตนก็กินหมดไปแล้ว 2 ชาม ตนเองยังไม่ได้ก๋วยเตี๋ยว มองว่ารอนานผิดปกติ จึงทักท้วงถามไปว่า "ทำไมยังไม่ได้ก๋วยเตี๋ยวเลย นี่ลูกพี่ผมกินหมดไปสองชามแล้ว" พอพูดออกไป ด้วยความที่ตนนั้นเป็นคนเสียงดัง ทำให้พ่อค้าที่กำลังทำก๋วยเตี๋ยวช่วยแม่อยู่หน้าร้านไม่พอใจ จึงตักน้ำลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวร้อน ๆ ในหม้อใส่ถ้วย แล้วสาดใส่ตนอย่างจัง น้ำร้อน ๆ ถูกใบหน้า และกระเด็นเข้าดวงตาได้รับบาดเจ็บ
ด้านผู้ก่อเหตุ นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ์ อายุ 45 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า วันนั้นมีลูกค้าในร้านหลายคน ก๋วยเตี๋ยวหมูที่ผู้เสียหายสั่งก็ต้องรอคิวอยู่ประมาณ 6-7 คิว ซึ่งแม่ของตนกำลังรีบทำให้ลูกค้า แต่จู่ ๆ ผู้เสียหายกลับพูดทักท้วงขึ้นมา คล้ายนักเลง จึงไม่พอใจบันดาลโทสะ ถือถ้วยน้ำลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวร้อน ๆ ไปสาดใส่ผู้เสียหาย ยอมรับทำไปเพราะอารมณ์ร้อน ประกอบกับตนเองไม่ชอบคนเสียงดัง และมีโรคประจำตัวเป็นโรคลมชัก มักจะโมโหง่าย จึงก่อเหตุไป ยอมรับรู้สึกผิดและขอโทษผู้เสียหายด้วย
ส่วน นางสำเนียง จีนเป็น อายุ 72 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ บอกว่า เธอเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวมา 20 ปี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย ยอมรับว่า ลูกชายมีอาการป่วยเป็นโรคลมชัก ต้องไปหาหมอประจำ ปกติก็จะช่วยตนเองขายก๋วยเตี๋ยว บางครั้งก็เกิดเป็นลมชักขณะทำก๋วยเตี๋ยว แต่ก็ไม่เคยทำร้ายใคร มาครั้งนี้คาดว่าลูกชายน่าจะเครียดเพราะลูกค้าเสียงดังโวยวาย จนควบคุมตัวเองไม่ได้ และได้ก่อเหตุลงไป
เบื้องต้น ผู้เสียหายเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000 บาท แต่ต่อรองลดเหลือ 30,000 บาท โดยทางผู้เสียหายก็ยินยอมตกลงรับเงินจำนวนดังกล่าว ส่วนเรื่องคดีความเป็นคดีอาญา ไม่สามารถยอมความได้ ผู้ก่อเหตุถูกดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป