หมอมนูญ ชี้ ถึงเวลาหยุดใช้ “ฟาวิพิราเวียร์” ในกลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรง แนะ “โมลนูพิราเวียร์” ประสิทธิภาพดีกว่า

       หมอมนูญ ยกเคสผู้ป่วย ย้ำเตือนไม่ฉีดเข็มกระตุ้น...ยังดีกว่าไม่ฉีดสักเข็ม ชี้ โมลนูพิราเวียร์ ประสิทธิภาพดีกว่า ถึงเวลาหยุดใช้ ยาฟาวิพิราเวียร์ ในกลุ่มเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง 

 

        เมื่อวันที่ 2 พ.ค.65 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการรักษาผู้ป่วยโควิด โดยเปรียบเทียบผู้ป่วยสูงอายุ 2 คน คนหนึ่งได้รับวัคซีนแอสตราเซนเนกา 2 เข็ม อีกคนหนึ่งไม่เคยรับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว ได้ยาโมลนูพิราเวียร์ เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการรุนแรงหลังติดเชื้อไวรัสโควิด-19

 

        ทั้งนี้พบว่า ผู้ป่วยชาย อายุ 74 ปี มีโรคความดันโลหิตสูง ต่อมลูกหมากโต ได้รับวัคซีนแอสตราเซนเนกา 2 เข็ม เข็มสุดท้ายเดือนมิ.ย. 64 ก่อนตรวจหาเชื้อผู้ป่วยเริ่มมีไข้ ไอ และเจ็บคอ 3 วัน ไม่เหนื่อย เมื่อผลตรวจพบติดเชื้อไวรัสโควิด RT-PCR เป็นบวก วันที่ 3 เม.ย.65 ระดับออกซิเจนในเลือดปกติ เอกซเรย์ปอดปกติ เริ่มยาโมลนูพิราเวียร์ 4 แคปซูล ทุก 12 ชั่วโมง ไข้ลง ไอ เจ็บคอดีขึ้น ไม่มีผลข้างเคียงจากยา หลังกินยาโมลนูพิราเวียร์ครบ 5 วัน สบายดี กลับบ้านได้ ติดตามอาการในอีก 2 สัปดาห์ ผลเอกซเรย์ปอดปกติ

 

        ส่วนผู้ป่วยชาย อายุ 77 ปี ปกติแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว ไม่เคยฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว ไอ มีเสมหะ 4 วัน ไม่มีไข้ ไม่เหนื่อย เมื่อวันที่ 11 เม.ย.65  ผล RT-PCR พบติดเชื้อไวรัสโควิด ระดับออกซิเจนในเลือดปกติ เอกซเรย์ปอดปกติ ค่าบ่งชี้ถึงการอักเสบในร่างกายปกติ hs-CRP 1.6 (ค่าปกติ 0-5) เริ่มให้ยาโมลนูพิราเวียร์วันที่ 12 เม.ย.65 อาการไอและเสมหะลดลง ไม่มีผลข้างเคียงจากยา หลังกินยาครบ 5 วันอาการดีขึ้น แต่วันที่ 18 เม.ย.65 หลังหยุดยาโมลนูพิราเวียร์ 1 วัน มีไข้ เจ็บคอ ตรวจพบค่าการอักเสบในร่างกายเพิ่มขึ้น hs-CRP 30.2 เอกซเรย์ปอดปกติ ระดับออกซิเจนในเลือดยังปกติ ได้ให้ยาสเตียรอยด์ 5 วัน อาการไข้ ระคายคอดีขึ้น ติดตามผู้ป่วยดีขึ้น เอกซเรย์ปอดปกติ

 

         หมอมนูญ ให้ข้อสรุปว่า การได้รับวัคซีน 2 เข็ม ถึงแม้จะยังไม่ได้เข็มกระตุ้น ดีกว่าไม่เคยรับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว  วัคซีนช่วยทำให้ผลการรักษาดีขึ้น ยาโมลนูพิราเวียร์ให้เร็วภายใน 5 วัน มีประสิทธิภาพช่วยป้องกันคนสูงอายุที่ยังไม่ได้วัคซีนเข็มแรก หรือได้รับ 2 เข็มยังไม่ได้เข็มกระตุ้น ไม่ให้ป่วยรุนแรง ป้องกันปอดอักเสบได้ ถึงเวลาแล้วที่แพทย์ไทยไม่ควรใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ในการรักษาผู้ป่วยโควิดที่มีความเสี่ยงสูงเกิดอาการรุนแรง เพราะเรามียาที่มีประสิทธิภาพดีกว่า