logo ถกไม่เถียง

“เมียหลวง” ท้องแก่ สะกดรอยผัว เจอภาพบาดตา บุกตื้บ “เมียน้อย” ดับ แม่โต้อีกมุม !

ถกไม่เถียง : โซเชียลถกเดือด ! เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร “เมียเก่า” ท้องแก่ จับได้ว่าสามีแอบนอกใจ พาหญิงสาวเข้ารีสอร์ต โมโหเลือดขึ้นหน้า ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,เมียหลวง,เมียน้อย,เมียเก่า,เมียใหม่,สามี,ภรรยา,สะกดรอย,ภาพบาดตา,โมโห,กดดัน,แค้น,แฟน,ความสัมพันธ์,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,ติดคุก,ท้องแก่,โสด,เครียด,อวัยวะสำคัญ,คนท้อง,รีสอร์ต,เลือดขึ้นหน้า

424 ครั้ง
|
21 เม.ย. 2568
โซเชียลถกเดือด ! เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร “เมียเก่า” ท้องแก่ จับได้ว่าสามีแอบนอกใจ พาหญิงสาวเข้ารีสอร์ต โมโหเลือดขึ้นหน้า บุกกระทืบ “เมียใหม่” เสียชีวิต
 
วันที่ 21 เม.ย. 68 คุณ รศ. นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า อารมณ์แปรปรวนกับพฤติกรรมรุนแรงมันต่างกัน และไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนของคนท้อง ถ้าทำร้ายด้วยการกระทืบบริเวณศีรษะอาจทำให้คอหักและเสียชีวิตได้ทันที แต่ถ้าเป็นการกระแทกจากบริเวณด้านหน้า จมูก ขมับ โหนกแก้ม บริเวณนี้ก็อาจจะมีโอกาสแตกหักได้ ด้านในสมองอาจมีอาการบาดเจ็บได้
 
 
 
ถกไม่เถียง : “เมียหลวง” ท้องแก่ สะกดรอยผัว เจอภา
 
กรณีในคลิป กระดูกซี่โครงหักแน่นอน ถ้ากระแทกบริเวณหัวใจโดยตรง อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะและเสียชีวิตได้เลย เพราะฉะนั้นจุดที่กระทำเป็นตำแหน่งอวัยวะที่สำคัญทั้งสิ้น มีโอกาสทำให้เสียชีวิตได้ทั้งสิ้น การใช้ความรุนแรงต่อเนื่องโดยที่ผู้ถูกกระทำไม่ได้ตอบโต้ และไม่มีโอกาสป้องกันตัวเอง การกระทำในจุดสำคัญซ้ำ ๆ กระทำโดยความรุนแรง มีโอกาสเสียชีวิต ต่อให้ส่งโรงพยาบาลทันก็มีโอกาสเสียชีวิตเช่นกัน
 
 
 
ด้าน รศ. พ.ต.ท. ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต ให้ความเห็นว่า ไม่ทราบเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทั้งหมด และไม่ทราบว่าบุคคลสามคนนี้มีการพูดคุยกันมากน้อยเพียงใด แต่ตามคลิปที่มีผู้หญิงคนหนึ่งทำร้ายผู้หญิงอีกคนหนึ่งด้วยความรุนแรง พฤติกรรมการใช้ความรุนแรงของแต่ละคนแตกต่างกัน ในมุมของเมียหลวงตั้งครรภ์กับผู้ชาย อาจจะรู้สึกเครียด กดดัน โมโห แค้น จนเกิดบันดาลโทสะ ทำให้เข้าไปทำร้ายร่างกายอีกฝ่าย แต่การทำร้ายจนเสียชีวิตมันจำเป็นถึงขนาดนั้นหรือไม่ ?
 
ถกไม่เถียง : “เมียหลวง” ท้องแก่ สะกดรอยผัว เจอภา
 
พฤติกรรมการใช้ความรุนแรงของแต่ละคนแต่ละครอบครัวต่างกัน มีดังนี้ 1. การอบรมเลี้ยงดู 2. สภาพแวดล้อม 3. ปัจจัยอื่น ๆ เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้มีมากน้อยเพียงใดกับบุคคลนี้ ที่ผู้ชายไม่ออกมาห้ามอาจจะรู้นิสัยของภรรยาตัวเอง และอาจคิดว่าเรื่องคงไม่ถึงกับทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต แต่ก็ต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกที
 
เอ (นามสมมติ) เพื่อนของผู้เสียชีวิต เล่าว่า เพื่อนของตนรู้แค่ว่าผู้ชายเลิกกับแฟนแล้ว เพิ่งเลิกกับแฟนได้ประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ตนถามต่อหน้าและได้ยินกับหูตัวเองว่าผู้ชายบอกว่าไม่มีแฟนเลิกกับแฟนแล้ว เมื่อรู้ว่าโสดเพื่อนของตนก็คุยกับผู้ชายคนนี้มาเรื่อย ๆ โดยที่ฝั่งของเพื่อนตนเข้าใจว่าเขาโสด แต่เพื่อนของตนไม่โสดมีพ่อของลูกแล้ว เขาอยู่กับความสัมพันธ์แบบพ่อ แม่ ลูก
 
ถกไม่เถียง : “เมียหลวง” ท้องแก่ สะกดรอยผัว เจอภา
 
ตนได้มีโอกาสคุยกับแฟนเพื่อนแล้ว เขาต้องการที่จะเอาผิดคนทำ ด้านแม่ของเพื่อนตนทราบแล้วว่าเพื่อนตนไปคุยกับผู้ชายอีกคน ตนจะเป็นพยานให้ปากคำในเรื่องที่ตนรู้ ตนเป็นเพื่อนกับผู้เสียชีวิตมา 20 ปี เขาเป็นคนนิสัยดี แต่บางทีก็มีการใช้คำพูดที่ไม่ดีบ้าง แต่เป็นคนตรงไปตรงมา อยากบอกว่าเพื่อนตนไม่ได้เป็นเมียน้อย ตนมีหลักฐานเป็นแชตที่อยู่ในโทรศัพท์ของผู้ตาย
 
ด้าน สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นด้านกฎหมายว่า เข้าใจความรู้สึกของภรรยาที่ท้อง แต่แทนที่ตัวเองจะระงับโทสะโดยใช้สิทธิตามกฎหมายในการฟ้องหย่ากับสามี หรือฟ้องชู้ แต่เลือกที่จะไปทำร้ายฝ่ายหญิงอีกคน ดังนั้นการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำที่ทารุณ โหดร้าย ดังนั้นตำรวจต้องตั้งข้อหา ผู้ใดไม่ได้มีเจตนาฆ่าแต่ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย มีโทษจำคุก 3 ถึง 15 ปี แต่จะไปเข้าวรรคท้าย ตาม 289 คือฆ่าผู้อื่นด้วยวิธีทารุณโหดร้าย ดังนั้นโทษจะเป็นจำคุก 3 ปี ถึง 20 ปี ตาม 290 วรรคท้าย
 
ถกไม่เถียง : “เมียหลวง” ท้องแก่ สะกดรอยผัว เจอภา
 
ด้านผู้ชายจะลอยตัวไม่ได้ เพราะเรื่องนี้มีพยานบุคคล ตัวแม่ของผู้ตายสามารถเรียกร้องค่าเสียหายทางละเมิดได้ เพราะถือว่าฝ่ายชายเป็นตัวต้นเหตุ ให้แม่ผู้เสียชีวิตฟ้องร้องทางแพ่ง กรณีเพื่อนเมียหลวงโดนตบถ่ายคลิปและมีการห้าม ในกรณีนี้อาจจะได้ลดโทษ
 
เต้ย (นามสมมติ) แฟนของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนไปมาหากันในฐานะของพ่อกับแม่ ตนไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับแฟน และตนมีอิสระที่จะไปพูดคุยกับหญิงอื่นแต่ตนก็ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น ตนไม่ทราบว่าแฟนของตนไปคุยกับผู้ชายคนอื่น ตนไม่ทราบถึงการมีอยู่ของผู้ชายคนนี้ ด้านแม่ของแฟนก็จะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด
 
ด้าน พ.ต.อ. สมโภช ทองมูล ผกก.สน.มีนบุรี เล่าว่า ตอนนี้ตนมีสอบปากคำผู้ดูแลรีสอร์ต และญาติของผู้ต้องหา จากการสอบถาม ผู้ก่อเหตุให้การว่า เขากับสามีอยู่กันมาเกือบปี มีลูกที่ท้องได้ 8 เดือน ส่วนภรรยาน้อยเพิ่งทราบว่าคบกันเมื่อสงกรานต์ ต่อมาเขาก็บอกสามีให้เลิกแต่สามียังไม่รับปาก เขาจึงโทรไปหาเมียน้อยว่าให้เห็นใจตน จนมาวันที่เกิดเหตุ เขาติดต่อสามีไม่ได้จึงคิดว่าน่าจะอยู่กับภรรยาน้อย จึงเกิดเหตุตามคลิป
 
เขาไปถามพนักงานต้อนรับ แจ้งว่าผู้ชายให้เอาสายชาร์จโทรศัพท์มาให้ พนักงานต้อนรับคิดว่ามีเหตุจำเป็นจึงบอกไปว่าอยู่ห้องไหน ด้านข้อมูลผู้ชายที่ตนสอบถามมา เขาบอกภรรยาหลวงว่าขอมีสองคน กับคนแรกยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส ตอนนี้แจ้งความหาผู้ก่อเหตุ ว่าทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แจ้งข้อหาเดียวเพราะว่าไม่มีอาวุธ ตอนนี้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ที่ห้องขัง
 
บังอร (นามสมมติ) แม่ของผู้เสียชีวิต ตนกังวลเรื่องความเป็นธรรมของลูก ผู้ปกครองฝ่ายผู้ก่อเหตุไม่มีมาพูดคุยกับตน ตนเสียใจอยากรู้ว่าทำไมถึงมาทำกับลูกตนขนาดนี้ จิตใจทำด้วยอะไร เพราะตัวเองก็ท้องอยู่ สามีของลูกเขาก็ช่วยแต่มันก็ไม่เพียงพอกับชีวิตลูกของตน ฝ่ายชายเขาก็ยอมรับว่าเขาคือต้นเหตุ เขาบอกว่าเพิ่งคบกับลูกของตนได้ 1 อาทิตย์ จากที่ตนเห็นคลิปตนยอมรับไม่ได้ อีกคนยืนถ่ายคลิป อีกคนก็นอนอยู่ในห้องไม่มาช่วย ยังไม่ได้คุยกับฝ่ายชายว่าทำไมถึงไม่ออกมาช่วย ตนยืนยันว่าลูกของตนไม่ใช่เมียน้อย
 
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น.  ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/6r8s8Yh7lkg?si=M3yPw2FrqfJPig7b