วันที่ 13 ก.พ. 65 ร.ต.อ.คเณศ งามประเสริฐ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในบ้านพัก ในพื้นที่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมือง สมุทรปราการ กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการ เดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ที่บริเวณชั้นล่างหน้าบันใดทางขึ้นชั้น 2 ได้พบร่างของนายเมธี อายุ 30 ปี ชาว จ.เชียงราย นอนจมกองเลือดอยู่ข้างเครื่องซักผ้ามีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณขมับซ้าย ทะลุกลางศีรษะ 1 นัด กลางหน้าอก 1 นัด และ ใต้รักแร้ข้างซ้ายอีก 1 นัด นอนหายใจรวยละลินอยู่กับพื้น โดยมีน.ส.สาวิตรี อายุ 37 ปี แฟนสาวนั่งกอดร่างร้องไห้อยู่ เจ้าหน้าที่กู้ชีพได้เร่งให้การช่วยเหลือก่อนเร่งนำส่งรักษาที่ รพ.สมุทรปราการ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนปืนขนาด .38 ตกอยู่จำนวน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าชื่อ นายเลิศชาย อายุ 40 ปี ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ที่ปากซอยสายลวดซอย 8 หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีไป
จากการสอบถาม น.ส.ณัฐธิณี อายุ 23 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้าน ได้เล่าว่า ผู้เสียชีวิตและภรรยาไม่ได้พักบ้านที่เกิดเหตุ แต่มาขอใช้เครื่องซักผ้า โดยขณะเกิดเหตุ น.ส.สาวิตรี และผู้เสียชีวิตได้มาขอใช้เครื่องซักผ้า และในระหว่างที่น.ส.สาวิตรี และผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นแฟนใหม่กำลังช่วยกันซักเสื้อผ้า ตนก็ได้ยินเสียงผู้เสียชีวิตทะเลาะอยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่งอยู่พักใหญ่ ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นนายเลิศชาย ผู้ก่อเหตุ ก่อนที่เสียงจะเงียบหายไป ตนจึงไม่คิดอะไร คิดว่าเรื่องน่าจะจบลงแล้ว แต่ต่อมาอีกพักใหญ่ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 3 นัด ตนจึงได้วิ่งลงมาดู ก็เห็นนายเลิศชาย ผู้ก่อเหตุยืนถือปืนลูกโม่ขนาด .38 สีดำ อยู่ในมือ โดยที่ผู้ตายนอนจมกองเลือดอยู่กับพื้น ก่อนที่นายเลิศชาย จะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางปากซอย หลังตั้งสติได้ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ภัยที่เป็นเพื่อนกันให้มาช่วยนำผู้ตายส่งโรงพยาบาล
ขณะที่ นางแดง อายุ 71 ปี แม่นของ น.ส.สาวิตรี ได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวตนกับนายเลิศชาย เคยเป็นสามีภรรยากันมาหลายปี มีลูกด้วยกัน 2 คน อายุ 19 และ 21 ปี ก่อนที่จะมาแยกทางกันเมื่อประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา โดยลูกทั้งสอง นายเลิศชาย เป็นคนเอาไปเลี้ยง ส่วนลูกสาวตน หลังจากที่แยกทางกับนายเลิศชาย ก็มาคบกับผู้เสียชีวิต และแยกไปเช่าห้องพักอยู่ด้วยกันไม่ไกลจากบ้านที่เกิดเหตุ โดยก่อนเหตุเตนเห็นลูกสาวและผู้เสียชีวิเอาเสื้อผ้ามาซักที่บ้าน ก่อนที่นายเลิศชาย จะตามเข้ามาคุยกันอยู่พักใหญ่ และเดินขี่รถจักรยานยนต์ออกไป ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์กลับเข้ามา และเดินเข้าไปยิงผู้เสียชีวิต 3 นัดซ้อน และหลบหนีไปอย่างใจเย็น
ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมตัวนายเลิศชาย ผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ ขณะที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกมาทางถนนสายลวดห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนคุมตัวมาทำการสอบสวนที่โรงพักพร้อมด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ที่ใช้ก่อเหตุ โดยนายเลิศชายให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุดังกล่าวจริงเนื่องจากคับแค้นใจ ที่ผู้เสียชีวิตมาแอบคบกับภรรยาตน จนเป็นเหตุให้ภรรยาต้องมาแยกทางกับตน
ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ นายเลิศชาย อ้างว่าเก็บได้มาจากงานเจดีย์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและยิงปืนในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม